การกำหนดปริมาณการสั่งซื้อที่เหมาะสม กรณีศึกษา บริษัทจำหน่ายข้อต่อท่อ
 
    
    Determination of purchasing quantity : a case study of pipe fitting company
 			  
			  
    
    Abstract:
     วิทยานิพนธ์ฉบับนี้ได้ศึกษาปัญหาของบริษัทจำหน่ายข้อต่อท่อ (Pipe fitting) โดยพบว่าในปี พ.ศ. 2562 มีจำนวนรอบของอัตราการหมุนเวียนของสินค้าคงเหลืออยู่ที่ 3 รอบ ซึ่งปัจจัยที่ส่งผลคือ ปริมาณสินค้าคงคลังที่สูง ดังนั้นการวางแผนการสั่งซื้อในปริมาณให้เหมาะสมกับช่วงเวลาจึงสามารถช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ งานวิจัยนี้ได้นำเสนอวิธีการหาปริมาณคำสั่งซื้อที่เหมาะสมด้วยตัวแบบทางคณิตศาสตร์สำหรับสินค้าคงคลังที่มีโครงสร้างแบบระดับเดียว สั่งซื้อหลายชนิดพร้อมกันและไม่มีข้อจำกัดด้านทรัพยากรกรณีมีเงื่อนไขเปอร์เซ็นต์ส่วนลดที่ 20% ของมูลค่าสินค้า หากมูลค่ารวมสินค้าที่สั่งซื้อมียอดถึง 4,000,000 บาท โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อคำนวณหาปริมาณการสั่งซื้อที่ทำให้เกิด ต้นทุนรวมในการจัดการสินค้าคงคลังต่ำที่สุด ผู้วิจัยได้ทำการศึกษาการจัดเก็บสินค้าคงคลังของบริษัท กรณีศึกษา ด้วยการเก็บรวบรวมข้อมูลการจัดเก็บสินค้าคงคลังและยอดขายสินค้าย้อนหลัง 144 สัปดาห์ มีรายการสินค้าที่ทำการเก็บข้อมูลจำนวณ 385 รายการ จากนั้นนำข้อมูลที่ได้จากการจัดเก็บมาทำการแบ่งกลุ่มด้วยวิธี ABC classification โดยมีสินค้าที่อยู่ในกลุ่ม A ทั้งหมด 26 รายการ กลุ่ม B มีทั้งหมด 80 รายการ และ กลุ่ม C มีทั้งหมด 279 รายการ จากนั้นนำสินค้าที่อยู่ในกลุ่ม A ที่ 10 อันดับแรก มาคำนวณหาปริมาณสินค้าคงคลังสำรอง และคำนวณหาปริมาณการสั่งซื้อ โดยกำหนดระยะเวลาในการคำนวณที่ 12 สัปดาห์ ผลการวิจัยพบว่า วิธีการสั่งซื้อที่นำเสนอสามารถทำให้ต้นทุน รวมในการจัดการสินค้าคงคลังอยู่ที่ 55,178,274 บาท ในขณะต้นทุนรวมในการจัดการสินค้าคงคลังที่เกิดขึ้นจริงในปัจจุบันอยู่ที่ 72,306,407 บาท ซึ่งสามารถลดต้นทุนรวมในการจัดการสินค้าคงคลังได้ถึง 17,128,133 บาท หรือคิดเป็น 24 เปอร์เซ็นต์       
    
 
            		
    
    
     สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง. สำนักหอสมุดกลาง       
    
 
            		
    
    Email:
     Lifelong@kmitl.ac.th       
    
 
            			  
			  
    
    Role:
     อาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์       
    
 
            		
    
    ©copyrights สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง