ความเป็นไปได้ทางการเงินในการเพิ่มการอบข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในโรงงานลำไยอบแห้ง

Financial feasibility of maize drying addition in dried longan factory

Name: วัชราภรณ์ จำปา

ThaSH: โรงงานลำไยอบแห้ง

ThaSH: ข้าวโพด -- การอบแห้ง

ThaSH: เกษตรกรรม -- แง่เศรษฐกิจ

Abstract: การศึกษาเรื่องความเป็นไปได้ทางการเงินในการเพิ่มการอบข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในโรงงานลำไยอบแห้ง มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาขั้นตอนกระบวนการทำงานของโรงงานลำไยอบแห้ง 2) ศึกษาการลงทุนและรายได้เมื่อมีการเพิ่มการอบข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในโรงงานลำไยอบแห้งและ 3) วิเคราะห์ความเป็นไปได้ทางการเงินในการเพิ่มกิจกรรมการอบข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในช่วง 8 เดือนที่ปลอดกิจกรรมการทำลำไยอบแห้งโดยใช้ข้อมูลจากการสัมภาษณ์เชิงลึกกรณีศึกษาจำนวน 1 ราย คือ โรงงานลำไยอบแห้งแห่งหนึ่ง ตำบลท่าวังพร้าว อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ที่มีการดำเนินธุรกิจผลิตลำไยอบแห้งโดยใช้เครื่องจักรระบบใช้ความร้อนรวมศูนย์ที่สามารถรองรับพืชผลทางการเกษตรได้หลายชนิด โดยอธิบายเชิงพรรณนาเกี่ยวกับกระบวนการทำงานของลำไยอบแห้ง และอธิบายเชิงปริมาณตามการประเมินความเป็นไปได้ทางการเงินโดยวิเคราะห์หาระยะเวลาคืนทุน มูลค่าปัจจุบันสุทธิ อัตราส่วนของผลตอบแทนต่อต้นทุน และอัตราผลตอบแทนภายในโครงการภายใต้ข้อจำกัดให้ผลิตเต็มกำลังการผลิตของเครื่องจักร โดยใช้อัตราคิดลดเท่ากับ 5.215 และกำหนดอายุโครงการการเท่ากับ 20 ปีและการวิเคราะห์ความอ่อนไหวของโครงการโดยการทดสอบค่าความแปรเปลี่ยนด้านต้นทุนและด้านรายได้ ผลการศึกษาพบว่า ขั้นตอนกระบวนการผลิตในการผลิตลำไยแห้ง เครื่องจักรบางส่วนสามารถใช้งานในกระบวนการลดความชื้นข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ได้แก่ ห้องอบ และหม้อต้ม ซึ่งปริมาณการผลิต 1 ห้องอบ สามารถรองรับน้าหนักข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ได้ 10 ตัน มีจำนวนห้องทั้งหมด 20 ห้อง ซึ่งใช้วัตถุดิบข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่มีความชื้น 28-32 ต่อรอบการอบ (2 วัน) เท่ากับ 9,000 ตันต่อ ระยะเวลาการผลิต 90 วันซึ่งเป็นกำลังการผลิตที่เป็นไปได้สูงสุด ส่วนการผลิตจริงที่เป็นไปได้มากที่สุดจะอยู่ที่ 3,000 ตัน/ปี โดยใช้ห้องอบจำนวนเพียง 6 ห้อง สาหรับผลการศึกษาการลงทุนและรายได้เมื่อมีการเพิ่มการอบข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในโรงงานลำไยอบแห้ง โดยการวิเคราะห์เปรียบเทียบผลต่างของต้นทุนและรายรับกรณีที่ 1 การผลิตลำไยแห้งอย่างเดียวกับกรณีที่ 2 การอบลำไยแห้งและอบข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และนำมาวิเคราะห์หาต้นทุนส่วนเพิ่มและรายรับส่วนเพิ่ม พบว่า ต้นทุนส่วนเพิ่มในปีที่ 0 เท่ากับ 2.14 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินลงทุนที่ต้องลงทุนเริ่มแรกเพิ่มขึ้น และในปีที่ 1-20 มีต้นทุนส่วนเพิ่มเท่ากับ 61.77 – 102.91 ล้านบาทรวม 20 ปี มีต้นทุนส่วนเพิ่มเท่ากับ 1,648.29 ล้านบาท ในส่วนรายรับส่วนเพิ่มในปีที่ 1-20 มีรายได้ส่วนเพิ่มเท่ากับ 78.69 – 153.24 ล้านบาท รายรับรวม 20 ปี มีรายได้ส่วนเพิ่มเท่ากับ 2,189.89 ล้านบาท ดังนั้นรายรับส่วนเพิ่มสุทธิ ในปีที่ 1-20 เท่ากับ 16.93 – 36.27 ล้านบาท รายรับส่วนเพิ่มสุทธิรวมทั้งหมด 20 ปี เท่ากับ 541.60 ล้านบาท ผลการวิเคราะห์ความเป็นไปได้ทางการเงินในการเพิ่มกิจกรรมการอบข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในโรงงานลำไยอบแห้งในระดับการใช้วัตถุดิบข้าวโพด 9,000 ตันตามกำลังการผลิตที่เป็นไปได้สูงสุด พบว่า มีระยะเวลาในการคืนทุน 46.15 วัน มูลค่าปัจจุบันสุทธิเท่ากับ 316.48 ล้านบาท อัตราส่วนของผลตอบแทนต่อต้นทุนเท่ากับ 1.33 เท่า อัตราผลตอบแทนภายในโครงการเท่ากับร้อยละ 796.91 แสดงว่าโครงการเพิ่มการอบข้าวโพดในโรงงานลำไยอบแห้งมีความเป็นไปได้อย่างสูง และเมื่อทาการวิเคราะห์ความอ่อนไหว โดยการทดสอบค่าความแปรเปลี่ยน ก็พบว่า ต้นทุนส่วนเพิ่มในการดำเนินงานสามารถเพิ่มขึ้นได้มากที่สุดถึงร้อยละ 32.86 รายได้ส่วนเพิ่มจากการขายข้าวโพดเลี้ยงสัตว์สามารถลดลงได้มากที่สุดถึงร้อยละ 24.69 ซึ่งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวแสดงว่าโครงการมีความเสี่ยงในการลงทุนในระดับต่ำ นอกจากนี้ เมื่อมีการลดปริมาณการผลิตการอบข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ตามความสามารถการผลิตจริง (ใช้วัตถุดิบข้าวโพดจำนวน 3,000 ตัน) โครงการยังคงมีความคุ้มค่า กล่าวคือ มีระยะคืนทุนเท่ากับ 82.15 วัน มีมูลค่าปัจจุบันสุทธิเท่ากับ 105.60 ล้านบาท ค่าอัตราส่วนต้นทุนต่อรายรับเท่ากับ 1.33 และอัตราผลตอบแทนภายในเท่ากับร้อยละ 450.36 และมีความเสี่ยงน้อย (มีค่าความแปรเปลี่ยนด้านต้นทุนเท่ากับร้อยละ 32.89 และค่าความแปรเปลี่ยนด้านรายรับเท่ากับร้อยละ 24.68) จากเกณฑ์การตัดสินใจดังกล่าวถือว่าโครงการเพิ่มกิจกรรมการอบข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในโรงงานลำไยอบแห้งมีความเป็นไปได้ในการลงทุน ผลที่ได้จากการศึกษาข้างต้นชี้ให้เห็นว่า ข้อเสนอแนะการเพิ่มรายได้ให้กับโครงการ ยังสามารถเพิ่มกิจกรรมอบพืชชนิดอื่นได้ เนื่องจากกิจกรรมการอบข้าวโพดเลี้ยงสัตว์สามารถเพิ่มการใช้งานเครื่องจักรได้เพียง 3 เดือน จากช่วงที่เครื่องจักรว่างทั้งหมด 8 เดือนและการลดต้นทุนค่าเชื้อเพลิงโดยใช้วัตถุดิบเชื้อเพลิงที่เหลือใช้ชนิดอื่นมาทดแทน ทั้งนี้เพื่อให้มีการใช้เครื่องจักรเต็มประสิทธิภาพและมีผลตอบแทนสูงที่สุด

Abstract: This study aims to (i) study longan drying process (ii) analyze the investment performance when maize drying process is added into dried longan factory and (iii) analyze the financial feasibility of adding dried maize process within 8 month when the dried longan period was terminated. The case study was conducted at a dried longan factory located in Tawangprow Sun-district, San Pa Tong District, Chiang Mai Province. This factory uses centralized heating system process that could also dry other agricultural products. Data collection was conducted by in-depth interviews and from official government statistics and reports. Financial feasibility analysis of the drying process has been conducted using financial investment indicators such as payback period, the net present value (NPV), the benefit-cost ratio (B/C ratio), and the internal rate of return (IRR). The analysis assumed full capacity of production with determined 5.215 percent discount rate and 20 years of project period, where maize drying addition was applied. Additionally, the sensitivity analysis by switching value test of cost (SVTc) and switching value test of benefit (SVTb) was also conducted. The equipment within longan drying process which can be used also for maize drying addition are the oven chamber and the boiler. In maximum capacity, the 20 of oven chambers can process up to 9,000 tons of maize (with 28% – 38% moisture level) during the drying period (90 daysper year). At Most likely existing capacity, 3,000 tons of maize can be processed using 6 oven chambers. Comparative study between only dried longan processing (without project) and the maize drying addition (with project) was conducted by analyzing the incremental cost and benefit of maize drying process at the maximum and most likely capacity. The findings show that the current values of (i) the incremental costs for maize drying processing at the maximum capacity were 2.14 million baht of the initial investment and 1,648.29 million baht of the operational cost (ii) the incremental benefits was 2,189.89 million baht and (iii) the total incremental net benefit during in with project was 541.60 million baht. Moreover, the annual incremental benefit throughout project period, from 1st year to the 20th year, was calculated to range from 16.93 to 36.27 million baht with the annual incremental cost amounting from 61.77 to 102.91 million baht. Therefore, the annual incremental net benefit ranges from 78.69 to 153.23 million baht between the 1stto the 20thyear of project period. Financial feasibility of the maize drying process addition in dried longan factory depends on the utilized capacity of maize processing. In maximum capacity, 9,000 tons of maize per year, the payback period was found to be 46.15 days, with 316.48 million baht of NPV, 1.33 of B/C ratio and 796.91% of IRR with considerably low risk on the investment demonstrated by32.86% of the SVTc and 24.69% of the SVTb (if SVTc and SVTb were large mean low risk on investment). In actual capacity by processing at 3,000 tons of maize, it was found that the payback period increased to 82.15 days, with 105.60 million baht of NPV, 1.33 of B/C ratio and 450.36% of IRR with low risk by 32.89% of SVTc and 24.68 SVTb. The overall analysis revealed that the maize drying addition in dried longan factory has high financial feasibility on investment. Based on the above findings, it is suggested that the dried longan factory should focus on two areas. On the first area, the factory should find some other alternative agricultural products which could also utilize drying process in this factory as it has been shown in this study through adding maize drying into. The second area, could be addressed by considering alternative fuel to reduce fuel costs.

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. สำนักหอสมุด

Address: เชียงใหม่

Email: cmulibref@cmu.ac.th

Name: อารีย์ เชื้อเมืองพาน

Role: ประธานกรรมการ

Name: อารี วิบูลย์พงศ์

Role: กรรมการ

Name: กมล งามสมสุข

Role: กรรมการ

Created: 2559

Modified: 2565-11-18

Issued: 2565-11-18

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

tha

DegreeName: วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: ธุรกิจเกษตร

Grantor: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

©copyrights มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	550832061.pdf	2.96 MB	3	2025-05-26 22:24:06

ใช้เวลา

0.023335 วินาที