การศึกษาประสิทธิผลการลดไขมันในเลือดด้วยซินไบโอติก ในพนักงานประจำสำนักงานที่มีภาวะน้ำหนักตัวเกิน
The Efficacy of synbiotic supplementation on lipid profile in overweight office workers
efficacy of synbiotic supplementation on lipid profile in overweight office workers
Abstract:
จุลินทรีย์ทั้งหมดในร่างกายรวมเรียกว่า ไมโครไบโอต้า (Microbiota) เป็นสิ่งที่มีบทบาทสำคัญต่อระบบต่าง ๆ ในร่างกายของมนุษย์มาก ข้อมูลจากหลายการศึกษาพบว่าผู้ที่มีน้ำหนักตัวเกิน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่มีระดับของกิจกรรมทางกายต่ำ มีการเคลื่อนไหวระหว่างวันน้อย เช่น ผู้ที่ประกอบอาชีพพนักงานประจำสำนักงาน จะมีภาวะไม่สมดุลของไมโครไบโอต้าหรือที่เรียกว่า dysbiosis ซึ่งอาจนำไปสู่การมีระดับไขมันในเลือดผิดปกติ ที่เป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดตามมา การปรับปรุงสมดุลของระบบจุลินทรีย์ในร่างกายให้ดีขึ้น จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยแก้ไขภาวะต่าง ๆ เหล่านี้ได้
วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาประสิทธิผลของซินไบโอติกที่มีต่อการลดระดับไขมันในเลือด (lipid profile) และการลดน้ำหนักตัวของผู้ที่ประกอบอาชีพพนักงานประจำสำนักงานในกรุงเทพฯทั้งเพศชายและหญิง อายุระหว่าง 35-50 ปี และมีน้ำหนักตัวเกินคือมีค่าดัชนีมวลกายมากกว่าหรือเท่ากับ 23 กิโลกรัม/ตารางเมตร
วิธีดำเนินการวิจัย: การศึกษาทำโดยแบ่งอาสาสมัครเป็น 2 กลุ่มด้วยวิธีการสุ่ม (Randomized controlled trial) แล้วเจาะเลือดทั้งก่อนและหลังการทดลอง เพื่อตรวจวัดระดับคอเลสเตอรอลรวม (Total Cholesterol, TC) ไตรกลีเซอไรด์ (Triglyceride, TG) แอลดีแอล (LDL) เอชดีแอล (HDL) และชั่งน้ำหนักตัว โดยกลุ่มหนึ่งให้รับประทานซินไบโอติก 3,000 มิลลิกรัม มีส่วนประกอบสำคัญคือ จุลินทรีย์โปรไบโอติก Lactobacillus acidophilus 2.1 x 1011 ซีเอฟยู/กรัม (CFU/g) และ Bifidobacterium animalis subsp. lactis 5.2 x 1011 ซีเอฟยู/กรัม (CFU/g) ผสมรวมกับพรีไบโอติก Xylo-Oligosaccharides (XOS 35P Powder) 600 มิลลิกรัม, Galacto-oligosaccharide 73% 600 มิลลิกรัม, Fructo-oligosaccharide Powder 95% 500 มิลลิกรัม ส่วนอีกกลุ่มรับประทานอาหารเสริมหลอก (placebo) โดยทั้ง 2 กลุ่มรับประทานก่อนมื้ออาหารประมาณ 20 นาที ครั้งละ 1 ซอง วันละ 3 ครั้ง ทุกวันเป็นระยะเวลา 12 สัปดาห์
ผลการทดลอง: อาสาสมัครที่เข้าร่วมงานวิจัยนี้จนครบ 12 สัปดาห์ มีจำนวนทั้งหมด 24 คน จากทั้ง 2 กลุ่ม ๆ ละ 12 คน การเปรียบเทียบข้อมูลภายในกลุ่มเดียวกันพบว่า กลุ่มทดลองที่รับประทานซินไบโอติก มีการลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติของค่าเฉลี่ยระดับแอลดีแอล (LDL) (p = 0.003) และน้ำหนักตัว (p = 0.002) แต่ไม่พบการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญของค่าเฉลี่ยระดับไตรกลีเซอไรด์ (Triglyceride, TG) และเอชดีแอล (HDL) ส่วนกลุ่มที่รับประทานอาหารหลอกกลับมีการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของค่าเฉลี่ยระดับคอลเลสเตอรอลทั้งหมด (Total Cholesterol, TC) (p = 0.041) ไตรกลีเซอไรด์ (Triglyceride, TG) (p = 0.010) และแอลดีแอล (LDL) (p = 0.05) เมื่อนำผลการเปลี่ยนแปลงของทั้ง 2 กลุ่มมาเปรียบเทียบกัน ก็พบว่ากลุ่มที่รับประทานซินไบโอติกมีการลดลงของระดับคอเลสเตอรอลทั้งหมด (Total Cholesterol, TC) แอลดีแอล (LDL) และน้ำหนักตัวมากกว่ากลุ่มที่ได้รับอาหารหลอกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p = 0.012, p < 0.001 และ p < 0.001 ตามลำดับ) แต่ไม่พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญของการเปลี่ยนแปลงระดับไตรกลีเซอไรด์ (Triglyceride, TG) และเอชดีแอล (HDL)
สรุปผลการวิจัย: การรับประทานซินไบโอติกอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 12 สัปดาห์ในกลุ่มพนักงานประสำนักงาน อายุระหว่าง 35-50 ปี ที่มีน้ำหนักตัวเกินและมีระดับไขมันในเลือดผิดปกติ
มีผลต่อการลดระดับคอเลสเตอรอลทั้งหมด (Total cholesterol, TC) แอลดีแอล (LDL) และน้ำหนักตัว และอาจช่วยป้องกันการเพิ่มขึ้นของระดับไตรกลีเซอไรด์ (Triglyceride, TG) แต่ไม่มีผลอย่างชัดเจนต่อการเปลี่ยนแปลงของระดับเอชดีแอล (HDL)
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง. ศูนย์บรรณสารและสื่อการศึกษา
©copyrights มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง