สภาพ ความต้องการจำเป็นและแนวทางพัฒนาองค์การแห่งการเรียนรู้ของโรงเรียน ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต 1

SITUATIONS, NEEDS AND GUIDELINES FOR THE DEVELOPMENT OF LEARNING ORGANIZATION OF SCHOOLS UNDER NAKHON PHANOM PRIMARY EDUCATIONAL SERVICE AREA OFFICE 1

Name: ภูวรินทร์ อะทะวงษา

Address: สาขาวิชาการบริหารและพัฒนาการศึกษา

Organization : มหาวิทยาลัยนครพนม

keyword: สภาพปัจจุบัน

ThaSH: องค์การแห่งการเรียนรู้

Classification :.DDC: 658.4038

; สภาพที่พึงประสงค์

; ความต้องการจำเป็น

; แนวทางพัฒนา

Abstract: บทคัดย่อ การบริหารองค์การในปัจจุบันควรมีแนวทางพัฒนาโรงเรียนให้เป็นองค์การแห่งการ เรียนรู้ เพื่อพัฒนาโรงเรียน เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารและการทำงาน นำพาโรงเรียนก้าวไป สู่ความสำเร็จของยุคปัจจุบันที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์(2) ประเมินความต้องการจำเป็น และ (3) พัฒนา แนวทางพัฒนาองค์การแห่งการเรียนรู้ กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้บริหารและครู รวมจำนวน 291 คน กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างโดยใช้เกณฑ์ร้อยละ ได้มาโดยการสุ่มอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย มีจำนวน 4 ฉบับ คือ (1) แบบสอบถามสภาพปัจจุบันของการเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ มีค่าดัชนี ความสอดคล้องเชิงเนื้อหารายข้อระหว่าง 0.60-1.00 มีค่าอำนาจจำแนกรายข้อระหว่าง .28-.82 และมีค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถาม เท่ากับ .97 (2) แบบสอบถามสภาพที่พึงประสงค์ ของการเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ มีค่าดัชนีความสอดคล้องเชิงเนื้อหารายข้อระหว่าง 0.60-1.00 มีค่าอำนาจจำแนกรายข้อระหวา่ง .29-.82 และมีค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามเท่ากับ .97 (3) แบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้างมีค่าดัชนีความสอดคล้องเชิงเนื้อหารายข้อระหวา่ง 0.60-1.00 (4) แบบประเมินความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของแนวทางพัฒนาองคก์ารแห่งการเรียนรู้ มีค่าดัชนีความสอดคล้องเชิงเนื้อหารายข้อมีค่า เท่ากับ 1.00 ทุกข้อ สถิติที่ใช้ได้แก่ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและดัชนีการจัดลำดับความสำคัญของความต้องการจำเป็นแบบปรับปรุง (PNI Modified) ผลการวิจัย พบว่า (1) สภาพปัจจุบันของการเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้โดยรวม อยู่ในระดับมาก สภาพที่พึงประสงค์ของการเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้โดยรวมอยู่ในระดับมาก (2) ความต้องการจำ เป็นของการเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ ที่มีค่าสูงกว่าค่าโดยรวม จำนวน 3 ดา้น ได้แก่ ด้านการบริหารบุคคล ด้านการสร้างโอกาสในการเรียนรู้ และด้านการจัดการความรู้ ตามลำดับ และ (3) แนวทางการพัฒนาการองค์การแห่งการเรียนรู้ 1) ด้านโครงสร้างองค์กร โรงเรียน ควรมีเป้าหมายเดียวกัน โดยสร้างความสัมพันธ์จากการปฏิบัติหน้าที่ มีความยืดหยุ่นในการปฏิบัติ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น 2) ด้านการจัดการความรู้ โรงเรียนควรมีเทคโนโลยสีารสนเทศ ใช้อย่างเพียงพอเพื่อการจัดการความรู้ และการเผยแพร่ข้อมูล โรงเรียนควรมีการจัดการความรู้ ให้อยู่ในระบบสารสนเทศนี้ เพื่อที่จะพร้อมใช้งานอยู่เสมอ 3) ด้านการบริหารบุคคล โรงเรียน ควรใช้เทคโนโลยีในการสร้างเครือข่ายของบุคลากรเพื่อการพัฒนา ควรมีการจัดสภาพแวดล้อม ให้บุคลากรนั้นสร้างเครือข่าย มีงบประมาณสำหรับการพัฒนาบุคลากร โดยให้บุคลากรสามารถ ตัดสินใจได้ว่าต้องการพัฒนาตนเองในด้านใด ที่ต้องการและเหมาะสม 4) ด้านการสร้างโอกาส ในการเรียนรู้ โรงเรียนควรพัฒนาบุคลากรได้ภายในโรงเรียนเองด้วยการใชเ้ทคโนโลยีสารสนเทศ มาสนับสนุนในการบริหารจัดการ 5) ด้านการคิดอยา่งเป็นระบบ โรงเรียนควรใช้วิธีการบริหาร แบบมีส่วนร่วมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง ผลการประเมินแนวทางพัฒนา โดยรวม พบวา่ มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก และมีความเป็นไปได้ อยู่ในระดับมาก คำสำคัญ : (1) สภาพปัจจุบัน (2) สภาพที่พึงประสงค์ (3) ความต้องการจำเป็น (4) แนวทางพัฒนา (5) องค์การแห่งการเรียนรู้ Abstract The current organization management should have guidelines for developing schools into learning organizations in order to develop schools, increase the efficiency of administration and work, lead schools to the success of today's era driven by technology and innovation. The purposes of this research were (1) to examine the current situations and the desirable situations, (2) to assess the needs, and (3) to develop the guidelines for the development of learning organization. The samples consisted of 291 administrators and teachers followed the percent criteria in the sample size specification, and they were selected by Simple Random Sampling. There were 4 instruments used in this research: (1) a questionnaire about the current situations of learning organization with the Index of Item Congruence (IC) between 0.60-1.00, the discrimination between .28-.82, and the reliability of .97; (2) a questionnaire about the desirable situations of learning organization with the Index of Item Congruence (IC) between 0.60-1.00, the discrimination between .29-.82, and the reliability of .97; (3) a structured-interview form with the Index of Item Congruence (IC) between 0.60-1.00; and (4) a suitability and possibility assessment form of learning organization with the Index of Item Congruence (IC) of 1.00. The statistics used were percentage, mean, standard deviation, and the index modified Priority Needs Index (PNI Modified). The results revealed that (1) the overall current situations of learning organization were at the high level, and the overall desirable situations of learning organization were at the high level. (2) The overall needs of learning organization revealed higher than the overall value in 3 aspects, namely personnel management, creation of learning opportunities, and knowledge management respectively. (3) The guidelines for the development of learning organization were as follows: 1) organizational structure, schools should have the same goals by building relationships from performing duties, flexibility in implementation to accommodate the changes; 2) knowledge management, schools should have adequate information technology for knowledge management and dissemination of information. Schools should manage knowledge in the information system to be always available; 3) personnel management, schools should use technology to build a network of personnel for development. There should be an environment for personnel to create networks. There should be a budget for personnel development by allowing personnel to decide in what appropriate areas they want to develop themselves; 4) creation of learning opportunities, schools should develop personnel within the school by using information technology to support the management; 5) systematic thinking, schools should use participatory approaches to cope with changing situations. The results of development guideline assessment revealed the suitability and the possibility in overall at the high level. Keywords : (1) Current situations (2) Desirable situations (3) Needs (4) Development Guidelines (5) Learning organization

มหาวิทยาลัยนครพนม. สำนักวิทยบริการ

Address: นครพนม

Email: netprommin2518@npu.ac.th

Name: ศุภกร ศรเพชร

Role: อาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์หลัก

Name: ชาญวิทย ์หาญรินทร์

Role: อาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ร่วม

Name: สุรเชต น้อยฤทธิ์

Role: ผู้ทรงคุณวุฒิภายนอก

Name: สุมาลี ศรีพุทธรินทร์

Role: อาจารย์บัณทิตศึกษาประจำหลักสูตร

Created: 2565

Modified: 2565-07-19

Issued: 2565-07-19

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

tha

Spatial: โรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต 1 ปี 2565

DegreeName: ครุศาสตร์มหาบัณฑิต

Level: Master's Degree

Descipline: Educational Administration and Development

Grantor: มหาวิทยาลัยนครพนม

©copyrights มหาวิทยาลัยนครพนม

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	SITUATIONS, NEEDS AND GUIDELINES FOR THE DEVELOPMENT.pdf	4.08 MB	243	2025-12-15 12:34:06

ใช้เวลา

0.032092 วินาที