การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานเพื่อเสริมสร้างเจตคติเชิงบวกและลดความวิตกกังวัลต่อวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

The Learning activities by problem-based learning to promote positive attitudes towards mathematics and reduce anxiety towards mathematics of Mathayomsuksa 2 students

Name: ปุณญนุช เขียวไกร.

Address: 150 ม.13 ต.ห้วยโพธิ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ 46000

ThaSH: คณิตศาสตร์ -- การศึกษาและการสอน (มัธยมศึกษา) -- วิจัย.

Classification :.DDC: 510

Abstract: ชื่อเรื่อง : การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานเพื่อเสริมสร้างเจตคติเชิงบวก และลดความวิตกกังวลต่อวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ผู้วิจัย : นางสาวปุณญนุช เขียวไกร ปริญญา : ครุศาสตรมหาบัณฑิต (คณิตศาสตรศึกษา) มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม อาจารย์ที่ปรึกษา : ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.รามนรี นนทภา ปีการศึกษา : 2564 บทคัดย่อ การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) พัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน เรื่อง สถิติ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 70/70 (2) เปรียบเทียบ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เจตคติต่อวิชาคณิตศาสตร์ ความวิตกกังวลต่อวิชาคณิตศาสตร์จำแนกตาม ก่อนและหลัง การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน และก่อนและหลังการจัดกิจกรรม เรียนรู้แบบปกติ (3) เปรียบเทียบเจตคติต่อวิชาคณิตศาสตร์ และความวิตกกังวลต่อวิชาคณิตศาสตร์ ของนักเรียนที่ใช้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน และนักเรียนที่ใช้การจัดกิจกรรม การเรียนรู้แบบปกติ (4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ ปัญหาเป็นฐาน และการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบปกติ กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 2 จำนวน 2 กลุ่ม ซึ่งแบ่งออกเป็นกลุ่มที่เรียนโดยใช้กิจกรรมการเรียนโดยใช้ปัญหาเป็นฐาน จำนวน 40 คน และกลุ่มที่เรียนโดยใช้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบปกติ จำนวน 42 คน รวมทั้งหมดจำนวน 82 คน ได้มาโดยการสุ่มตัวอย่างแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบปกติ แบบวัดเจตคติต่อวิชาคณิตศาสตร์ แบบวัดความวิตกกังวลต่อวิชาคณิตศาสตร์ แบบวัดความพึงพอใจของกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน แบบวัดความพึงพอใจของกิจกรรมการเรียนรู้แบบปกติ แบบสัมภาษณ์ กึ่งโครงสร้าง และแบบทดสอบเรื่องสถิติ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ การวิเคราะห์งานเขียน (Task Analysis) การบรรยายเชิงวิเคราะห์ (Analytic Description) สถิติ t-test (Dependent t-test) และ t-test (Independent t-test) ผลการวิจัยพบว่า (1) ผลการพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน เรื่อง สถิติ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีประสิทธิภาพของกิจกรรมการเรียนรู้ (E1 / E2 ) เท่ากับ ง 90.25/80 (2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน และกิจกรรม การเรียนรู้แบบปกติ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติที่ระดับ .05 เจตคติ ต่อวิชาคณิตศาสตร์โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน และกิจกรรมการเรียนรู้แบบปกติ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และความวิตกกังวลต่อวิชาคณิตศาสตร์ โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน และกิจกรรมการเรียนรู้แบบปกติ หลังเรียนต่ำกว่า ก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติที่ระดับ .05 (3) เจตคติต่อวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียน ที่ใช้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมปัญหาเป็นฐาน สูงกว่านักเรียนที่ใช้การจัดกิจกรรม การเรียนรู้แบบปกติ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และความวิตกกังวลต่อวิชาคณิตศาสตร์ ของนักเรียนที่ใช้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมปัญหาเป็นฐาน ต่ำกว่านักเรียนที่ใช้ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบปกติ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (4) ความพึงพอใจ ของนักเรียนที่เรียนโดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน 3 ลำดับแรก คือ นักเรียนเข้าใจ เนื้อหาอย่างมากในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน ( x = 4.95, S.D. = 0.22) นักเรียนสนุกสนานในการทำกิจกรรมการเรียนรู้ ( x = 4.83, S.D. = 0.38) และนักเรียนชอบ ที่ได้ค้นคว้านอกหนังสือเรียน ( x = 4.83, S.D. = 0.38) ตามลำดับ โดยในภาพรวมมีความพึงพอใจ อยู่ในระดับมากที่สุด ( x = 4.57, S.D. = 0.60) คำสำคัญ: การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน; การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบปกติ; เจตคติต่อวิชาคณิตศาสตร์; ความวิตกกังวลต่อวิชาคณิตศาสตร์; ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน คณิตศาสตร์ อาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์หลัก จ Title : The Learning activities by problem-based learning to promote positive attitudes towards mathematics and reduce anxiety towards mathematics of Mathayomsuksa 2 students. Author : Miss Punyanuch Kheawkrai Degree : Master of Education (Mathematics Education) Rajabhat Maha Sarakham University Advisors : Assistant Professor Dr.Ramnaree Nontapa Year : 2021 ABSTRACT The purposes of this research were (1) Develop problem-based learning on statistics for Mathayomsuksa 2 students to be effective according to the criteria 70/70. (2) Comparison of learning achievement attitude towards mathematics anxiety towards mathematics classified by before and after problem-based learning and before and after the normal learning activities. (3) Comparison of attitude towards mathematics and anxiety towards mathematics of students using Problem-based learning and students using normal learning activities. (4) Study the students' satisfaction with the problem-based learning and normal learning activities. The sample group consisted of Mathayomsuksa 2 students, which were divided into a group that studied using problem-based learning of 40 people and a group that studied using normal learning activities of 42 people, a total of 82 people, selected by cluster random sampling. The research instruments were the learning management plan using by problem-based learning activities, learning management plan using by normal learning activities, attitude toward mathematics test, anxiety toward mathematics test, satisfaction test, Semi-structured interview and statistics test. The statistics used to analyze the data were percentage, mean, and standard deviation. Analyze the data using dependent t-test, and independent t-test. The results of the research were as follows: (1) The efficiency of Learning activities by problem-based learning in the subject statistical for MathayomSuksa 2 students equal to (E1 / E2 ) 90.25/80. (2) Learning achievement using problem-based ฉ learning activities and normal learning activities, after learning is higher than before statistically significant at the .05 level. Attitude towards mathematics subject using problem-based learning activities and normal learning activities, after learning is higher than before statistically significant at the .05 level. and Anxiety towards mathematics about mathematics using problem-based learning activities and normal learning activities. After learning is higher than before statistically significant at the .05 level. (3) Students’ attitude towards mathematics that uses learning activities to use Problem-based learning higher than students using normal learning activities statistically significant at the .05 level and anxiety about mathematics of students using Problem-based learning lower than students using normal learning activities statistically significant at the .05 level. (4) The satisfaction of students who studied using problem-based learning activities in the first 3 was that the students had a great understanding of the content in the teaching and learning activities of the problem-based learning ( x = 4.95, SD = 0.22). Students enjoyed doing learning ( x = 4.83, SD = 0.38) and students enjoyed doing research outside of textbooks ( x = 4.83, SD = 0.38), respectively. Overall, their satisfaction was at the highest level ( x = 4.57, SD = 0.60) Keyword: Problem-Based Learning Activities, Normal Learning Activities, Attitudes Towards Mathematics, Anxiety Towards Mathematics, Learning Achievement Major Advisor

มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม. สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ

Address: มหาสารคาม

Email: lib@rmu.ac.th

Name: รามนรี นนทภา

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Created: 2565

Modified: 2565-06-29

Issued: 2565-06-29

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

CallNumber: 510

tha

DegreeName: ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: คณิตศาสตรศึกษา

Grantor: มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม

©copyrights มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	Kheawkrai Punyanuch.pdf	23.04 MB	120	2025-12-23 20:17:04

ใช้เวลา

0.032327 วินาที