การพัฒนารูปแบบการจัดการความรู้สำหรับบุคลากร อุตสาหกรรมเซรามิกในประเทศไทย

Development of a knowledge management model For personnel of ceramic industries, thailand

Name: ภาณุทัต จิรานนท์

Organization : มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์

keyword: การพัฒนารูปแบบ

ThaSH: มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ -- วิทยานิพนธ์

Classification :.DDC: 666

; การจัดการความรู้

ThaSH: วิทยานิพนธ์

; อุตสาหกรรมเซรามิก

ThaSH: การบริหารองค์ความรู้

; ประเทศไทย

ThaSH: เครื่องเคลือบดินเผา

Abstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัจจุบัน ปัญหา และปัจจัยที่มีความสาคัญ ในการจัดการความรู้ 2) พัฒนารูปแบบการจัดการความรู้ และ 3) ประเมินรูปแบบการจัดการความรู้สำหรับบุคลากร อุตสาหกรรมเซรามิกในประเทศไทย โดยวิธีการวิจัยแบบผสมผสาน เชิงปริมาณควบคู่กับ เชิงคุณภาพ กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยครั้งนี้แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ 1 กลุ่มตัวอย่างในการวิจัย เชิงปริมาณ คือบุคลากรบริษัท ผู้ผลิตเครื่องสุขภัณฑ์เซรามิก ประเทศไทย จานวน 371 คน ใช้วิธีสุ่มอย่างง่าย กลุ่มที่ 2 กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยเชิงคุณภาพจำนวน 20 คน ใช้วิธีการเลือกแบบเจาะจง (purposive sampling) กลุ่มที่ 3 กลุ่มผู้ทรงคุณวุฒิ จานวน 12 คน เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์กึ่งมีโครงสร้าง และแบบประเมินความเหมาะสมของรูปแบบ ผลการวิจัยพบว่า 1) สภาพปัจจุบันด้านการจัดการความรู้ของอุตสาหกรรมเซรามิกในประเทศไทย ส่วนใหญ่มีการดำเนินการอยู่แล้ว โดยสร้างความรู้ให้บุคลากรด้วยวิธีการฝึกอบรม การแก้ไขปัญหา ตามหลักการวงจร PDCA การระดมสมอง และมีการแสวงหาความรู้จากแหล่งข้อมูลความรู้ต่างๆ มีการจัดเก็บเอกสารให้สอดคล้องตามข้อกาหนดของมาตรฐานระบบบริหารงานคุณภาพ (ISO9001) ด้านปัญหาและอุปสรรคที่สาคัญในการนาการจัดการความรู้ไปใช้ของหน่วยงาน ได้แก่ ขาดการสนับสนุนจากผู้บริหาร นโยบายการจัดการความรู้ไม่ชัดเจน การมุ่งเน้นพัฒนาศักยภาพบุคลากรเฉพาะกลุ่ม การสื่อสาร และ ความใหม่ของเอกสาร 2) รูปแบบการจัดการความรู้สาหรับบุคลากร อุตสาหกรรมเซรามิกในประเทศไทย ที่จะทำให้การจัดการความรู้ประสบความสาเร็จ ประกอบด้วย 4 ขั้นตอน หรือ 4C model ได้แก่ สร้าง (create) – เก็บ (collect) – ใช้ (carry out) – แชร์ (communicate) โดย (1) สร้าง (create) คือ การสร้างและแสวงหาความรู้ โดยใช้ 3 เครื่องมือที่สาคัญ ได้แก่ การระดมสมอง การสร้างกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ และการทบทวนหลังปฏิบัติ (2) เก็บ (collect) คือ การจัดเก็บและรวบรวมความรู้ โดยใช้ 3 เครื่องมือที่สาคัญ ได้แก่ การสร้างคลังความรู้ การจัดเก็บเอกสารเป็นหมวดหมู่ และการจัดเก็บไว้ส่วนกลาง (3) ใช้ (carry out) คือ การใช้และประยุกต์ใช้ความรู้ โดยการใช้ 3 เครื่องมือที่มีสำคัญได้แก่ การสร้าง กลุ่มผู้ใช้ การระบุผู้เชี่ยวชาญ และการทบทวนสิ่งที่เรียนรู้ และ (4) แชร์ (communicate) คือ การแบ่งปัน และถ่ายทอดความรู้ โดยใช้เครื่องมือที่สำคัญ 3 เครื่องมือ ได้แก่ การเล่าเรื่อง การทบทวนสิ่งที่เรียนรู้ และการจัดเก็บไว้ส่วนกลาง สำหรับปัจจัยที่มีความสำคัญต่อการจัดการความรู้มี 5 ปัจจัย ประกอบด้วย ภาวะผู้นำ วัฒนธรรมองค์กร เทคโนโลยีสารสนเทศ นโยบายและกลยุทธ์ และองค์กรแห่งความสุข 3) ผลการประเมินรูปแบบการจัดการความรู้ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น พบว่า มีความเหมาะสม ชัดเจน สอดคล้องกับการปฏิบัติงาน ง่ายต่อการนำไปใช้ในสถานประกอบการอุตสาหกรรมเซรามิก ประเทศไทยและสถานประกอบการอื่นได้เป็นอย่างดี

มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์. สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ

Address: ฉะเชิงเทรา

Email: thanattha.wat@rru.ac.th

Name: ลักษณพร คำดี

Role: อาจารย์ที่ปรึกษาหลัก

Created: 2564

Modified: 2565-06-21

Issued: 2565-06-21

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

CallNumber: Th. 666 ภ431ก

tha

DegreeName: ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต

Level: ปริญญาเอก

Descipline: การจัดการเพื่อการพัฒนา

Grantor: มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์

©copyrights มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	phanuthat.pdf	5.07 MB	54	2025-09-26 12:01:12

ใช้เวลา

0.030123 วินาที