การพัฒนาการเรียนการสอนกลุ่มสร้างเสริมประสบการณ์ชีวิต ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เรื่อง สารเคมีโดยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ : การวิจัยเชิงปฏิบัติการ

Name: จงศักดิ์ โชยะสิทธิ์

ThaSH: สารเคมี -- การศึกษาและการสอน (ประถมศึกษา) -- วิจัย

ThaSH: วิทยาศาสตร์ -- การศึกษาและการสอน (ประถมศึกษา) -- วิจัย

ThaSH: กลุ่มสร้างเสริมประสบการณ์ชีวิต -- การศึกษาและการสอน (ประถมศึกษา) -- วิจัย

Abstract: สารเคมีเป็นสิ่งที่มนุษย์ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ โดยเฉพาะสารเคมีในชีวิตประจำวัน ดังนั้นจึงควรส่งเสริมให้นักเรียนได้เรียนรู้เรื่องสารเคมีตั้งแต่ระดับประถมศึกษา การศึกษาค้นคว้าครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อพัฒนาการเรียนการสอน กลุ่มสร้างเสริมประสบการณ์ชีวิต หน่วยที่ 6 พลังงานและสารเคมี หน่วยย่อยที่ 5 เรื่อง สารเคมี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์กลุ่มผู้ร่วมศึกษา ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ปีการศึกษา 2544 โรงเรียนบ้านโคกฟันโปง สังกัดสำนักงานการประถมศึกษาอำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น มีจำนวน 1 ห้องเรียน รวมนักเรียน 26 คน เครื่องมือที่ใช้ในการทดลองปฏิบัติ คือ แผนการสอนเรื่อง สารเคมี จำนวน 7 แผน สร้างขึ้นโดยใช้หลักการวิจัยเชิงปฏิบัติการ เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลจากการปฏิบัติการสอน คือ แบบบันทึกความคิดเห็นของผู้ร่วมศึกษา แบบบันทึกความคิดเห็นของผู้ศึกษา แบบสำรวจความคิดเห็นของนักเรียน แบบสำรวจความคิดเห็นของผู้ปกครองแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน วิเคราะห์ ข้อมูลโดยหาค่าเฉลี่ย และร้อยละ ผลการศึกษาค้นคว้าปรากฏดังนี้ 1. ผลการดำเนินการสอนแต่ละแผนการสอน แผนการสอนที่ 1 เรื่อง ลักษณะทั่วไปของสารเคมี ซึ่งเน้นทักษะการสังเกตนักเรียนส่วนใหญ่มีความสนใจที่จะทำตามกิจกรรมและให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมเป็นอย่างดี แต่นักเรียนบางส่วนยังไม่มีส่วนร่วมในการปฏิบัติ จึงปรับปรุงแผนการสอนที่เน้นให้นักเรียนปฏิบัติ กิจกรรมเป็นกลุ่มมากขึ้น เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจในกลุ่ม แผนการสอนที่ 2 เรื่อง สารปรุงแต่ง อาหาร ได้ปรับกิจกรรมให้เน้นปฏิบัติทักษะการสังเกต การจำแนกประเภท การหาความสัมพันธ์ นักเรียนมีความสนใจที่จะทำตามกิจกรรมและให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมเป็นอย่างดี และมีความสนใจกิจกรรมการเรียนการสอนมากขึ้น แต่นักเรียนยังไม่มีความกล้าแสดงออกเนื่องจากขาด ความมั่นใจ และยังไม่สามารถใช้ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ได้อย่างเต็มที่ จึงกระตุ้นให้ นักเรียนได้ฝึกทักษะการนำเสนอผลการทดลองมากขึ้น แผนการสอนที่ 3 เรื่อง สารปรุงแต่งอาหารแท้และปลอม ได้ปรับกิจกรรมให้เน้นปฏิบัติทักษะการวัด นักเรียนมีความสนใจที่จะทำตามกิจกรรมและให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมเป็นอย่างดี และมีความสนใจกิจกรรมการเรียนการสอนมาก โดยเฉพาะการใช้ทักษะกระบวนการในการทำงานตามใบงานต่าง ๆ แต่ยังขาดความชำนาญและขาดความระมัดระวังในด้านการใช้เครื่องมือ แผนการสอนที่ 4 เรื่อง สีผสมอาหาร ได้ปรับกิจกรรมเน้นพัฒนาทักษะด้านการลงความคิดเห็นจากข้อมูล นักเรียนมีความรับผิดชอบงานมากขึ้น ทำให้นักเรียนสนใจและตั้งใจทำงาน แต่ยังขาดความรอบคอบในการปฏิบัติกิจกรรม แผนการสอนที่ 5 เรื่อง สารกำจัดแมลง ได้ปรับกิจกรรมเน้นการสังเกตและความปลอดภัยจากสารเคมี นักเรียนส่วนใหญ่เห็นความสำคัญของการสังเกต ปัญหาที่พบคือนักเรียนขาดสมาธิและสังเกตได้ไม่ละเอียดแผนการสอนที่ 6 เรื่อง สารทำความสะอาด จึงเน้นให้นักเรียนฝึกสังเกต ตีความหมายข้อมูล จากการสังเกตและการวัด รวมทั้งการคำนวณ ทำให้นักเรียนรู้จักวิธีการป้องกันการใช้สารเคมีที่เป็นพิษ ในชีวิตประจำวัน ซึ่งส่วนใหญ่มีทักษะที่ดีขึ้นแต่ยังขาดความชำนาญ และแผนการสอนที่ 7 เรื่อง การใช้สารเคมีอย่าง ถูกต้อง ได้ฝึกฝนทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์แบบบูรณาการให้นักเรียน ได้ฝึกฝนทดลองเพิ่มเติมทำให้นักเรียนมีทักษะและความรู้ในการป้องกันการใช้สารเคมีที่เป็นพิษในชีวิตประจำวัน ซึ่งโดยรวมนักเรียนสนใจเรียนและตั้งใจทำกิจกรรม การเรียนการสอน จึงเป็นไปด้วยความราบรื่น และนักเรียนสามารถเรียนรู้ได้อย่างมั่นใจ ผลการพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนจากแผนที่ 1-7 นักเรียนได้รับการฝึกทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และมีทักษะเพิ่มขึ้น ได้แก่ การสังเกต การวัด การลงความคิดเห็นจากข้อมูล การตั้งสมมุติฐาน การตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรุป การจำแนกประเภท การคำนวณ การสื่อความหมายของข้อมูล การกำหนดและควบคุม ตัวแปร และการทดลอง ซึ่งกระบวนการดังกล่าวนอกจากจะทำให้นักเรียนมีทักษะที่จะนำไปใช้ในชีวิตประจำวันแล้ว ยังเป็นพื้นฐานสำหรับการศึกษาในระดับที่สูงขึ้น และนักเรียนยังได้รับความรู้ ความเข้าใจเรื่องสารเคมีมากขึ้น2. ผลการเรียนรู้ของนักเรียน นักเรียนที่เรียนตามแผนการสอนแบบมุ่งเน้นกระบวนการทางวิทยาศาสตร์โดยใช้กระบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติการ มีผลการทดสอบก่อนเรียนโดยเฉลี่ยเท่ากับ10.54 คิดเป็นร้อยละ 52.69 และมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนโดยเฉลี่ยเท่ากับ 15.31 คิดเป็นร้อยละ 76.54 โดยผลต่างของคะแนนทดสอบก่อนเรียนยและคะแนนทดสอบหลังเรียนคิดเป็นร้อยละ 23.85 จากการพัฒนาการเรียนการสอนครั้งนี้ทำให้นักเรียนไดด้รับการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ จึงถือได้ว่าเป็นกระบวนการศึกษาค้นคว้าที่เป็นประโยชน์ควรแก่การเผยแพร่และนำไปใช้ในการพัฒนาการเรียนการสอน

มหาวิทยาลัยมหาสารคาม. สำนักวิทยบริการ

Address: มหาสารคาม (Maha Sarakham)

Email: library@msu.ac.th

Name: นารีรัตน์ รักวิจิตรกุล

Role: อาจารย์ที่ปรึกษาการศึกษาค้นคว้าอิสระ

Created: 2546

Modified: 2552-06-19

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

ISBN: 9743034188

CallNumber: วจ 540.702 จ45ก

tha

DegreeName: การศึกษามหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: การศึกษานอกระบบ

Grantor: มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

©copyrights มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	titlepage.pdf	84.43 KB	132	2024-07-08 20:06:49
2	abstract.pdf	89.6 KB	120	2021-08-01 13:16:51
3	content.pdf	70.61 KB	78	2023-04-12 13:15:07
4	chapter1.pdf	275.59 KB	144	2025-06-08 11:32:01
5	chapter2.pdf	613.57 KB	180	2025-09-07 10:55:06
6	page9-28.pdf	613.52 KB	112	2024-07-08 20:03:13
7	page29-44.pdf	534.15 KB	106	2020-12-25 20:21:11
8	chapter3.pdf	340.83 KB	159	2024-08-07 10:19:30
9	chapter4.pdf	770.68 KB	123	2024-09-27 21:24:15
10	chapter5.pdf	305.35 KB	97	2024-07-08 20:06:23
11	bibliography.pdf	16.88 KB	73	2020-12-25 20:21:32
12	page91-94.pdf	125.59 KB	86	2021-09-22 22:30:29
13	appendix.pdf	16.82 KB	80	2024-08-07 09:55:09
14	page96-116.pdf	371.08 KB	95	2024-08-07 09:55:31
15	page117-137.pdf	458.19 KB	116	2024-08-07 11:05:37
16	page138-158.pdf	453.24 KB	93	2024-08-07 09:56:53
17	page159-179.pdf	373.63 KB	104	2024-08-07 09:57:31
18	page180-199.pdf	432.23 KB	112	2024-08-07 10:27:35
19	biodata.pdf	36.33 KB	65	2024-08-07 09:57:54

ใช้เวลา

0.054361 วินาที