การศึกษาอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมมโนราห์ เพื่อประยุกต์ใช้ในการออกแบบเครื่องประดับ

Identity study of Manohra cultural for applied design jewelry

Name: วิมลิน สันตจิต

ThaSH: โนรา -- เครื่องแต่งกาย -- การออกแบบ

ThaSH: การออกแบบเครื่องประดับ

LCSH: Nora (Thai dance drama) -- Costume -- Design

Abstract: การวิจัยการศึกษาอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมมโนราห์เพื่อประยุกต์ใช้ในการออกแบบเครื่องประดับมีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อศึกษาและวิเคราะห์อัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมมโนราห์ 2) เพื่อออกแบบเครื่องประดับจากการประยุกต์ใช้อัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมมโนราห์ 3) เพื่อประเมินความพึงพอใจของผู้สนใจเครื่องประดับจากอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมมโนราห์ ประชากรและกลุ่มตัวอย่างวัตถุประสงค์ข้อที่ 1 คือ กลุ่มผู้ให้ข้อมูล 3 กลุ่ม กลุ่มละ 3 ท่าน เลือกแบบเจาะจง กลุ่มที่ 1 ปราชญ์ชาวบ้านให้ข้อมูลด้านอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมมโนราห์ กลุ่มที่ 2 กลุ่มร้อยลูกปัดมโนราห์ให้ข้อมูลด้านร้อยลูกปัดมโนราห์ กลุ่มที่ 3 กลุ่มนักแสดงให้ข้อมูลด้านการแสดงมโนราห์ เครื่องมือในการวิจัย ได้แก่ แบบสัมภาษณ์แบบไม่เป็นทางการ ประชากรและกลุ่มตัวอย่างวัตถุประสงค์ข้อที่ 2 กลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องประดับ จำนวน 5 ท่าน เลือกแบบเจาะจงจากประสบการณ์ด้านเครื่องประดับอย่างน้อย 5 ปี เพื่อประเมินความคิดเห็นต่อรูปแบบเครื่องประดับจากอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมมโนราห์ ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง วัตถุประสงค์ข้อที่ 3 ประเมินจากกลุ่มสตรีอายุระหว่าง 25-40 ผ่านการประเมินแบบสอบถามออนไลน์ ประชากรจากกลุ่มที่ 1 ประชากร 50 คนและประเมินจากผู้ที่มีเลือกซื้อเครื่องประดับจากร้านขายเครื่องประดับจำนวน 2 ร้าน ร้านละ 20 ผลการวิจัยพบว่าอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมมโนราห์ที่เหมาะสมมากที่สุด คือ อัตลักษณ์ของเครื่องแต่งกายมโนราห์ประกอบไปด้วยลวดลายการร้อยลูกปัด ลายลูกแก้ว ลายข้าวหลามตัด กลุ่มโทนสีความเชื่อของมโนราห์ ผลการวิเคราะห์รูปแบบ คือ ภาพร่างเครื่องประดับ ทั้งหมด 20 ชุด คัดเลือกด้วยหลักเกณฑ์การออกแบบประกอบด้วย สร้อยคอ กำไล ต่างหูและแหวน รูปแบบที่เหมาะสมนำไปพัฒนาชุดเครื่องประดับ คือ รูปแบบที่ 2 พบแต่ความโชคดี (See good chance) คะแนนการประเมินอยู่ในลำดับที่ 1 เหมาะสมอยู่ในระดับมากค่าเฉลี่ยรวมเท่ากับ (x̄ = 4.11, S.D. = 0.57) และคะแนนรายข้อที่ได้ผลประเมินมากที่สุดสามอันดับแรกคือด้านความสวยงาม ด้านวัสดุและการผลิต และด้านความเหมาะสมกับบุคลิกของผู้สวมใส่ และออกแบบบรรจุกัณฑ์เฉพาะสำหรับเครื่องประดับทั้งหมด 3 รูปแบบ เมื่อนำมาวิเคราะห์ความเหมาะสมในการผลิตต้นแบบพบว่า รูปแบบที่ 2 เหมาะสมในระดับมากค่าเฉลี่ยรวมเท่ากับ (x̄ = 4.51, S.D. = 0.41) คะแนนมากที่สุดสามอันดับแรก คือด้านการป้องกันรักษา ด้านการสื่อสารทางการตลาด และด้านส่งเสริมทางการตลาด ชุดเครื่องประดับจากอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมมโนราห์กลุ่มสตรีอายุระหว่าง 25-40 ผ่านการประเมินแบบสอบถามออนไลน์ จำนวน 50 คน มีความพึงพอในระดับมาก ค่าเฉลี่ยรวมเท่ากับ (x̄ = 4.35, S.D. = 0.06) และ ประเมินความพึงพอใจประเมินจากผู้ที่มาเลือกซื้อเครื่องประดับจากร้านอินเคลียร์จิวเวอรี่ จำนวน 20 คน มีความพึงพอใจในระดับมาก (x̄ = 4.17, S.D. = 0.85) และความพึงพอใจ ประเมินจากผู้ที่มาเลือกซื้อเครื่องประดับจากร้านฮาโมนิคจิวเวอรี่ จำนวน 20 คน มีความพึงพอใจในระดับมาก (x̄ =3.97, S.D.=0.79).

Abstract: The objectives of this research were 1) to study and analyse the cultural identity of Manohra, and 2) to design jewellery based on the cultural identity of Manohra. 3) to survey the satisfaction of jewelry custumers. The population and the samples for the first objective were informants classified into three groups with three informants to each group. The method used to select the informants was specific identification, and the tool used to gather the information was informal interview. The population and the samples for the second objective were five experts in jewellery design. They were selected based on their minimum of five years of experience in jewellery design and they were selected to evaluate the jewellery design. The population and the samples for the third objective were informants classified into three groups. Assessment from women aged 25-40 through online questionnaire evaluation population 50 people, and evaluated from those who have chosen to buy jewelry from two jewelry stores, population twenty people stores each. The results showed that the cultural identity of Manohra jewellery and costume was most suitable to be adapted. Manohra jewellery and costumes were embroidered with beads in Lok Kaew (crystal balls) or Khoa Lam Tud (diamond) pattern. The colour tone of the costumes reflected the cultural identity of Manohra. From a study and analysis of twenty sketches of jewellery such as necklaces, bracelets, ear rings and rings, the second sketch entitled “See good chance” was most suitable to be developed as a prototype because its overall evaluation was ranked number one with a mean of 4.11 and a standard deviation of 0.57. Its top three aspects were aesthetic quality, materials and manufacturing process and compatibility with those who wore it. The researchers also designed three packages to the jewellery. The second design was highly suitable for development as a prototype scoring a mean of 4.51 and a standard deviation of 0.41. Its top three aspects were product protection, advertising communication and marketing. The population satisfaction towards Manora jewellery was at the highest level. (x̄ =4.35, S.D. =0.06) The population form Inclear Company was at the highest level. (x̄ =4.17, S.D. =0.85) and the population form Harmonique jewelry was at the highest level. (x̄ =3.97, S.D. =0.79)

สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง. สำนักหอสมุดกลาง

Address: กรุงเทพมหานคร

Email: Lifelong@kmitl.ac.th

Name: อรรถพร ฤทธิเกิด

Role: อาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์

Created: 2562

Modified: 2564-08-26

Issued: 2564-08-26

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

tha

DegreeName: ครุศาสตร์อุตสาหกรรมมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: เทคโนโลยีการออกแบบผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม

Grantor: สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

©copyrights สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	Fulltext Wimalin Santajit.pdf	5.93 MB	17	2025-09-05 10:05:24

ใช้เวลา

0.029422 วินาที