แจ้งเอกสารไม่ครบถ้วน, ไม่ตรงกับชื่อเรื่อง หรือมีข้อผิดพลาดเกี่ยวกับเอกสาร ติดต่อที่นี่ ==>
หากไม่มีอีเมลผู้รับให้กรอก thailis-noc@uni.net.th ติดต่อเจ้าหน้าที่เจ้าของเอกสาร กรณีเอกสารไม่ครบหรือไม่ตรง

แนวทางการแก้ไขปัญหาความยากจนของครัวเรือนเกษตรกรรายย่อยบนฐานปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้
Solving poverty of small farmers based on sufficiency economy in Tuonggula ronghai area

Address: 186/66 หมู่ 1 ตำบลนอกเมือง อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ 32000



keyword: ความยากจน
Classification :.DDC: 362.58
; การแก้ปัญหาความยากจน
Abstract: การศึกษาวิจัย เรื่อง “แนวทางการแก้ปัญหาความยากจนของครัวเรือนเกษตรกรรายย่อยบนฐานปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้” มีวัตถุประสงค์หลัก เพื่ออธิบายบริบทประวัติศาสตร์การปรับเปลี่ยนระบบการผลิตและมูลค่าของครัวเรือนเกษตรกรรายย่อย และเพื่อทราบองค์ประกอบความสำเร็จของการแก้ปัญหาความยากจนตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เป็นการศึกษาวิจัยเชิงคุณภาพ ใช้วิธีการสัมภาษณ์กลุ่มเป้าหมายแบบเจาะจง (Purposive Sampling) โดยการฝังตัว ของผู้วิจัยและใช้แบบสัมภาษณ์แบบเจาะลึก (In-depth Interview) แบบสังเกตเทคนิคการจัดกลุ่มสนทนา (Focus Group) กับกลุ่มตัวอย่าง จำนวนทั้งหมด 81 ครัวเรือน ในพื้นที่บ้านบ่อแก อำเภอชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์ จำนวน 27 ครัวเรือน บ้านยางน้อย อำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร จำนวน 25 ครัวเรือน และบ้านโพนฮาด อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด จำนวน 29 ครัวเรือน ผลการศึกษาพบว่า เกษตรกรในพื้นที่ที่ศึกษา ทั้ง 3 หมู่บ้านของจังหวัดสุรินทร์ ยโสธร และร้อยเอ็ด ในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้นั้นได้ดำเนินชีวิตที่ยึดมั่นตามความเชื่อฮีต 12 ครอง 14 ที่ปลูกฝังความเชื่อจากบรรพบุรุษมาตั้งแต่โบราณ ซึ่งได้ยึดหลักพุทธศาสนาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตยึดถือเรื่องการพึ่งพาตนเองเพื่อการต่อสู้ในการเอาชีวิตรอดจากลักษณะความแห้งแล้งในฤดูแล้งและภาวะน้ำท่วมในฤดูฝนของพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ที่มีการกล่าวถึงจากสภาพความไม่เหมาะสมสำหรับการผลิตสืบทอดกันมาต่อมามีนโยบายในการแก้ไขปัญหาความยากจนโดยจัดทำโครงการต่างๆ เพื่อปรับปรุงระบบการผลิตสำหรับเกษตรกรจึงทำให้เกษตรกรมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และถ่ายทอดภูมิปัญญาซึ่งกันและกันจนกระทั่งในปัจจุบันได้มีศูนย์เรียนรู้ประจำหมู่บ้าน ในปีเพาะปลูก 2558/59 กลุ่มตัวอย่างที่ศึกษาพบว่ามีขนาดครัวเรือนเฉลี่ย 4.28 คน สำเร็จการศึกษาระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา และปริญญาตรีร้อยละ 52.74, 37.75 และ 9.51 ตามลำดับ กรรมสิทธิ์ถือครองที่ดินเฉลี่ยต่อครัวเรือน 32.29 ไร่เป็นพื้นที่เพาะปลูกข้าวเฉลี่ยต่อครัวเรือน 29.66 ไร่ ผลผลิตข้าวทั้งหมดเฉลี่ยต่อไร่เท่ากับ 366.94 กิโลกรัม มีรายได้หลักจากการขายข้าว ขายสัตว์เลี้ยง ขายผัก การทอผ้า การรับจ้างและอื่นๆ เฉลี่ยต่อครัวเรือนเท่ากับ 317,134.57 บาท รายจ่ายเพื่อการเกษตร เฉลี่ยต่อครัวเรือน เท่ากับ 68.535.37 บาท รายจ่ายสำหรับการบริโภคในครัวเรือนตลอดปี เฉลี่ยเท่ากับ 133,670.04 บาท และมีการกู้ยืมจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธกส.) เป็นหลัก ภาระหนี้สิน เฉลี่ยต่อครัวเรือน เท่ากับ 273,506.17 บาท แรงจูงใจในการใช้ชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่สำคัญ ประการแรก ต้องการเดินตามรอยพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงแนะนำในการดำเนินชีวิต ประการที่สอง มีความรักในอาชีพเกษตรกรรมที่ได้ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ประการที่สาม เชื่อว่าการใช้ชีวิตแบบพอเพียงจะทำให้ครอบครัวมีความสุข ประการที่สี่ มีการรับรู้ข่าวสารด้วยการพูดคุยฟังวิทยุโทรทัศน์และเข้าร่วมกิจกรรมชุมชนทุกครั้ง ประการที่ห้า เชื่อว่ามีความ เพียงพอแล้วจะสามารถลดภาระหนี้สินให้หมดลงได้ ประการที่หก เศรษฐกิจพอเพียงสามารถแก้ไขความยากจนได้อย่างแน่นอนด้วยการประหยัดค่าใช้จ่ายต่างๆ เพิ่มรายได้สะสมการออม ประการที่เจ็ด ต้องการผลิตอาหารอินทรีย์ในระบบเกษตรผสมผสานเพื่อการปลูกพืชผักกินเองสร้างอาหารปลอดภัยปลอดสารเคมีสำหรับครัวเรือนและชุมชน องค์ประกอบและปัจจัยที่สำคัญจะช่วยให้ครัวเรือนเกษตรกรแก้ไขปัญหาความยากจนได้นั้นประกอบไปด้วย ประการแรก ต้องมีการเตรียมคนโดยใช้หลักธรรมะ ประการที่สอง มีการถอดบทเรียนเพื่อสร้างองค์ความรู้ในการบริหารจัดการทรัพยากรครัวเรือน ประการที่สาม ต้องยึดหลักแนวทางการทำเกษตรแบบผสมผสาน ประการที่สี่ จัดกระบวนการผลิตและการใช้ทรัพยากรให้มีประสิทธิภาพเพื่อนำไปสู่การลดต้นทุนเพิ่มรายได้ และสะสมการออม ประการที่ห้า ให้มีกระบวนการในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของคนในครัวเรือนที่จะต้องคำนึงถึงการบริโภคที่ไม่ฟุ้งเฟ้อ โดยให้มีการลด ละ เลิกอบายมุข ประการที่หก สามารถเชื่อมโยงความรู้ดินฟ้าอากาศและสรรพสิ่งเข้าด้วยกันอย่างสมดุล เพื่อก่อให้เกิดการผลิตผลผลิตทางการเกษตรอย่างมีคุณภาพ มีอาหารปลอดภัย ปลอดสารเคมี ประกันที่เจ็ด เน้นการดำเนินชีวิตเพื่อความสุขกายและจิตใจ ประการที่แปด คำนึงให้การดำเนินชีวิตเพื่อการหลุดพ้นจากความทุกข์และความยากจนด้วยภูมิปัญญาการใช้เหตุผลและยึดมั่นทางสายกลาง เงื่อนไขที่จำเป็น ประการแรก มีอุดมการณ์และศรัทธาในแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ประการที่สอง มีจิตวิญญาณมุ่งมั่น ความเชื่อ การพึ่งตนเอง ประการที่สาม ความขยัน ประหยัด อดออม อดทน ประการที่สี่ การเรียนรู้แลกเปลี่ยนตลอดเวลา ประการที่ห้า พฤติกรรมชาวนาแบบมืออาชีพ ผลลัพธ์จากการลงมือปฏิบัติจริงก่อให้เกิดผลประการแรก ครอบครัวสามารถสร้างความมั่นคงทางอาหารได้และมีรายได้อย่างมั่นคงตลอดปี ประการที่สอง ครัวเรือนมีการดำรงชีวิตที่เรียบง่ายมีความอบอุ่นอยู่พร้อมเพรียงกันของสมาชิกในครัวเรือน ประการที่สาม ก่อให้เกิดความสุขสำหรับครัวเรือนที่เป็นเครือญาติสามารถรวมญาติพี่น้องได้โดยเฉพาะการร่วมทำบุญในประเพณีทางศาสนาต่างๆ ประการที่สี่ จำนวนครัวเรือนเกษตรกรสามารถสร้างความเข้มแข็งให้กับครอบครัวและชุมชนในหมู่บ้านได้อย่างยั่งยืน มีความรักสามัคคีซึ่งกันและกัน มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ช่วยเหลือกัน ลดปัญหาทางสังคมต่างๆ ได้ประการที่ห้า แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงที่ส่งผลต่อการแก้ปัญหาความยากจนได้นั้น ตั้งอยู่บนความมีความเชื่อ อุดมการณ์ ความศรัทธา และการลงมือปฏิบัติอย่างจริงจัง ด้วยความอดทน ขยันหมั่นเพียร ใช้ภูมิปัญญาเพื่อการจัดการทรัพยากรของตนเองให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ประการที่หก ครัวเรือนสามารถจัดการลดหนี้สินลงได้ด้วยการใช้ระบบการจดบันทึกบัญชีครัวเรือนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดต้นทุนการผลิตและค่าใช้จ่ายประจำวัน นำไปสู่การสะสมการออมของครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สามารถนำไปสู่การแก้ไขปัญหาความยากจนได้ ยุทธศาสตร์ในการที่จะผลักดันการแก้ไขปัญหาความยากจน โดยใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง คือการสร้างอุดมการณ์และความเชื่อในแนวทางการดำเนินชีวิตตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มีการบริหารจัดการทรัพยากรและแรงงานในครัวเรือนให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของตนเอง มีการประกอบอาชีพโดยการเสริมสร้างศักยภาพ ภูมิปัญญา ชุมชนองค์ความรู้ เพื่อการลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มรายได้ เป็นปัจจัยการออมของครอบครัวและมีกระบวนการสร้างความมั่นคงทางอาหารของครัวเรือน ชุมชนท้องถิ่น และเครือข่ายอาชีพ ข้อเสนอแนะในการวิจัยครั้งนี้ ให้มีการส่งเสริมให้ชุมชนท้องถิ่นจัดตั้งกลุ่มสหกรณ์ผู้ผลิตสินค้าเกษตรสหกรณ์ผู้บริโภคในท้องถิ่น และกลุ่มผู้ผลิตเกษตรผสมผสานตามธรรมชาติ มีการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้วยการฝึกอบรม ฝึกปฏิบัติ ด้านการเกษตรที่จะช่วยลดต้นทุนการผลิตและการเพิ่มรายได้ สร้างแนวทางในการส่งเสริมสนับสนุนและขยายผลหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง ด้วยการสร้างอุดมการณ์ความเชื่อตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อเน้นการผลิตให้เพียงพอต่อการบริโภคในครัวเรือน เพื่อแก้ปัญหาความยากจนโดยการเตรียมคน ด้วยการปลูกฝังการอบรม การทำบันทึกบัญชีครัวเรือน และการใช้หลักธรรมะในพระพุทธศาสนาให้มีศีล สมาธิ และปัญญา ขจัดความโลภความหลงต่อวัตถุให้ยึดมั่นเพียงพอในสิ่งที่ตนมีอยู่ รัฐบาลจำเป็นต้องสนับสนุนให้การช่วยเหลือครูเกษตรกรในด้านปัจจัยการผลิตและสร้างสาธารณูปโภคในชุมชนโดยเฉพาะการจัดหาแหล่งน้ำสำหรับชุมชนด้วยการขุดบ่อ สระน้ำ การสร้างระบบชลประทาน การฟื้นฟูปรับปรุงแหล่งน้ำเดิมที่มีอยู่ในชุมชนสำหรับการปลูกพืชผัก และการจัดสร้างตลาดสีเขียวสำหรับการจำหน่ายผลผลิตการสร้างจิตวิญญาณ แก่เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องกับเกษตรกรให้ตระหนักถึงความอยู่รอดของครัวเรือนชนบทในแนวทางการทำการเกษตรผสมผสานบนฐานเศรษฐกิจพอเพียง
Abstract: The objectives of this qualitative research were to: (1) study contexts related to changes in a production system and values of small-landed agricultural household; and (2) study factors and models related to success in the poverty resolution based on the principle of sufficiency economy. The participants were selected purposively. In-depth interviews and focused-group discussions had arranged by the researchers to collect data. Totally, there were 81 agricultural households participated in this study including: (1) 27 agricultural households living in Ban Borkae, choomponburi district, Surin province; (2) 25 agricultural households living in Ban Yang Noi, Mahachanachai district, Yasothorn province; and (3) 29 agricultural households living living in Ban Ponehard, Kasetwisai district, Roi-et province. The study found that: The ways of life of agriculturist in the 3 above-mentioned areas are based on the the traditional belief about “Heet 12 Klong 14” which has been inherited from their ancestors since the past time. Future, the Buddhist principles are also employed as a guideline for their daily life too. In addition, they also live basing on the self-reliant concept in order to service drought during the dry season and floods in the rainy season. “Thung Kula Rong-Hai” has been mentioned widely as an inappropriate area for agriculture since the past time. However, the Thai government has issued the policy to overcome the problem of poverty by providing several projects to improve a production system for agriculturists. As a result, the agriculturists have an opportunity to exchange knowledge and wisdoms among them. Nowadays, there is learning centers established in villages. During 2015-2016, the study revealed that there are about 4.28 members in each family. Generally, the participants graduated at a primary level (52.74%), a secondary school level (37.75%), and a bachelor degree level (9.51%), respectively. The average number of land of each agricultural households is about 32.99 rai and about 29.66 rai are used for growing Hom Ma-li. Each rai could provice Hom Ma-li rice about 366.94 kg., approximately. The agriculturist’ incomes are mostly are mostly generated from rice selling. Others sources of incomes are from domestic animals, gardening, weaving, and working for money. The income of each household is about 317,134.57 baht per year. The study also showed that the average expense for a rice production is about 68,535.37 baht for each household while the average expense for household consumption is about 133,670.04 baht per year. Normally, the agricultural households usually borrow the money mainly from the bank for Agriculture and Agricultural cooperatives. The average debt of each agricultural household is about 273.506.17 baht. According to the agricultural households’ motivation to live basing on the principle of sufficiency economy, the study found that the first reason is to practice and perform following His Majesty King Bhumibol Adulyadej’s suggestions. The second reason is because of they love to be agriculturists. The reason is because they believe that their families will live happily if they are living based on the principle of sufficiency economy. The fourth reason is because the knowledge about sufficiency economy has been promoted publicly. The fifth reason is because the agriculturists believe that they will be free of debt if they live based on the principle of sufficiency. The sixth reason is because the agriculturists ensure that the sufficiency economy could help them to overcome the state of poverty by decreasing expenses, increasing incomes, and saving money. Finally, the agriculturists need to produce organic products themselves for their own consumption. In order to overcome the state of poverty, there are factors and components related to the success of agricultural households as following. First, people must be prepared for readiness through the Buddhist principles. Second, a management of household resources should be distillated to form to form new body of knowledge. Third, the agriculturist must perform based on the principle of integrated farming. Fourth, a production process and a utilization of resources should be managed effectively for a cost reduction and for an increasing of income. Fifth, living behaviors of people within a family should be changed by trying to reduce and stop all vices. Sixth, the agriculturists should be able to integrate and apply knowledge related to land, air, and climate together for a production of non-toxic qualified products. Seventh, a living should be focused on a living for physical and mental happiness. Finally, a consideration should be paid to how to overcome the state of poverty by using wisdoms and moderate practices. However, the important conditions to overcome the stage of poverty consist of 5 conditions as following. First, the agriculturists have to believe in the concept of sufficiency economy. Secondly, the agriculturists should be willful and need to be a self-reliant family. Thirdly, the agriculturists should work hard and being patient. Fourthly, knowledge and wisdoms should be exchanged all the time among the agriculturists. Fifthly, the agriculturists should perform professionally. Results generated from real practices are as following. First, there will be a security in foods for a family through a year. Second, ways of life of agricultural households are simple where every member in a living together. Third, it is easy for relatives to assemble especially in occasions. Fourth, the agricultural households could be able to help for a community’s sustainably strengthening through their unity and generosity. Fifth, in order to overcome the stage of poverty through the principle of sufficiency economy, the agriculturists should be firmly grounded on the belief and practice based on the sufficiency principle. Further, the agriculturists have to use their knowledge and wisdoms to manage their resources most effectively and efficiently. Sixth, a household’s debt could be able to reduce through an application of household accounting. This is aimed to reduce a production cost and a daily expense and it is also hoped that this will also help to increase a saving level of agricultural households to overcome the state of poverty, finally. The strategies to overcome the state of poverty based on the principle of sufficiency economy consist of establishing the belief about sufficiency economy, managing resources and labors of a family according to individual’s ways of life, working by supporting to increase to ability, local wisdoms and knowledge in order to reduce expenses and to increase, incomes, focusing on a family’s saving, and having a process to generate a security in foods of a family, a community, and a network. Basing on this present study, it is recommended to establish cooperatives for agricultures, producers, agricultural consumers, and integrate farming producers within a community. Knowledge and wisdoms should be transferred to agriculturist through training and workshop in order to reduce a production cost ad increase income. Further, the principle of sufficiency economy should be promoted publicly as a way to overcome the state of poverty. This could be done by acknowledging people about saving, making a household expense account, and living based on the Buddhist principles. In addition, the government has to support the agricultural households for factors production. This also includes a community especially for a preparation of water resources for a community by digging a well or pond, constructing an irrigation system, improving or rehabilitating water resources within a community for gardening. Another recommendation is that there should be a green market for agriculturists to sell their products. Finally, officers whose jobs are related to in rural areas based on the integrated farming and sufficiency economy.
มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์. สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ
Address: สุรินทร์
Email: arit@srru.ac.th
Role: ผู้ให้ทุน
Created: 2559
Modified: 2564-07-09
Issued: 2564-07-09
งานวิจัย/Research report
application/pdf
CallNumber: 362.58 ส247น
tha
©copyrights มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์
RightsAccess:
ลำดับที่.ชื่อแฟ้มข้อมูล ขนาดแฟ้มข้อมูลจำนวนเข้าถึง วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1 SRRUResearch2564-55.pdf 27.73 MB90 2025-09-22 21:08:15
ใช้เวลา
0.05012 วินาที

สุริยะ ชนะใจ
Title Contributor Type
การศึกษาแนวทางการพัฒนาหลักสูตรยุทธศาสตร์การบริหารจัดการการท่องเที่ยว
มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์
สุริยะ ชนะใจ;กัลยา อรรถกุล;นฤมล เจริญสวัสดิ์;น้ำฝน จานนอก
มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2556
งานวิจัย/Research report
แนวทางการแก้ไขปัญหาความยากจนของครัวเรือนเกษตรกรรายย่อยบนฐานปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้
มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์
สุริยะ ชนะใจ;ภัทราพร สระศรี;เสาวนีย์ ปรางค์ชัยกุล;อำภา เทียมวงษ์
สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ตามมติคณะรัฐมนตรี
งานวิจัย/Research report
ภัทราพร สระศรี
Title Contributor Type
แนวทางการแก้ไขปัญหาความยากจนของครัวเรือนเกษตรกรรายย่อยบนฐานปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้
มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์
สุริยะ ชนะใจ;ภัทราพร สระศรี;เสาวนีย์ ปรางค์ชัยกุล;อำภา เทียมวงษ์
สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ตามมติคณะรัฐมนตรี
งานวิจัย/Research report
รูปแบบการจัดการวิสาหกิจชุมชนตามแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนของจังหวัดสุรินทร์
มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์
ภัทราพร สระศรี;ลภัสรดา หอมคำ;เสาวนีย์ ปรางค์ชัยกุล
ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากมหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ โดยความเห็นชอบของสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ปีงบประมาณ 2559
งานวิจัย/Research report
การพัฒนารูปแบบการจัดการการเงินของครอบครัวชาวอีสานใต้ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์
ลภัสรดา หอมคำ;ภัทราพร สระศรี;นฤมล วลีประทานพร;พิมภัสสร ชูตระกูล
ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากมหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2559
งานวิจัย/Research report
การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจชุมชนยุคประชาคมอาเซียนจากการเข้ามาของแรงงานข้ามชาติ
มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์
ลภัสรดา หอมคำ ;ภัทราพร สระศรี
ได้รับการสนับสนุนการวิจัยงบประมาณแผ่นดิน (วช.) ประจำปีงบประมาณ 2560
งานวิจัย/Research report
เสาวนีย์ ปรางค์ชัยกุล
Title Contributor Type
แนวทางการแก้ไขปัญหาความยากจนของครัวเรือนเกษตรกรรายย่อยบนฐานปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้
มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์
สุริยะ ชนะใจ;ภัทราพร สระศรี;เสาวนีย์ ปรางค์ชัยกุล;อำภา เทียมวงษ์
สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ตามมติคณะรัฐมนตรี
งานวิจัย/Research report
รูปแบบการจัดการวิสาหกิจชุมชนตามแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนของจังหวัดสุรินทร์
มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์
ภัทราพร สระศรี;ลภัสรดา หอมคำ;เสาวนีย์ ปรางค์ชัยกุล
ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากมหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ โดยความเห็นชอบของสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ปีงบประมาณ 2559
งานวิจัย/Research report
อำภา เทียมวงษ์
สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ตามมติคณะรัฐมนตรี
Title Creator Type and Date Create
การสร้างชุดผลิตเสื้อเตาซุปเปอร์อั้งโล่ประสิทธิภาพสูงแบบมาตรฐานตามเกณฑ์กระทรวงพลังงาน สำหรับกลุ่มผู้ผลิตเตาหุงต้มเพื่อจำหน่าย
มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์
สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ตามมติคณะรัฐมนตรี
ศุภชัย แก้วจันทร์
งานวิจัย/Research report
แนวทางการแก้ไขปัญหาความยากจนของครัวเรือนเกษตรกรรายย่อยบนฐานปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้
มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์
สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ตามมติคณะรัฐมนตรี
สุริยะ ชนะใจ
ภัทราพร สระศรี
เสาวนีย์ ปรางค์ชัยกุล
อำภา เทียมวงษ์
งานวิจัย/Research report
Copyright 2000 - 2025 ThaiLIS Digital Collection Working Group. All rights reserved.
ThaiLIS is Thailand Library Integrated System
สนับสนุนโดย สำนักงานบริหารเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อพัฒนาการศึกษา
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
328 ถ.ศรีอยุธยา แขวง ทุ่งพญาไท เขต ราชเทวี กรุงเทพ 10400 โทร. โทร. 02-232-4000
กำลัง ออน์ไลน์
ภายในเครือข่าย ThaiLIS จำนวน 0
ภายนอกเครือข่าย ThaiLIS จำนวน 2,630
รวม 2,630 คน

More info..
นอก ThaiLIS = 72,737 ครั้ง
มหาวิทยาลัยสังกัดทบวงเดิม = 40 ครั้ง
มหาวิทยาลัยราชภัฏ = 15 ครั้ง
มหาวิทยาลัยเอกชน = 1 ครั้ง
รวม 72,793 ครั้ง
Database server :
Version 2.5 Last update 1-06-2018
Power By SUSE PHP MySQL IndexData Mambo Bootstrap
มีปัญหาในการใช้งานติดต่อผ่านระบบ UniNetHelp


Server : 8.199.134
Client : Not ThaiLIS Member
From IP : 216.73.216.104