ปัญหาการกำหนดความผิดมูลฐานตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน

Problems of Defining Offences as the Predicate Offences of the Law on Money Laundering Control

Name: พรพัฒนศักดิ์ พันธ์ถนอม

ThaSH: การฟอกเงิน -- กฎหมายและระเบียบข้อบังคับ -- วิจัย

ThaSH: พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 -- วิจัย

Abstract: การฟอกเงิน เป็นวิธีการที่อาชญากรนำเงินหรือทรัพย์สิน ที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดมูลฐานแต่ละประเภท ไปผ่านกระบวนการต่าง ๆ เพื่อซุกซ่อน หรือปกปิดแหล่งที่มาหรือแหล่งที่ตั้ง ปกปิดการจำหน่าย การโอน เพื่อไม่ให้ปรากฏร่องรอยทางการเงินหรือทรัพย์สิน ทำให้ดูเหมือนว่าเป็นเงินหรือทรัพย์สินที่ได้มาจากกิจการที่ชอบด้วยกฎหมาย ต่อจากนั้นจึงมีการนำกลับไปสู่เจ้าของในรูปของเงินหรือทรัพย์สินเสมือนชอบด้วยกฎหมาย และพร้อมที่จะถูกนำมาใช้ประกอบอาชญากรรมขยายออกไปได้อีก ทำให้ในปัจจุบันการฟอกเงินได้กลายเป็นรูปแบบการกระทำความผิดที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายของผู้ก่ออาชญากรรม เพื่อใช้เป็นเครื่องมือเพื่อปกปิดและแสวงหาผลประโยชน์จากการกระทำความผิด นอกจากนี้การฟอกเงินยังก่อให้เกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากเงินที่นำมาใช้ฟอกเงินนั้นเป็นเงินนอกระบบ อันมิได้เกิดจากผลผลิตทางเศรษฐกิจ และเงินดังกล่าวยังอาจนำไปใช้เพื่อการขยายเครือข่ายของการประกอบอาชญากรรม จนกลายเป็นอาชญากรรมข้ามชาติที่มีอิทธิพลและก่อให้เกิดปัญหาอันเกี่ยวเนื่องกับความสงบสุขของสังคม และอาจกลายเป็นปัญหาที่เกี่ยวเนื่องกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอีกด้วย ด้วยเหตุดังกล่าว เนื้อหาของกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินในส่วนสำคัญที่มีผลต่อการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมก็คือ การกำหนดความผิดมูลฐานไว้ในกฎหมายดังกล่าว ตามแต่นโยบายของแต่ละประเทศที่จะมุ่งปราบปรามความผิดมูลฐานเหล่านั้น โดยความผิดมูลฐานที่กำหนดไว้นี้ ผู้กระทำความผิดตามฐานความผิดที่กำหนดไว้เป็นความผิดมูลฐานจะยังไม่มีความผิดฐานฟอกเงิน แต่ถ้าผู้กระทำความผิดหรือบุคคลอื่นกระทำการฟอกเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิดตามความผิดมูลฐานที่กำหนดไว้ ผู้นั้นจึงจะมี ความผิดฐานฟอกเงิน ดังนั้น ความผิดมูลฐานจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องถูกกำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน จากการศึกษาพบว่า บทบัญญัติของกฎหมายที่เกี่ยวกับการกำหนดความผิดมูลฐานตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง แม้จะกำหนดความผิดมูลฐานไว้รวมเป็นจำนวนถึง 26 มูลฐาน แต่ก็ยังมีปัญหาอยู่อีกหลายประการ ซึ่งได้แก่ ปัญหาการกำหนดความผิดมูลฐานซึ่งกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของบุคคลตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ปัญหาการกำหนดความผิดมูลฐานตามกฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินไว้เป็นจำนวนมากซึ่งก่อให้เกิดสภาวะกฎหมายอาญาเฟ้อ ในขณะเดียวกันก็เกิดปัญหากรณีความผิดมูลฐานมี่มีอยู่ในปัจจุบันยังคงมีไม่เพียงพอต่อการบังคับใช้และเกิดช่องว่างของกฎหมาย อีกด้วย ดังนั้นเพื่อให้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดความผิดมูลฐานตามกฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินมีประสิทธิภาพมากขึ้น ผู้ศึกษาจึงเสนอแนะให้สมควรต้องมีการปรับปรุงแก้ไขบทบัญญัติของพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 3 บทนิยามของ “ความผิดมูลฐาน” ให้มีอนุมาตราที่ (22) เพิ่มขึ้นจากเดิม โดยมีเนื้อหาดังนี้ “ความผิดอื่นใดที่มีโทษทางอาญาให้จำคุกอย่างสูงตั้งแต่ 4 ปีขึ้นไป หรืออัตราโทษที่ร้ายแรงกว่า และลักษณะของความผิดดังกล่าวจะก่อหรืออาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจและสังคมเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ตามบทบัญญัติของกฎหมาย หรือตามที่กำหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกา” จะทำให้กฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินมีความเท่าทันต่อการรูปแบบการกระทำความผิดของอาชญากรที่เปลี่ยนแปลงทั้งในปัจจุบันและอนาคต และทำให้สามารถบังคับใช้กฎหมายเพื่อป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เนื่องจากสามารถบัญญัติความผิดมูลฐานใหม่ๆ ภายใต้กรอบที่พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 บัญญัติไว้ได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องแก้ไขเพิ่มความผิดมูลฐานใหม่ๆ ลงไว้ในพระราชบัญญัติดังกล่าวโดยตรงอีกต่อไป

มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์. ศูนย์เรียนรู้และหอสมุด.

Address: กรุงเทพมหานคร

Email: library@dpu.ac.th

Name: พินิจ ทิพย์มณี

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Modified: 2564-04-30

Created: 2561

Issued: 2564-04-28

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

tha

DegreeName: นิติศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: นิติศาสตร์

Grantor: มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์

©copyrights มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	Pornphatthanasak.Pun.pdf	1.83 MB	6	2025-04-06 14:29:55

ใช้เวลา

0.235155 วินาที