รูปแบบสมรรถนะของผู้บริหารสถานศึกษาโรงเรียนเหล่าสายวิทยาการของกองทัพบก

Competency model of educational institution administrators, the Royal Thai Army academy branch schools

Name: อรทัย บุญชื่น

keyword: สมรรถนะการบริหารจัดการศึกษา

ThaSH: ภาวะผู้นำทางการศึกษา -- ไทย

ThaSH: ผู้บริหารโรงเรียน

ThaSH: การศึกษา -- การบริหาร

Abstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดรูปแบบสมรรถนะ การจัดทำโครงสร้างสมรรถนะและตรวจสอบรูปแบบสมรรถนะของผู้บริหารสถานศึกษาโรงเรียนเหล่า สายวิทยาการของกองทัพ ผู้วิจัย ได้นำแนวคิดการกำหนดรูปแบบสมรรถนะมาประยุกต์ใช้ในการจัดทำสมรรถนะประจำตำแหน่งงาน ประชากรที่ใช้ในการดำเนินการวิจัย ประกอบด้วย ผู้บริหารสถานศึกษาโรงเรียนเหล่า สายวิทยาการของกองทัพบก จำนวน 12 คน ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการศึกษาของกองทัพบก จำนวน 5 คน และบุคลากรผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholders) กับตำแหน่งงานผู้บริหารสถานศึกษาโรงเรียนเหล่า สายวิทยาการของกองทัพบก จำนวน 25 คน โดยกำหนดขั้นตอนการวิจัย 6 ขั้นตอน คือ 1) สำรวจและจัดเก็บข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับปรัชญา วิสัยทัศน์ พันธกิจโรงเรียนเหล่า สายวิทยาการ ทั้ง 22 แห่ง 2) วิเคราะห์หากลุ่มภารกิจงาน (Job Analysis) 3) สำรวจข้อมูล ความรู้ ทักษะ และคุณลักษณะ เชิงพฤติกรรม ที่จำเป็น ในการปฏิบัติงานในหน้าที่ 4) กำหนด (ร่าง) สมรรถนะเบื้องต้น 5) จัดทำโครงสร้างและรายละเอียดของสมรรถนะ ประกอบด้วย ชื่อสมรรถนะ คำนิยามสมรรถนะ ระดับสมรรถนะ พฤติกรรมบ่งชี้สมรรถนะ และ 6) ตรวจสอบรูปแบบสมรรถนะ เชิงโครงสร้างเนื้อหาและภาษา ผลการวิจัยได้ดังนี้ จากการวิเคราะห์งานของโรงเรียนเหล่า สายวิทยาการได้องค์ประกอบ ความรู้ ทักษะ และคุณลักษณะเชิงพฤติกรรมของผู้บริหารสถานศึกษาโรงเรียนเหล่า สายวิทยาการของกองทัพบกที่ควรจะมีในการปฏิบัติงานตามหน้าที่ให้บรรลุตามเป้าหมายขององค์กร ได้แก่ องค์ประกอบความรู้จำนวน 12 ข้อ องค์ประกอบทักษะจำนวน 27 ข้อและองค์ประกอบคุณลักษณะเชิงพฤติกรรมจำนวน 21 ข้อ นำองค์ประกอบ ความรู้ ทักษะ และคุณลักษณะเชิงพฤติกรรมจำเป็น มากำหนดสมรรถนะต้นแบบ ได้จำนวน 7 สมรรถนะ ตรวจสอบความถูกต้องของสมรรถนะที่พัฒนาขึ้นพบว่าสมรรถนะที่มีค่าความสอดคล้องสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้มีจำนวน 5 สมรรถนะ จากนั้นนำมาจัดทำโครงสร้างและรายละเอียดของสมรรถนะ ประกอบด้วย ชื่อสมรรถนะคำนิยามสมรรถนะและพฤติกรรมบ่งชี้ในแต่ละระดับ และตรวจสอบ เชิงโครงสร้างเนื้อหาและภาษาได้ผล ดังนี้ สมรรถนะ “จริยธรรม” ซึ่งกำหนดนิยามสมรรถนะไว้ว่า “ความสามารถครองตนครองคน ครองงานถูกต้องตามหลักคุณธรรมจริยธรรม กฎหมายและวินัยทหาร เพื่อให้เป็นแบบอย่างที่ดีแก่องค์การทหาร สังคมและสร้างศรัทธาแห่งวิชาชีพ” สมรรถนะ “ความเชี่ยวชาญการบริหารจัดการทรัพยากร” (Resource Management Expertise) ซึ่งกำหนดนิยามสมรรถนะไว้ว่า “ความสามารถในการบริหารจัดการทรัพยากรทั้งภายในและภายนอกองค์กร (งบประมาณ บุคคล ข้อมูล เทคโนโลยี และสิ่งอุปกรณ์อื่น ๆ) มีการจัดสรรทรัพยากรที่มีอยู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้บรรลุผลตามวิสัยทัศน์ พันธกิจและวัตถุประสงค์ของสถานศึกษา” สมรรถนะการบริหารจัดการศึกษา (Educational Management) ซึ่งกำหนดนิยามสมรรถนะไว้ว่า “ความสามารถบริหารจัดการ ส่งเสริม สนับสนุน การจัดการศึกษามีคุณภาพเพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ สามารถพัฒนาตนเองได้เต็มตามศักยภาพ มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์และก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงคุณลักษณะเชิงพฤติกรรมอย่างยั่งยืน” สมรรถนะภาวะผู้นำ (Leadership) ซึ่งกำหนดนิยามสมรรถนะไว้ว่า “ความสามารถนำกลุ่มคน นำองค์กร กำหนดวิสัยทัศน์ วัตถุประสงค์และกลยุทธ์ คิดค้นนวัตกรรม จัดระบบฐานข้อมูลและการจัดการความรู้ สร้างความผูกพัน โน้มน้าว โดยยึดหลักคุณธรรมจริยธรรมหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี เพื่อส่งเสริมการดำเนินงานทางการศึกษาไปสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างมีประสิทธิภาพ” สมรรถนะการบริหารการประชาสัมพันธ์และสัมพันธ์ชุมชน (Public Relation Management and Public Relationships) ซึ่งกำหนดนิยามสมรรถนะไว้ว่า “ความสามารถบริหารจัดการ ส่งเสริม สนับสนุนด้านงานประชาสัมพันธ์ และความสามารถในการสร้างสัมพันธ์ร่วมกับชุมชนภายนอกสถานศึกษา เพื่อส่งเสริมการจัดการศึกษา”

Abstract: The purposes of this research are 1) to specify the competency model and to examine the proposed competency mode of educational institution administrators, the Royal Thai Army Academy Branch Schools. The notion of specifying competency model is applied to establish competency model of each job title. The population consists of 12 educational institution administrators from the Royal Thai Army Academy Branch Schools, 5 Royal Thai Army supervisors, and 25 stakeholders of the schools. The research methodology includes 6 steps as follows: 1) ascertain general background of these 22 schools including their philosophy, vision, and mission, 2) conduct job analysis to categorize job description, 3) ascertain the information concerning subject matters, skills and behavioral characteristics, which are required for the administrators, 4) draft the preliminary competency model, 5) design the competency structure and its details including competency title, its definition, its level and its behavioral indicators, and 6) examine the competency model in terms of its content structure and language. The research findings are as follows; 12 items of ascertaining knowledge including subject matters, skills and behavioral characteristics required for the administrators, 27 items of skills, and 21 items of behavioral characteristics. The results of assimilating these findings lead to 7 prototype competency models, after examining these models 5 of which are found consistency and reliable, and these models are applied to design the structure and details of the competencies comprising competency title, its definition, and its behavioral characteristics. The results of assessing the structure and details the competencies in terms of their subject matters and language reveal the following competencies; 1. ‘Integrity’, which is defined as ‘the ability to employ their integrity together with law and military disciplines in self-disciplining, manpower managing, and administrating, and these lead to the role model of military institutions, societies and faith in the profession.’ 2. ‘Resource Management Expertise’, which is defined as ‘the ability to administer and manage both internal and external resources (budget, personnel, data, technology and other equipments), and to efficiently allocate the resources to serve the vision, mission, and objectives of each educational institution. 3. ‘Education Management’, which is defined as ‘the ability to administer and manage, encourage, and support the quality education management enabling learners to learn and develop themselves to their full capacity with desired characteristics and permanent changes in their behavioral characteristics’. 4. ‘Leadership’, which is defined as ‘the ability to lead personnel, and organization, specify vision, objectives and strategies, create innovation, manage databases and knowledge, create good relationship, and motivate with the emphasis on the rules of moral and good governance leading to changes in quality education development’. 5. ‘Public Relation Management and Local Relations’, which is defined as ‘the ability to administer and manage, encourage, and support public relation affairs and to build good relations with local with the purposes of academic services

มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา. ศูนย์วิทยบริการ

Address: กรุงเทพมหานคร

Email: library@ssru.ac.th

Name: อัจฉรา โพธิยานนท์

Role: ที่ปรึกษาภาคนิพนธ์

Created: 2553

Modified: 2564-04-27

Issued: 2564-04-27

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

tha

DegreeName: ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: การจัดการคุณภาพ

Grantor: มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา

©copyrights มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	Oratai_Boonchun.pdf	4.09 MB	28	2025-08-11 17:13:42

ใช้เวลา

0.03036 วินาที