The effect of Pilates respiration-based classical vocal technique on student's vocal performance : a single-case study

การศึกษาประสิทธิผลของเทคนิคการขับร้องคลาสสิกตามหลักการหายใจแบบพิลาทิศที่มีต่อทักษะการขับร้องเพลงคลาสสิก : การวิจัยกรณีศึกษากรณีเดี่ยว

Name: Seth Kampiranon.

LCSH: Singing -- Instruction and study

LCSH: Vocal technique.

LCSH: Singing -- Methods.

LCSH: Respiration

LCSH: Singing -- Breathing exercises

LCSH: Voice.

Abstract: The purpose of this study was to examine the effectiveness of Pilates Respiration-Based Classical vocal technique (PRBC) on student's vocal performance. The participants were two students who were trained in contemporary and classical singing. The single-case (AB) design was employed in this study, consisting of baseline session (A) and intervention session (B). The Classical Voice Rubrics Assessment was used to measure vocal performance outcomes, with findings presented by visual inspection. During baseline sessions, participants were found to be not breathing sufficiently and not engaging their muscle supports during singing, which caused improper delivery of voice tones. Their vocal performances showed some progress during the second and third intervention sessions, then continuous improvement in their respiration and vocalization from the third and fourth sessions, until the last intervention session, when significant results were sustained. Regarding the PRBC, participants demonstrated improvement in vocal performance, including; 1) Breathing management, 2) Phrase duration, 3) Intonation/ Pitch, and 4) Tonal quality/ Interpretation. Thus, the results of this study revealed that PRBC enhanced the classical voice performance of students effectively.

Abstract: การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาประสิทธิผลของการร้องคลาสสิกตามหลักการหายใจแบบพิลาทิสที่มีต่อทักษะการร้องเพลงคลาสสิกของนักเรียน ผู้เข้าร่วมวิจัย คือ นักเรียนที่ผ่านการเรียนขับร้องแบบร่วมสมัยและคลาสสิกจำนวน 2 คน การวิจัยในครั้งนี้ใช้ระเบียบวิธีวิจัยกรณีศึกษากรณี เดี่ยว (AB single-case design) การทดลองประกอบด้วยระยะ Baseline (A) และ กิจกรรมการทดลอง (B) เครื่องมือที่ใช้ประเมินผลทักษะการขับร้องคือ Classical Voice Rubrics Assessment การวิจัยในครั้งนี้นำเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลในรูปแบบกราฟเส้น (Visual inspection) แสดงพัฒนาการทักษะการขับร้องของนักเรียนในแต่ละคนผลการวิจัยพบว่า ในระยะ Baseline (A) ผู้เข้าร่วมทั้งสองคนมีลมหายใจที่ไม่เพียงพอในการร้องเพลงและไม่สามารถใช้กล้ามเนื้อในการส่งเสริมการร้องได้อย่างเหมาะสมโดยทำให้ใช้โทนเสียงในการร้องเพลงอย่างไม่มีประสิทธิภาพ เมื่อผู้เข้าร่วมทั้งสองคนได้รับการสอนการร้องคลาสสิกตามหลักการหายใจแบบพิลาทิส (B) ในครั้งที่สองและครั้งที่สาม ทักษะในการร้องเพลงของผู้เข้าร่วมทั้งสอง คนค่อยๆพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงระยะสุดท้าย การใช้เทคนิคการขับร้องคลาสสิกตามหลักการหายใจแบบพิลาทิสในครั้งนี้พบว่าผู้เข้าร่วมทั้งสองมีการพัฒนาทักษะด้านการร้องเพลงที่ดีขึ้นในด้าน 1) การบริหารการหายใจ 2) ระยะของประโยคเพลง 3) ท่วงทำนอง/ ระดับเสียง และ 4) คุณภาพของโทนเสียง/การตีความ ผลที่ได้จากการวิจัยสรุปได้ว่าการใช้เทคนิคการขับร้องคลาสสิกตามหลักการหายใจแบบพิลา ทิสที่มีต่อทักษะการขับร้องเพลงคลาสสิกสามารถช่วยพัฒนาทักษะการร้องเพลงคลาสสิกได้อย่างมีประสิทธิผล

Mahidol University. Mahidol University Library and Knowledge Center

Address: NAKHONPATHOM

Email: liwww@mahidol.ac.th

Name: Natee Chiengchana

Role: Thesis Advisors

Name: Preeyanun Promsukkul

Role: Thesis Advisors

Created: 2016

Modified: 2564-05-07

Issued: 2021-04-26

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

CallNumber: TH S495e 2016

eng

DegreeName: Master of Arts

Level: Master's Degree

Descipline: Music

Grantor: Mahidol University

©copyrights Mahidol University

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	5637310.pdf	1.39 MB	24	2025-01-23 08:46:32

ใช้เวลา

0.232012 วินาที