รูปแบบการพัฒนาศักยภาพในการจัดการสิ่งแวดล้อมชุมชนแบบมีส่วนร่วมของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน จังหวัดบุรีรัมย์
Potential development model for participatory environmental management of Village Health Volunteers in Buriram Province
Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพและปัญหาในการจัดการสิ่งแวดล้อมชุมชนของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน จังหวัดบุรีรัมย์ 2) ศึกษาระดับความรู้ ความตระหนัก และความต้องการพัฒนาศักยภาพในการจัดการสิ่งแวดล้อมชุมชนของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน 3) สร้างรูปแบบการพัฒนาศักยภาพในการจัดการสิ่งแวดล้อมชุมชนแบบมีส่วนร่วมของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน 4) เปรียบเทียบผลการใช้รูปแบบการพัฒนาศักยภาพในการจัดการสิ่งแวดล้อมชุมชนแบบมีส่วนร่วม ด้านความรู้ ความตระหนักและการจัดการสิ่งแวดล้อมก่อนกับหลังการใช้รูปแบบและประเมินความพึงพอใจของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านหลังการใช้รูปแบบพื้นที่วิจัย คือจังหวัดบุรีรัมย์ ใช้การวิจัยแบบผสานวิธีแบ่งเป็น 4 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ศึกษาสภาพและปัญหา ประชากร คือ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ในจังหวัดบุรีรัมย์ จำนวน 27,834 คนกำหนดตัวอย่างตามตารางเครจซี่และมอร์แกน ได้จำนวน 379 คน สุ่มตัวอย่างแบบเป็นระบบ เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามที่มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.91 ระยะที่ 2 ศึกษาระดับความรู้ ความตระหนักและความต้องการพัฒนาศักยภาพใช้กลุ่มตัวอย่างกลุ่มเดียวกับระยะที่ 1 เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบทดสอบความรู้ที่มีค่าความยากง่ายระหว่าง 0.47 - 0.73 ค่าอำนาจจำแนกระหว่าง 0.44 - 0.89 ค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.86 แบบสอบถามความตระหนักมีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.86 และความต้องการพัฒนาศักยภาพมีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.91 ระยะที่ 3 สร้างรูปแบบการพัฒนาศักยภาพ แบ่งเป็น 4 ขั้นตอน 1) ร่างรูปแบบโดยการจัดสนทนากลุ่มตัวแทนอาสาสมัครสาธารณสุข ผู้นำชุมชนและนักวิชาการ จำนวน 10 คน เครื่องมือที่ใช้ คือ ประเด็นการสนทนากลุ่ม 2) ประเมินรูปแบบ โดยผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 5 คน เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบประเมินที่มีค่าความสอดคล้องระหว่าง 0.60 - 1.00 3) ปรับปรุงรูปแบบโดยการสนทนากลุ่ม ใช้กลุ่มตัวอย่างเดียวกับขั้นที่ 2 เครื่องมือ ที่ใช้เป็นแบบบันทึกการปรับปรุง 4) ปฏิบัติการตามรูปแบบ กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านที่สมัครใจเข้าร่วม จำนวน 50 คน ผู้นำชุมชน จำนวน 12 คน ตัวแทนครัวเรือนที่สมัครใจเข้าร่วม จำนวน 50 คน ในตำบลสนวน อำเภอห้วยราช จังหวัดบุรีรัมย์ โดยใช้เครื่องมือเป็นแบบบันทึกการทำกิจกรรม ระยะที่ 4 ประเมินผลการใช้รูปแบบ โดยเปรียบเทียบความรู้และความตระหนักก่อนกับหลังการใช้รูปแบบ ประเมินผลการจัดการสิ่งแวดล้อมชุมชนของครัวเรือนต้นแบบ และประเมินความพึงพอใจต่อการปฏิบัติการตามรูปแบบ กลุ่มตัวอย่าง คือ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านกลุ่มเดียวกับที่ใช้ในขั้นที่ 4 ของระยะที่ 3 เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบทดสอบความรู้และแบบสอบถามความตระหนัก ชุดเดียวกับระยะที่ 2 และแบบประเมินความพึงพอใจที่มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.91 และเปรียบเทียบการจัดการสิ่งแวดล้อมระหว่างก่อนกับหลังการใช้รูปแบบ กลุ่มตัวอย่างเป็นตัวแทนครัวเรือนกลุ่มเดียวกับที่ใช้ในขั้นที่ 4 ของระยะที่ 3 เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบประเมินการจัดการสิ่งแวดล้อมชุมชนตามเกณฑ์บ้านสะอาด อนามัยดี ชีวีสมบูรณ์ ของกระทรวงสาธารณสุข การวิเคราะห์ข้อมูล ใช้การวิเคราะห์เนื้อหา และใช้สถิติ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าทีที่ไม่เป็นอิสระต่อกัน และวิเคราะห์การจัดการสิ่งแวดล้อมชุมชนด้วยค่าร้อยละของครัวเรือนที่ผ่านเกณฑ์ ผลการวิจัยพบว่า 1) สภาพการจัดการสิ่งแวดล้อมชุมชนของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน โดยภาพรวมมีความเหมาะสมในระดับปานกลาง ( = 3.09, S.D. = 0.89) ด้านที่มีการจัดการเหมาะสมในระดับมากคือการจัดการที่พักอาศัยที่ถูกสุขลักษณะ ( = 3.53, S.D. = 0.86) ปัญหาการจัดการสิ่งแวดล้อมชุมชนของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านโดยภาพรวมมีปัญหาในระดับปานกลาง ( = 3.42, S.D. = 0.84) ด้านที่มีปัญหาในระดับมากคือ การจัดการขยะมูลฝอยในครัวเรือนและชุมชน ( = 3.91, S.D. = 0.76) 2) อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน จังหวัดบุรีรัมย์ส่วนใหญ่มีความรู้ในระดับปานกลาง (ร้อยละ 62.53) ด้านที่มีความรู้น้อยที่สุด คือ การจัดการคัดแยกขยะมูลฝอยที่ครบวงจร (ร้อยละ 53.03) มีความตระหนักโดยภาพรวมในระดับปานกลาง ( = 3.26, S.D. = 0.59) ด้านที่มีความตระหนักน้อยที่สุด คือการยอมรับความสามารถในการจัดการสิ่งแวดล้อมของคนในชุมชน ( = 3.05, S.D. = 0.79) และมีความต้องการพัฒนาศักยภาพโดยภาพรวมในระดับปานกลาง ( = 3.46, S.D. = 0.80) ด้านที่มีความต้องการพัฒนามากที่สุดคือการจัดการขยะมูลฝอยในครัวเรือนและชุมชน ( = 3.94, S.D. = 0.69) 3) ได้รูปแบบการพัฒนาศักยภาพในการจัดการสิ่งแวดล้อมชุมชนแบบมีส่วนร่วมของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ที่เป็นนวัตกรรมเชิงกระบวนการ ในการสร้างสมรรถนะของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ที่เน้นการเรียนรู้เชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมของชุมชน(Community: C) ในการจัดการสิ่งแวดล้อม(Environment: E) ซึ่งได้รูปแบบ CE : 2PS Model โดยมีองค์ประกอบ 3 ด้าน คือ ความรู้ ความตระหนักและทักษะของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน จากนั้นพัฒนาครัวเรือนต้นแบบแล้วขยายผลสู่เครือข่ายชุมชน โดยมีกระบวนการ 3 ขั้นตอน คือ 1) ขั้นพัฒนาศักยภาพ (Potential: P) ของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านด้วยการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการ 2) ขั้นสร้างการมีส่วนร่วม (Participation: P) ให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านเป็นแกนนำในการสร้างความร่วมมือระหว่างผู้นำชุมชนกับตัวแทนครัวเรือน ทั้งร่วมคิด ร่วมปฏิบัติ ร่วมรับผิดชอบ ร่วมประเมินและติดตามผล 3) ขั้นสร้างความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมชุมชน (Sustainable: S) โดยพัฒนาครัวเรือนต้นแบบให้เป็นศูนย์เรียนรู้ จัดตั้งคณะกรรมการชุมชนและเครือข่ายชุมชน จัดการสิ่งแวดล้อมใน 4 มิติ ได้แก่ การจัดการที่อยู่อาศัย น้ำดื่มน้ำใช้ ขยะมูลฝอยและความหลากหลายทางชีวภาพ จากผลการประเมินรูปแบบโดยผู้ทรงคุณวุฒิ พบว่า มีความเหมาะสมโดยมีค่าดัชนีความสอดคล้องอยู่ระหว่าง 0.60 - 1.00 4) การใช้รูปแบบการพัฒนาศักยภาพในการจัดการสิ่งแวดล้อมชุมชนแบบมีส่วนร่วมพบว่าหลังการใช้รูปแบบ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านมีความรู้และความตระหนักสูงกว่าก่อนการใช้รูปแบบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05 ผลการประเมินการจัดการสิ่งแวดล้อมชุมชนพบว่า หลังการปฏิบัติการครัวเรือนต้นแบบสามารถจัดการสิ่งแวดล้อมผ่านเกณฑ์ประเมินได้ทุกครัวเรือน และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านมีความพึงพอใจต่อรูปแบบในระดับมากที่สุด ( = 4.54, S.D. = 0.61)
มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์. สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ
Role:
ประธานที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์.
CallNumber:
วพ 354.334 พ764ร 2562
©copyrights มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ฯ