ภาพสะท้อนในตัวฉันผ่านบทสนทนากับผู้ต้องขังชายในโลกบางขวาง

Self-reflection through dialogue with male inmates in Bangkwang Central Prison

Name: ประภาพร อนุมานไพศาล

ThaSH: นักโทษ -- ไทย

ThaSH: จิตตปัญญาศึกษา

Abstract: งานวิจัยชิ้นนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาประสบการณ์มิติด้านในของตัวผู้วิจัย ผ่านการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ต้องขังชายเรือนจำกลางบางขวาง จำนวน 3 ราย ใช้วิธีดำเนินงานวิจัยแบบอัตชาติพันธุ์วรรณนา ในมุมมองแบบทัศน์หนึ่ง เป็นกระบวนการเขียนที่มีการสนทนา ใคร่ครวญและสะท้อนตนเองเชิงวิพากษ์ ในประเด็นความรู้ ความยุติธรรม เพศ และอำนาจ การเก็บข้อมูลหลักมาจากเอกสาร เช่น บันทึกส่วนตัว จดหมาย ผลงานการเขียน เป็นต้น รวมถึงบันทึกความทรงจำในอดีต ผลการวิจัยพบว่า ความรู้ ความยุติธรรม เพศ มีความสัมพันธ์กันเชิงอำนาจ จากกรอบความคิดความเชื่อที่สั่งสม ครอบคลุมอยู่ในวิถีชีวิตผู้คนและสังคม อำนาจที่เกิดขึ้นมีสองระดับ คืออำนาจภายนอกและอำนาจภายใน การถอยออกมามองภาพปรากฏการณ์และเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ตรงบนเส้นทางชีวิต ทาให้เกิดความ เข้าใจและเท่าทันกับท่าทีที่มีต่ออำนาจภายนอก ขณะเดียวกันการตระหนักรู้ถึงอำนาจภายใน โดยการเผชิญหน้ากับวิกฤติความยากลำบากครั้งสำคัญ การคิดใคร่ครวญผ่านการเขียนสะท้อนภายในตนเองและการภาวนา ทำให้สามารถยอมรับความจริงที่เกิดขึ้น เห็นคุณค่าความเป็นมนุษย์ที่มีในตัวเองและผู้อื่น รวมถึงกระแสแห่งเหตุปัจจัยและความสัมพันธ์เชื่อมโยงของสรรพสิ่งที่สำคัญคือการสัมผัสพลังแห่งความรัก จากการวางสถานภาพ บทบาทและตัวตน เข้าถึงความจริงอันเป็นความหมายที่ปรากฏในจิตใจ เกิดอิสรภาพและความสุขภายใน การบ่มเพาะความรักจึงควรฝึกปฏิบัติอย่างต่อเนื่องด้วยการสนทนาภาษาใจและการภาวนาในวิถีชีวิตประจำวัน เพื่อให้รู้เท่าทันกับโลกภายในและโลกภายนอกที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

Abstract: The research aims to study the inner experience of the researcher through interaction with three male inmates in Bangkwang Central Prison. The methodology for this work is autoethnography with first-person research approach. The writing process in this research comprises dialogue, contemplation and critical selfreflection in four main issues, i.e. knowledge, social justice, gender discrimination and power. The data collection was mainly from documents for example personal journals, letters, writing works and also from memory of the researcher. The researcher finds that knowledge, justice and gender were interrelated in terms of power which was influenced by the underlying frames of reference and belief system in the way of life of people in society. There were two types of involving power – external and internal ones. The researcher found that stepping back to see the wider view of the phenomena and learning through direct experience along life’s path brought about understanding and awareness on how to handle the external factors. Meanwhile, awareness of the internal power - caused by life crisis confrontation, contemplation through self-reflection on writing, and contemplative practice allowed those who practice to accept the reality as it is, and to realize the true value of human beings in oneselves and in others, and in understanding the chain of interdependence and the interrelationship among all things. Importantly, the detachment from roles, status and self, and realizing the meanings of inner truth will create the ability to perceive the power of love, leading to freedom and happiness inside. Therefore, to cultivate love, one needs the continuum of practicing profound dialogue and contemplation in daily life, which will also create awareness of the constantly changing inside and outside world.

มหาวิทยาลัยมหิดล. หอสมุดและคลังความรู้มหาวิทยาลัยมหิดล

Address: นครปฐม

Email: liwww@mahidol.ac.th

Name: ประมวล เพ็งจันทร์

Role: ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์

Name: หิมพรรณ รักแต่งาม

Role: ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์

Name: ลือชัย ศรีเงินยวง

Role: ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์

Created: 2559

Modified: 2563-10-25

Issued: 2563-10-25

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

CallNumber: วพ ป342ภ 2559

tha

DegreeName: ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: จิตตปัญญาศึกษา

Grantor: มหาวิทยาลัยมหิดล

©copyrights มหาวิทยาลัยมหิดล

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	5437964.pdf	4.05 MB	15	2025-02-03 20:41:05

ใช้เวลา

0.301189 วินาที