รูปแบบการดำเนินธุรกิจของวิสาหกิจชุมชนผลผลิตทางการเกษตรเพื่อยกระดับคุณภาพเชิงพาณิชย์
A business model for small and micro community enterprise in agricultural products in order to increase the commercial quality
Abstract:
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพการดำเนินธุรกิจและความต้องการในปัจจุบันของวิสาหกิจชุมชนผลผลิตทางการเกษตร 2) ศึกษารายได้และกระบวนการผลิตของผู้ประกอบการจากการดำเนินธุรกิจวิสาหกิจชุมชนผลผลิตทางการเกษตร 3) ศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจของวิสาหกิจชุมชนผลผลิตทางการเกษตร และ 4) นำเสนอรูปแบบการดำเนินธุรกิจของวิสาหกิจชุมชนผลผลิตทางการเกษตรเพื่อยกระดับคุณภาพเชิงพาณิชย์ โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยแบบผสมผสาน ระหว่างการวิจัยเชิงปริมาณและการวิจัยเชิงคุณภาพ ประชากร คือ วิสาหกิจชุมชนผลผลิตทางการเกษตร จำนวน 2,621 กลุ่ม เขต 8 จังหวัดภาคตะวันตก โดยการวิจัยเชิงปริมาณ ประชากร คือ วิสาหกิจชุมชนผลผลิตทางการเกษตร จำนวน 2,621 กลุ่ม การคัดเลือกกลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ประธานกลุ่มหรือตัวแทนกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลผลิตทางการเกษตร โดยใช้สูตรของเนแมน จำนวน 498 คน และเลือกตัวอย่างแบบแบ่งชั้นภูมิตามสัดส่วน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูล ได้แก่ แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ และการวิเคราะห์เนื้อหา และการวิจัยเชิงคุณภาพ กลุ่มตัวอย่างคัดเลือกโดยใช้วิธีเลือกแบบเจาะจง ได้กลุ่มตัวอย่างจำนวน 18 กลุ่มวิสาหกิจชุมชน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูล ได้แก่ แบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง ด้วยวิธีการสัมภาษณ์เชิงลึกผู้ให้ข้อมูลที่เป็นตัวแทนวิสาหกิจชุมชนและการสนทนากลุ่ม วิเคราะห์ข้อมูลโดยการสังเคราะห์ข้อมูล ผลการวิจัยพบว่า 1. สภาพการดำเนินธุรกิจและความต้องการในปัจจุบันของวิสาหกิจชุมชนผลผลิตทางการเกษตร วิสาหกิจชุมชนผลผลิตทางการเกษตรทุกกลุ่ม มีการกำหนดทิศทางการดำเนินงานไว้บนพื้นฐานศักยภาพของทรัพยากรในชุมชน กำลังการผลิต ความสามารถของสมาชิก ความสามารถในการนำพากลุ่มไปสู่เป้าหมาย โดยใช้ฐานคิดการตลาดนำการผลิต ประธานกลุ่มหรือผู้ประกอบการเป็นผู้ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนเพื่อความอยู่รอดของกิจการ เป็นบุคคลที่มีความเป็นอิสระ เป็นตัวของตัวเอง มีความกล้าเสี่ยง มีแนวคิดในการทำงานเชิงรุก และเป็นผู้ที่มีแนวคิดในการมุ่งสร้างสรรค์นวัตกรรมสมาชิกให้ความศรัทธาและเชื่อถือ ทำให้ชุมชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น วิสาหกิจชุมชนผลผลิตทางการเกษตรมีความต้องการในปัจจุบัน ได้แก่ (1) พัฒนาบุคลากรที่มีอายุมากให้ทันเทคโนโลยี (2) ผู้สืบทอดธุรกิจ (3) เงินทุนที่เพิ่มขึ้น (4) อุปกรณ์เครื่องมือในการผลิต (5) องค์ความรู้ในการพัฒนาออกแบบบรรจุภัณฑ์และการสร้างตราสินค้าให้เป็นที่รู้จัก (6) การรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตร (7) การวางระบบ การขนส่งสินค้าที่เป็นพืช ผัก ผลไม้สด ให้ถึงมือผู้บริโภคในพื้นที่ภูมิภาคอื่น และ (8) ต้องการให้รัฐบาลมีนโยบายในการประกันราคาสินค้าเกษตร 2. รายได้และกระบวนการผลิตของผู้ประกอบการจากการดำเนินธุรกิจวิสาหกิจชุมชนผลผลิตทางการเกษตร รายได้ของวิสาหกิจชุมชนผลผลิตทางการเกษตร มาจาก 2 มิติ ได้แก่ มิติที่ 1 รายได้ที่เป็นตัวเลข จากการจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตร ผลิตภัณฑ์และบริการอื่น โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่มได้แก่ (1) กลุ่มส่งออกตลาดต่างประเทศ มีรายได้ประมาณเดือนละ 8-10 ล้านบาท และ (2) กลุ่มตลาดภายในประเทศ มีรายได้ประมาณเดือนละ 100,000-300,000 บาท และมิติที่ 2 รายได้ที่ไม่ใช่ผลตอบแทนที่เป็นตัวเลข แต่เป็นการวัดความสุขมวลรวมของสมาชิกกลุ่มและชุมชน ความสุขมวลรวมเกิดจากการผลิตตามกำลังความสามารถ ทำน้อยได้เงินมาก ปลูกพอดีกิน ได้ราคามาตรฐาน ยุติธรรมผลิตแบบครบวงจรภายในชุมชน ชุมชนมีความเข้มแข็ง พ่อค้าไม่กดราคา และการอยู่ดีมีสุขที่ชุมชนได้รับร่วมกัน กระบวนการผลิตของวิสาหกิจชุมชน มีการวางแผนกำหนดวิธีการควบคุมกระบวนการผลิตการจัดการเพื่อป้องกันความผิดพลาด โดยบางกลุ่มจัดทำเป็นคู่มือหรือแผนผังการดำเนินงาน มีการกำหนดขั้นตอนกระบวนการผลิตสินค้าครบ มีการปฏิบัติงานตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ และมีการควบคุมคุณภาพสินค้าและสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ 3. ปัจจัยที่ส่งผลต่อผลการดำเนินธุรกิจของวิสาหกิจชุนชนผลผลิตทางการเกษตร อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และส่งผลทางบวก ได้แก่ การจัดการทางการตลาด ( = 0.46) การจัดการคุณภาพการผลิต ( = 0.33) การเป็นผู้ประกอบการ ( = 0.29) และการจัดการนวัตกรรม ( = 0.27)ตามลำดับ ค่ากำลังสองของสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์พหุคูณ มีค่า 0.97 ความแปรปรวนในตัวแปรผลการดำเนินธุรกิจวิสาหกิจชุมชนผลผลิตทางการเกษตรเพื่อยกระดับคุณภาพเชิงพาณิชย์ได้ร้อยละ 97 4. รูปแบบดำเนินธุรกิจของวิสาหกิจชุมชนผลผลิตทางการเกษตรเพื่อยกระดับคุณภาพเชิงพาณิชย์ประกอบด้วย 4 ด้านที่สำคัญคือ (1) การจัดการทางการตลาด ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ ราคา ช่องทางการตลาดและการส่งเสริมการตลาด (2) การจัดการคุณภาพการผลิต ได้แก่ การควบคุมคุณภาพการผลิต การวางแผนคุณภาพการผลิต และการปรับปรุงคุณภาพการผลิต (3) การเป็นผู้ประกอบการ ได้แก่ การจัดการความรู้ ความเป็นอิสระ การดำเนินงานเชิงรุก ความเป็นผู้นำ และความกล้าเสี่ยง และ (4) การจัดการนวัตกรรม ได้แก่ นวัตกรรมการตลาด นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ และนวัตกรรมกระบวนการ
มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์. สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ
Role:
ประธานที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์.
CallNumber:
วพ 658.5 น148ร 2561
©copyrights มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ฯ