การพัฒนาการปรับตัวในการทำงานของพนักงานใหม่ การวิเคราะห์โมเดลโค้งพัฒนาการ

Development of career adaptability of newcomer an analysis of latent growth curve model

Name: วราภรณ์ หนูสมตน

keyword: การปรับตัวในการทำงาน

ThaSH: การปรับตัว (จิตวิทยา)

; โมเดลแข่งขัน

ThaSH: การปรับตัวทางสังคม

; โมเดลโค้งพัฒนาการ

ThaSH: พนักงานบริษัท -- ความพอใจในการทำงาน

Abstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่ออธิบายองค์ประกอบการปรับตัวในการทำงานของ พนักงานในบริบทสังคมไทย 2) สร้างและพัฒนาเครื่องมือวัดการปรับตัวในการทำงานของพนักงาน ในบริบทสังคมไทยโดยการวิเคราะห์โมเดลแข่งขัน 3) ตรวจสอบความสอดคล้องของโมเดลสมการ โครงสร้างการปรับตัวในการทำงานของพนักงานกับข้อมูลเชิงประจักษ์ 4) ศึกษาพัฒนาการการปรับตัว ในการทำงานของพนักงานโดยการวิเคราะห์โมเดลโค้งพัฒนาการ และ 5) ศึกษาผลของการใช้โปรแกรม การเตรียมความพร้อมเพื่อส่งเสริมการปรับตัวในการทำงานของพนักงาน โดยแบ่งการวิจัยเป็น 5 ระยะ ตามวัตถุประสงค์ กลุ่มตัวอย่างของการวิจัยระยะที่ 1 ได้แก่ หัวหน้าฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ในองค์การ เอกชน ที่มีประสบการณ์ในการทำงานอย่างน้อย 5 ปี จำนวน 12 คน กลุ่มตัวอย่างของการวิจัยระยะ ที่ 2 ได้แก่ พนักงานที่เริ่มทำงานได้ไม่เกิน 6 เดือน เป็นบุคคลที่สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรี คณะวิทยาศาสตร์ และไม่เคยทำงานที่ใดมาก่อน จำนวน 200 คน กลุ่มตัวอย่างของการวิจัยระยะที่ 3 ได้แก่ พนักงานที่เริ่มทำงานได้ไม่เกิน 6 เดือน เป็นบุคคลที่สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรี คณะวิทยาศาสตร์ และไม่เคยทำงานที่ใดมาก่อน จำนวน 329 คน กลุ่มตัวอย่างของการวิจัยระยะที่ 4 ได้แก่ พนักงานที่เริ่มทำงานได้ 12-15 เดือน เป็นบุคคลที่สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรี คณะวิทยาศาสตร์ จำนวน 209 คน และกลุ่มตัวอย่างของการวิจัยระยะที่ 5 ได้แก่ พนักงานที่เริ่มทำงาน ได้ 12-15 เดือน เป็นบุคคลที่สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรี คณะวิทยาศาสตร์ จำนวน 10 คน วิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติบรรยาย โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปในการวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติ วิเคราะห์ องค์ประกอบเชิงยืนยันอันดับสอง การวิเคราะห์โมเดลแข่งขัน การตรวจสอบความสอดคล้องกลมกลืน ของโมเดลการวิจัย และการวิเคราะห์โค้งพัฒนาการ โดยใช้โปรแกรมการวิเคราะห์สมการโครงสร้าง และวิเคราะห์ความแตกต่างก่อนและหลังการทดลอง โดยใช้สถิติสถิติทดสอบค่าที ชนิดกลุ่มตัวอย่าง ไม่เป็นอิสระต่อกัน ผลการวิจัยพบว่า 1) องค์ประกอบการปรับตัวในการทำงานของพนักงานใน สังคมไทย ประกอบด้วย ด้านความสามารถในการควบคุม ด้านความอยากรู้อยากเห็น ด้านความเอาใจใส่ ด้านความอดทน และด้านมารยาทในที่ทำงาน 2) โมเดลรูปแบบที่ 2 เป็นโมเดลตัวแทนการปรับตัว ในการทำงานของพนักงานในบริบทสังคมไทย 3) โมเดลความสัมพันธ์เชิงสาเหตุการปรับตัวใน การทำงานของพนักงาน มีความสอดคล้องกลมกลืนกับข้อมูลเชิงประจักษ์ มีค่าไค-สแควร์ (Chi - square) เท่ากับ 85.56, df = 87, p = 0.523 ค่า RMSEA = 0.000 ค่า RMR = 0.010 GFI = 0.95 และ AGFI = 0.90 4) โมเดลโค้งพัฒนาการการปรับตัวในการทำงานของพนักงาน มีความสอดคล้องกลมกลืนกับ ข้อมูลเชิงประจักษ์ มีค่าไค-สแควร์ (Chi-square) เท่ากับ 0.92, df = 1, p = 0.338 ค่า RMSEA = 0.000 ค่า RMR = 0.000 GFI= 0.99 และ AGFI= 0.97 และ 5) พนักงานที่ได้รับการฝึกอบรมโปรแกรม การเตรียมความเพื่อส่งเสริมการปรับตัวในการทำงาน มีค่าเฉลี่ยหลังการทดลองสูงกว่าก่อนการทดลอง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ

Abstract: The objective of this research are 1) to describe the components of career adaptability. 2) to analyze the comfirmatory factors of employee’s career adaptability by the competing model analysis. 3) to develop and test validity of structural equation model of a causal model. 4) to validate the development of career adaptability by using latent growth curve model structure equation analysis and 5) to develop the training work readiness program to career adaptability of employee. The sample size of the first stage of the research consisted of 12 head of human resource. The sample size of the second stage consisted of 200 first six months employees graduated in bachelor degree with no work experience. The sample size of the third stage consisted of 329 first six months employees graduated in bachelor degree with no work experience. The sample size of the fourth stage consisted of 209 twelve to fifteenth months employees graduated in bachelor degree with work. The sample size of the fifth stage consisted of 10 twelve to fifteenth months employees graduated in bachelor degree with work. Analytical for descriptive statistic using the statistic Software package for research, the second order confirmatory factor analysis, the structural Equation modeling, and latent growth curve model. The results were as follows : 1) The career adaptability consists of 5 components were control, curiosity, concern, endurance and courtesy. 2) Result from competitive model tested of first versus second model show the second employee’s adaptability model is much more likely to be correct than the other. 3) The causal relation model of career adaptability was fitted with the empirical data. Chi-square goodness-of-fit test = 85.56, df = 87, p = 0.523, RMSEA = 0.000, RMR = 0.010, GFI = 0.95, AGFI = 0.90. Work readiness, information seeking and coping could predict 86% of career adaptability. 4) The latent growth curve model of career adaptability was valid and fitted with the empirical data. Chi-square goodness-of-fit test = 0.92, df = 1, p = 0.338, RMSEA = 0.000, RMR = 0.000, GFI = 0.99, AGFI = 0.97. and 5) A comparison between career adaptability’s pretest-posttest mean score showed significantly difference in career adaptability of employee between before and after training with work readiness program.

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ. สำนักหอสมุดกลาง

Address: กรุงเทพมหานคร

Email: library@kmutnb.ac.th

Name: ศจีมาจ ณ วิเชียร

Role: ที่ปรึกษาดุษฎีนิพนธ์

Email : sageemas.n@cit.kmutnb.ac.th

Name: นนทิรัตน์ พัฒนภักดี

Role: ที่ปรึกษาดุษฎีนิพนธ์

Email : nontirat.p@arts.kmutnb.ac.th, nontirat@yahoo.com

Created: 2561

Modified: 2563-09-21

Issued: 2563-09-21

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

tha

DegreeName: ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต

Level: ปริญญาเอก

Descipline: จิตวิทยาอุตสาหกรรมและองค์การ

Grantor: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ

©copyrights มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	B17179786.pdf	3.45 MB	70	2025-05-07 09:48:29

ใช้เวลา

0.028183 วินาที