การผลิตก๊าซชีวภาพจากวัสดุเหลือทิ้งของข้าวโพดหวาน โดยการย่อยสลายแบบไร้อากาศแบบแห้ง

Biogas production from sweet corn waste by dry anaerobic fermentation

Name: โสภี พันอินทร์

ThaSH: มหาวิทยาลัยแม่โจ้ -- วิทยานิพนธ์

Classification :.DDC: 665.776

ThaSH: ก๊าซชีวภาพ

ThaSH: ข้าวโพด -- การใช้ประโยชน์

ThaSH: พลังงานชีวมวล

ThaSH: การผลิตก๊าซพลังงานชีวมวล

ThaSH: พลังงานจากขยะ

Abstract: งานวิจัยนี้ได้ศึกษาการผลิตก๊าซชีวภาพจากวัสดุเหลือทิ้งของข้าวโพดหวานร่วมกับมูลสัตว์ โดย การย่อยสลายในสภาวะไร้อากาศแบบหมักแห้ง ภายใต้อุณหภูมิ 37+2 °C ที่ค่าของแข็งทั้งหมดเท่ากับ (TS) 259% และมีค่า pH 6.8 - 7.2 โดยงานวิจัยศึกษา (1) ปัจจัยความแตกต่างของชนิดมูลสัตว์ (2) อัตราส่วนระหว่างมูลสัตว์และเปลือกข้าวโพดที่เหมาะสม (3) อัตราส่วนผสมของข้าวโพดหวานที่ เหมาะสมโดยทําการผลิตในถังขนาดหมัก 1 L (4) ศึกษาเปรียบเทียบประสิทธิภาพการผลิตก๊าซชีวภาพ แบบกะและแบบกึ่งต่อเนื่องในถังหมักขนาด 30 น ผลการวิจัยพบว่า มูลแพะให้ศักยภาพการผลิตก๊าซ ชีวภาพดีที่สุด โดยการหมักร่วมระหว่างเปลือกข้าวโพดกับมูลแพะที่อัตราส่วน 1:1 และให้อัตราการ ผลิตก๊าซมีเทนของจุลินทรีย์ที่ 0.038 mL CH/gCOD,emoved ความเข้มข้นของก๊าซมีเทนเท่ากับ 46.13% จากผลการศึกษาอัตราส่วนระหว่างเปลือกข้าวโพดและมูลแพะ (100.0, 75:25, 50:50, 25.75 และ 0:100) พบว่า อัตราส่วนที่ 25.75 มีอัตราการผลิตก๊าซมีเทนของจุลินทรีย์ที่ 0,068 ml CH/gCOD,emoved และความเข้มข้นของก๊าซมีเทนเท่ากับ 60.37% จากนั้นได้ทําการศึกษา อัตราส่วนวัสดุเหลือทิ้งของข้าวโพดทั้งหมด 4 กลุ่ม (ซังเปลือก, ซัง+เมล็ด, เปลือก+เมล็ด และ ซัง+ เปลือก+เมล็ด) โดยหมักร่วมกับมูลแพะที่อัตราส่วน 25.75 พบว่า การหมักร่วมมูลแพะกับซัง+เปลือก เมล็ด ให้อัตราการผลิตก๊าซมีเทนของจุลินทรีย์ที่ 0.084 ml CH/gCODemoved ความเข้มข้นก๊าซมีเทน เท่ากับ 67.93% นอกจากนั้น จากการเปรียบเทียบประสิทธิภาพการผลิตก๊าซชีวภาพการแบบเติมถึง ต่อเนื่องและแบบกะ โดยการหมักร่วมเปลือกข้าวโพดหวานกับมูลแพะที่อัตราส่วน 25.75 พบว่า การ หมักแบบเติมกึ่งต่อเนื่องให้ประสิทธิภาพการผลิตก๊าซชีวภาพสูงกว่าแบบกะ ให้ค่าเฉลี่ยความเข้มข้น ของก๊าซมีเทนเท่ากับ 58.87% อัตราการผลิตก๊าซมีเทนของจุลินทรีย์ 0.87 mL CH/gCOD,emoved ความเข้มข้นก๊าซมีเทนสูงสุดเท่ากับ 77.20% โดยการเติมกึ่งต่อเนื่องสามารถผลิตก๊าซมีเทนค่อนข้าง คงที่ ขณะที่การหมักแบบกะมีก๊าซมีเทนลดลงในวันที่ 93 ของการหมักแบบแห้ง ส่งผลเฉลี่ยความ เข้มข้นของก๊าซมีเทนเท่ากับ 53.18% อัตราการผลิตก๊าซมีเทนของจุลินทรีย์ที่ 0.67 mL CH4/gCOD-emoved และความเข้มข้นของก๊าซมีเทนสูงสุดเท่ากับ 76.35% oved removed ซึ่งจากการเติมกึ่งต่อเนื่องกับแบบกะสามารถผลิตก๊าซชีวภาพ 2.39 กับ 1.97 /day ตามลําดับ ทั้งนี้ การผลิตก๊าซมีเทนด้วยระบบการเติมกึ่งต่อเนื่องกับแบบกะให้ค่าความร้อนสูง (HHV) ที่ 30.78 MU/m และการเติมกึ่งต่อเนื่องและแบบกะมีระยะคืนทุน 3.56 ปี ดังนั้น วัสดุเหลือทิ้ง ข้าวโพดมีศักยภาพการผลิตก๊าซมีเทนทั้งแบบกะและแบบเติมกึ่งต่อเนื่อง ผลงานวิจัยนี้ถือเป็นต้นแบบ การใช้ประโยชน์วัสดุเหลือทิ้งจากไร่ข้าวโพดหลังการเก็บเกี่ยว และพัฒนาการผลิตพลังงานชีวภาพใน ระดับชุมชน

มหาวิทยาลัยแม่โจ้. สำนักหอสมุด

Address: เชียงใหม่

Email: mjudc@mju.ac.th

Name: ณัฐต์ณิชา สุขเกษม

Role: อาจารย์ที่ปรึกษาหลัก

Name: Rameshprabu Ramaraj

Role: อาจารย์ที่ปรึกษาร่วม

Name: ธเนศ ไชยชนะ

Role: อาจารย์ที่ปรึกษาร่วม

Name: สราวุธ พลวงษ์ศรี

Role: ประธานอาจารย์ประจำหลักสูตร

Modified: 2563-07-13

Issued: 2563-07-13

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

CallNumber: Th 665.776 ส988ก

tha

Spatial: ไทย

DegreeName: วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: วิศวกรรมพลังงานทดแทน

Grantor: มหาวิทยาลัยแม่โจ้

©copyrights มหาวิทยาลัยแม่โจ้

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	abstract.pdf	1.95 MB
2	fulltext.pdf	103.17 MB	4	2021-10-12 15:27:22

ใช้เวลา

0.030616 วินาที