การรู้เท่าทันสื่อดิจิทัลของผู้ใช้บริการ การฉีดโบท็อกซ์ ในจังหวัดเชียงใหม่

Digital media literacy of botox injection of customers in Chiang Mai province

Name: วรรธณา อริยะ

keyword: โบทอกซ์

ThaSH: มหาวิทยาลัยแม่โจ้ -- คอลเลคชันพิเศษ -- สิ่งพิมพ์ภาคเหนือ

Classification :.DDC: 658.8

; ความงามส่วนบุคคล

ThaSH: มหาวิทยาลัยแม่โจ้ -- รายงานการค้นคว้าอิสระ

ThaSH: การรู้เท่าทันสื่อ

ThaSH: การรู้เท่าทันสื่อ -- ไทย -- เชียงใหม่

ThaSH: การสื่อสารทางการตลาด -- ไทย -- เชียงใหม่

ThaSH: สื่อสังคมออนไลน์ -- ไทย -- เชียงใหม่

Abstract: การวิจัยครั้งนี้ เป็นงานวิจัยเชิงคุณภาพ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) ลักษณะทาง ประชากรศาสตร์ของผู้ใช้บริการการฉีดโบท็อกซ์ในจังหวัดเชียงใหม่ 2)พฤติกรรมการเปิดรับสื่อดิจิทัล และการฉีดโบท็อกซ์ของผู้ใช้บริการ 3) การรู้เท่าทันในการใช้สื่อดิจิทัลของผู้ใช้บริการ 4) ผลกระทบ การไม่รู้เท่าทันสื่อดิจิทัลจากการฉีดโบท็อกซ์ เก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างจํานวน 12 คน ด้วยการสุ่ม แบบสโนว์บอลแล้วจําแนกออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มละเท่าๆกัน คือ 1) กลุ่มไม่รู้เท่าทันสื่อดิจิทัลที่ได้รับ ผลเชิงบวกจากการฉีดโบท็อกซ์ 2) กลุ่มไม่รู้เท่าทันสื่อดิจิทัลที่ได้รับผลเชิงลบจากการฉีดโบท็อกซ์ และ 3) กลุ่มรู้เท่าทันสื่อดิจิทัลที่ปฏิเสธการฉีดโบท็อกซ์ ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ ลักษณะทางประชากรศาสตร์ของผู้ใช้บริการฉีดโบท็อกซ์ในจังหวัดเชียงใหม่ พบว่ากลุ่ม ไม่รู้เท่าทันสื่อดิจิทัลที่ได้รับผลเชิงบวกและกลุ่มที่ได้รับผลเชิงลบ มีอายุและรายได้น้อยกว่ากลุ่มรู้เท่า ทันสื่อดิจิทัล ด้านการศึกษาและอาชีพ พบว่า กลุ่มรู้เท่าทันสื่อดิจิทัล มีระดับการศึกษาและอาชีพที่ ดีกว่ากลุ่มไม่รู้เท่าทันสื่อดิจิทัลที่ได้รับผลเชิงบวก และกลุ่มที่ได้รับผลเชิงลบ ด้านสถานภาพพบว่า กลุ่มไม่รู้เท่าทันสื่อดิจิทัลที่ได้รับผลเชิงบวกและกลุ่มที่ได้รับผลเชิงลบ มีสถานภาพโสดมากกว่ากลุ่มที่ รู้เท่าทัน ด้านสาเหตุและแรงจูงใจพบว่า กลุ่มไม่รู้เท่าทันสื่อดิจิทัลที่ได้รับผลเชิงบวกและกลุ่มที่ได้รับ ผลเชิงลบส่วนใหญ่ฉีดโบท็อกซ์เพราะอยากให้หน้าเรียวและเป็นวิธีที่คิดว่าง่ายและต้องการเห็นผลเร็ว พฤติกรรมการเปิดรับสื่อดิจิทัลและการฉีดโบท็อกซ์ของผู้ใช้บริการ พบว่าขั้นตอนการรับรู้สื่อ กลุ่มตัวอย่างรับรู้สื่อดิจิทัลประเภทเฟซบุค เนื่องจากเฟซบุคมีระบบการแจ้งเตือนข่าวสารที่ดี เมื่อผู้ใช้กดไลค์ ข้อมูลการฉีดโบท็อกซ์จากคลินิกศัลยกรรมจะปรากฏบนหน้าเพจของกลุ่มตัวอย่าง โดยอัตโนมัติ ขั้นตอนการสนใจและประเมินผล พบว่ากลุ่มตัวอย่างส่วนมากสนใจรูปภาพที่มาจาก เฟซบุคของคลินิกศัลยกรรมโดยประเมินผลจากความมีชื่อเสียงของคลินิกและจํานวนผู้ใช้เฟซบุคที่ กดไลค์แฟนเพจของคลินิกศัลยกรรม รองลงมาคือสนใจเพราะราคาและมีโปรโมชั่นถูกกว่าการ ศัลยกรรมประเภทอื่น โดยกลุ่มตัวอย่างสอบถามราคาผ่านเฟซบุคของคลินิกศัลยกรรม แล้วได้รับ คําตอบกลับจากเจ้าหน้าที่คลินิก รวดเร็วกว่าสื่อประเภทอื่น ขั้นตอนการตัดสินใจ พบว่า กลุ่มไม่รู้เท่าทัน ตัดสินใจอยากฉีดโบท็อกซ์เพราะเห็นรูปจากเฟซบุคของคนที่ฉีดโบท็อกซ์แล้วชื่นชอบ รองลงมาคือเห็นตัวอย่างจากคนรู้จักที่เคยทํามาก่อนแล้วดูดี ส่วนกลุ่มที่รู้เท่าทันสื่อ คิดว่าการฉีด โบท็อกซ์ไม่ได้ผล เนื่องจากเป็นธุรกิจ ย่อมโฆษณาสรรพคุณเพื่อหวังผลกําไร จึงไม่น่าเชื่อถือ ด้านพฤติกรรมการฉีดโบท็อกซ์ พบว่า กลุ่มตัวอย่างนิยมฉีดโบท็อกซ์บริเวณกราม เฉลี่ย 3 เดือน ต่อ ครั้ง โดยฉีดหลังเลิกงานหรือเลิกเรียนที่คลินิกศัลยกรรม เสียค่าใช้จ่ายเฉลี่ยประมาณ 4,000 บาท ต่อ ครั้ง และมีการใช้ผลิตภัณฑ์บํารุงผิวประกอบการฉีดโบท็อกซ์ การรู้เท่าทันในการใช้สื่อดิจิทัลของผู้ใช้บริการ พบว่าขั้นตอนการเข้าถึงสื่อ กลุ่มตัวอย่าง ส่วนมากเข้าถึงสื่อประเภทเฟซบุคเนื่องจากสามารถใช้งานผ่านโทรศัพท์มือถือ ทําให้รับรู้ข่าวสารได้ ง่ายเพราะอยู่ใกล้ตัว อีกทั้งยังสามารถโพสต์หรือแชร์รูปภาพได้สะดวกรวดเร็ว รองลงมาคือเข้าถึงสื่อ ประเภทอินสตาแกรมเนื่องจากเห็นการเรียบเรียงข้อมูลจากภาพแล้วเข้าใจง่าย และเข้าถึงสื่อประเภท ไลน์เนื่องจาก ได้รับข้อมูลที่เป็นส่วนตัว สามารถสอบถามและได้รับการโต้ตอบทันที ขั้นตอนการ วิเคราะห์และประเมินผลพบว่า กลุ่มไม่รู้เท่าทัน ส่วนมากคิดว่าได้ผลคุ้มค่า เพราะเห็นรูปภาพจาก เฟซบุคคลินิกศัลยกรรมที่มีการเปรียบเทียบตัวอย่างลูกค้าที่เคยทํามาก่อนแล้ว จึงทําให้ดูน่าเชื่อถือ คุ้มค่ากับค่าใช้จ่ายที่เสียไป อีกทั้งเห็นเพื่อนทํามาก่อนแล้วได้ผลจึงอยากสวยเหมือนเพื่อน รองลงมา คือคิดว่าได้ผลเพราะเป็นคลินิกที่มีชื่อเสียง ขณะที่กลุ่มรู้เท่าทัน คิดว่าการฉีดโบท็อกซ์ไม่ได้ผลเพราะ เคยเห็นคนทํามาก่อนและมีความเสี่ยงอาจเกิดอันตราย ขั้นตอนการตัดสินใจใช้บริการ พบว่า กลุ่ม ตัวอย่างที่ได้รับผลเชิงบวกจะฉีดโบท็อกซ์ต่อไปเพราะสามารถสร้างความมั่นใจ ทําให้บุคลิกและ หน้าตาดูดีขึ้น ขณะที่กลุ่มตัวอย่างที่ได้รับผลเชิงลบหยุดฉีดโบท็อกซ์ เพราะผิดหวัง เสียความมั่นใจ และเสียค่าใช้จ่ายราคาแพง ขั้นตอนการแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ พบว่า กลุ่มไม่รู้เท่าทันสื่อที่ ได้รับผลเชิงบวกคิดว่าจะบอกต่อเพื่อน เพราะอยากได้ส่วนลด และอยากแนะนําเพราะทําแล้วหน้าตา ดูดี กลุ่มไม่รู้เท่าทันที่ได้รับผลเชิงลบคิดว่าจะไม่บอกต่อแต่ไม่ห้ามเพราะเป็นเรื่องส่วนบุคคล ขณะที่ กลุ่มรู้เท่าทันจะห้ามหรือตักเตือนผู้ที่สนใจการฉีดโบท็อกซ์ให้ใช้วิธีอื่นในการดูแลรักษาใบหน้าที่มีความ เสี่ยงน้อยกว่า ผลกระทบการไม่รู้เท่าทันสื่อดิจิทัลจากการฉีดโบท็อกซ์ พบว่ากลุ่มไม่รู้เท่าทันสื่อดิจิทัล ส่วนมากมีปัญหาเรื่องการพักผ่อนเพราะนอนหลับไม่สนิท มีความกังวลกับใบหน้า มีภาระค่าใช้จ่าย เพิ่มขึ้น บางส่วนมีปัญหาเรื่องความสัมพันธ์กับคู่รักเพราะการหึงหวง บางส่วนเสียความมั่นใจเพราะ ไม่ได้ผลเนื่องจากร่างกายมีภาวะดื้อต่อฤทธิ์ของโบท็อกซ์ ขณะที่กลุ่มรู้เท่าทันสื่อดิจิทัลไม่ได้รับ ผลกระทบเพราะปฏิเสธการฉีดโบท็อกซ์

มหาวิทยาลัยแม่โจ้. สำนักหอสมุด

Address: เชียงใหม่

Email: mjudc@mju.ac.th

Name: วิทยา ดํารงเกียรติศักดิ์

Role: อาจารย์ที่ปรึกษาหลัก

Name: จักรภพ วงศ์ละคร

Role: อาจารย์ที่ปรึกษาร่วม

Name: สิริวันทน์ ชัยญาณะ

Role: อาจารย์ที่ปรึกษาร่วม

Created: 2558

Modified: 2563-06-22

Issued: 2563-06-22

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

CallNumber: Th 658.8 ว273ก

tha

Spatial: เชียงใหม่

DegreeName: ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: สาชาวิชาการสื่อสารดิจิทัล

Grantor: มหาวิทยาลัยแม่โจ้

©copyrights มหาวิทยาลัยแม่โจ้

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	abstract.pdf	1.76 MB	6	2024-03-20 18:46:07
2	fulltext.pdf	28.8 MB	45	2025-08-04 14:27:22

ใช้เวลา

0.024802 วินาที