การศึกษาความหลากหลายทางชีวภาพของพื้นที่ชายหาดทางด้านทิศใต้ อ่าวมะนาว จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ

A Study on Biological Diversity of Southern Part of Ao Manao Prachuapkhirikhan Province as an Eco-Tourism Attraction

Name: สิรวัลภ์ เรืองช่วย ตู้ประกาย

Organization : คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

Name: ปริศนา เพียรจริง

Organization : คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

Name: ปารินดา สุขสบาย

Organization : คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ThaSH: ความหลากหลายทางชีวภาพ

Abstract: งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดทำฐานข้อมูลความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ชายหาด หาดทราย และหาดหิน บริเวณอ่าวมะนาว จังหวัดประจวบคีรีขันธ์และเพื่อสร้างแหล่งเรียนรู้ความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ชายหาด หาดทราย และหาดหิน บริเวณอ่าวมะนาว จังหวัดประจวบคีรีขันธ์เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศในรูปแบบการสร้างเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ผลการศึกษาพบว่าความความหลากหลายทางชีวภาพของสัตว์หน้าดิน บริเวณหาดทรายอ่าวมะนาว พบสัตว์หน้าดินในกลุ่มสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง 3 ไฟลัม 4 คลาส 8 อันดับ 14 วงศ์ และ 14 ชนิด โดยพบสัตว์หน้าดินในกลุ่ม หอย เป็นชนิดเด่น รองลงมาคือ กลุ่มอาร์โทรโปดา เช่น ปู กุ้ง และไส้เดือนทะเลตามลำดับส่วนชนิดสัตว์หน้าดินในเขตพื้นที่หาดหินพบหอยนางรมเป็นชนิดเด่น โดยพบลักษณะ การกระจายแบบสุ่มไม่มีรูปแบบชัดเจน ขึ้นกับการกระจายของก้อนหินที่หอยนางรมยึดเกาะโดยพบการปกคลุมพื้นที่ประมาณร้อยละ 50 จากพื้นที่หาดหินประมาณ 500 ตารางเมตร และพบหอยนางรมที่มีชีวิตความหนาแน่นเฉลี่ยประมาณ 800 ตัว/ตารางเมตรในขณะที่ดัชนีชี้วัดความหลากหลาย ทางชีวภาพมีค่าในระดับต่ามาก โดยมีค่าต่าสุด – สูงสุดคือ 0.078 – 0.703 ค่าความหลากหลายทางชีวภาพมีความผันแปรตามแต่ละแนวเก็บตัวอย่าง โดยช่วงเวลาที่มีค่าความหลากหลายทางชีวภาพมากที่สุดคือในเดือนมิถุนายนนอกจากนี้ผลการทดลองยังพบว่าจากการสารวจชนิดพืชในเขตป่า ชายหาดโดยเริ่มจากแนวเนินทรายจนถึงสุดพื้นที่ด้านใน พบชนิดพืช 1 ไฟลัม คือพืชมีดอก 2 ดิวิชัน13 อันดับ 17 วงศ์ 26 สกุล 28 ชนิด โดยแบ่งเป็นไม้ยืนต้น 9 ชนิด และไม้พุ่ม ไม้ล้มลุก 19 ชนิด ส่วนลักษณะของการกระจายของพืชในเขตป่าชายหาดมีการกระจายพืชล้มลุกในบริเวณแนวเนินทราย และมีความหลากหลายของชนิดพันธ์เมื่อถัดเข้ามาในพื้นที่ที่น้าทะเลท่วมไม่ถึงไม้พื้นล่างที่พบเป็นกลุ่มไม้พุ่มขนาดเล็ก และไม่ล้มลุก โดยในเขตเนินทรายติดชายหาดพบไม้เลื้อยชิด ส่วนในเขตด้านในถัดเข้ามาพบไม้พุ่ม ขนาดเล็ก และไม้ล้มลุก The objective in this present study was to study biodiversity of plant and benthos in the Southern part of Ao Manao Prachaupkhirikhan province. And to create a variety of biological learning sites in the beach, sand and rocky beachesfor an ecotourism attraction in the form of eco-tourism routes.The result of benthos biodiversity showed that the invertebrate benthos including, 3 phyla 4 class 8 order 14 families and 14 species of benthic fauna from sandy beach of Ao Manao were found. The dominant species of benthos were mollusk while the lesser found species were arthropods such as crab and shrimp and polychaete respectively. The collected benthic fauna were crabs, shrimp, mollusk and polychaetes. The ostreidae family was a dominant species that found at rocky beach. The distribution pattern of ostreidaeat rocky beach was random and depended on the appearance of rocks location. The coverage of ostreidae was 50 % of the 500 m2 of rocky beach. The density of ostreidae was 800 invidual/m2. The biodiversity indexobtained in this study ranged from 0.078 – 0.703. The variation of biodiversity index depended on the transect lines and seasonal variations. The duration of high diversity of benthos was found in July which is the monsoonal period of the area. The result of plant survey from sand dune to the inner part of the coastal area in this study which study revealed that there were 1 phylum which was flowering plant, 2 divisions, 13 orders, 17 families, 26 genera and 28 species. There were 3 habit characteristics of plant species found in this study including,9 trees, shrub and herb 19 species. The distribution of plant at the coastal area showed the different species of plant at the difference distance from the sea. Herbs were dominant at the sand dune and the higher of plant diversity was found at the inundation area that locates at the inner part of the beach. The plant species found at the inundation area were shrub, herb and climber. The plant species growths at the sand dune were creeper plants. The plants found at the inner part of the area were small shrub and herb.

มหาวิทยาลัยสวนดุสิต.สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ

Address: กรุงเทพมหานคร

Email: srinakorn_pan@dusit.ac.th

Name: มหาวิทยาลัยสวนดุสิต

Role: ผู้ให้ทุนวิจัย

Modified: 2020-02-21

Created: 2561

Issued: 2563-02-21

งานวิจัย/Research report

application/pdf

CallNumber: วจ QH301 ส729 ก6 2561

tha

©copyrights มหาวิทยาลัยสวนดุสิต

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	Sirawan Ruangchuay Tuprakay.pdf	22.21 MB	37	2025-03-17 16:36:14

ใช้เวลา

0.02608 วินาที