โมเดลความสัมพันธ์โครงสร้างเชิงเส้น ความคิดเชิงสร้างสรรค์ การรับรู้การสนับสนุนจากองค์การ ภาวะผู้นำเชิงพุทธ ความสุขในที่ทำงานที่ส่งผลต่อพฤติกรรมองค์การเชิงบวก

The linear structural equation model of creativity, perceived organizational support, the buddhist leadership and happy at work affecting positive organizational behavior

Name: ธัมมัฏฐิตตา อยู่เจริญ

keyword: ความสุขในการทำงาน

ThaSH: พฤติกรรมองค์การ

ThaSH: จิตวิทยาเชิงบวก

ThaSH: ภาวะผู้นำ

ThaSH: ความคิดสร้างสรรค์

Abstract: การวิจัยนี้ใช้แนวทางการวิจัยแบบผสานวิธี มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อศึกษาความหมาย องค์ประกอบที่เกี่ยวกับภาวะผู้นําเชิงพุทธ และภาวะผู้นําเชิงพุทธส่งผลต่อพฤติกรรมองค์การเชิงบวก (2) เพื่อการพัฒนาเครื่องมือวัด และวิเคราะห์องค์ประกอบของความคิดเชิงสร้างสรรค์ ภาวะผู้นํา เชิงพุทธ การรับรู้การสนับสนุนจากองค์การ ความสุขในที่ทํางาน และพฤติกรรมองค์การเชิงบวก (3) เพื่อพัฒนาและตรวจสอบความตรงของโมเดลสมการโครงสร้างเชิงเส้นพฤติกรรมองค์การเชิงบวก และ (4) เพื่อพัฒนาโปรแกรมการฝึกอบรมภาวะผู้นําเชิงพุทธที่ช่วยส่งเสริมภาวะผู้นําเชิงพุทธของ ผู้บังคับบัญชาที่ส่งผลต่อพฤติกรรมองค์การเชิงบวกของผู้ใต้บังคับบัญชา โดยแบ่งการวิจัยออกเป็น 4 ระยะตามวัตถุประสงค์ของการวิจัย กลุ่มตัวอย่างของการวิจัยระยะที่ 1 คือผู้เชี่ยวชาญทางด้าน ภาวะผู้นําเชิงพุทธ จํานวน 8 คน กลุ่มตัวอย่างของการวิจัยระยะที่ 2 คือ พนักงานกลุ่มในเครือธุรกิจ ก่อสร้างบริษัทที่ 1 จํานวน 172 คน และพนักงานกลุ่มในเครือธุรกิจก่อสร้างบริษัทที่ 2 จํานวน 185 คน กลุ่มตัวอย่างของการวิจัยระยะที่ 3 คือ พนักงานกลุ่มในเครือธุรกิจก่อสร้างบริษัทที่ 3 4 จํานวน 742 คน และกลุ่มตัวอย่างของการวิจัยระยะที่ 4 คือ พนักงานกลุ่มในเครือธุรกิจก่อสร้าง บริษัทที่ 4 ระดับผู้บังคับบัญชา จํานวน 10 คน ระดับผู้ใต้บังคับบัญชา จํานวน 120 คน และใช้การ สัมภาษณ์พนักงานระดับผู้ใต้บังคับบัญชาเพิ่มเติมอีก จํานวน 3 คน การวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติ บรรยาย โดยใช้โปรแกรมสําเร็จรูปในการวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติ การวิเคราะห์องค์ประกอบ เชิงสํารวจ การวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยัน การตรวจสอบความสอดคล้องกลมกลืนของโมเดล การวิจัย การวิเคราะห์ความแปรปรวนเมื่อมีการวัดช้ํา และการทดสอบความแตกต่างระหว่าง ค่าเฉลี่ยของกลุ่มตัวอย่างกลุ่มเดียวที่ไม่เป็นอิสระจากกัน ผลการวิจัยสรุปว่า (1) ภาวะผู้นําเชิงพุทธ หมายถึง กระบวนการที่บุคคลใดบุคคลหนึ่งพยายาม ใช้สติปัญญา ความดีงาม ความรู้ ความสามารถของตนขึ้น ผลักดันให้บุคคลอื่นหรือกลุ่มบุคคลอื่น มีความเต็มใจ กระตือรือร้นในการทําสิ่งต่าง ๆ ตามที่ตนต้องการ และพากันไปสู่จุดมุ่งหมายที่ดีงาม (2) ผลจากการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยันของทั้ง 5 ตัวแปร พบว่า ค่าน้ําหนักองค์ประกอบของ พฤติกรรมองค์การเชิงบวก ความคิดเชิงสร้างสรรค์ การรับรู้การสนับสนุนจากองค์การ ภาวะผู้นํา เชิงพุทธ และความสุขในที่ทํางานสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์ในเกณฑ์ดี หรือโมเดล มีความเที่ยงตรง (3) โมเดลสมการโครงสร้างเชิงเส้นของพฤติกรรมองค์การเชิงบวก มีความสอดคล้อง กลมกลืนกับข้อมูลเชิงประจักษ์ พิจารณาได้จากค่าไค-สแควร์ที่แตกต่างจากศูนย์อย่างมีนัยสําคัญ ทางสถิติที่ระดับ .01 (x2 = 180.75, df = 170, p = 11) ค่าดัชนีวัดระดับความกลมกลืน (GFI) มีค่าเท่ากับ 978 ค่าดัชนีวัดระดับความกลมกลืนที่ปรับแก้แล้ว (AGFI) มีค่าเท่ากับ 968 ค่า SRMR มีค่าเท่ากับ .035 และค่า RMSEA มีค่าเท่ากับ 009 ซึ่งถือว่าผ่านเกณฑ์ที่กําหนด (4) ระยะหลัง การทดลองพบว่าการวัดทั้ง 3 ครั้งมีคะแนนรวมของภาวะผู้นําเชิงพุทธแตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญ ทางสถิติที่ระดับ .01 จากนั้นจึงวิเคราะห์เปรียบเทียบค่าเฉลี่ยรายคู่ด้วย Bonferoni ผลการวิเคราะห์ พบความแตกต่างจํานวน 3 คู่ ดังนี้ คะแนนรวมของภาวะผู้นําเชิงพุทธในการวัดครั้งที่ 1 น้อยกว่าการวัด ครั้งที่ 2 และครั้งที่ 3 ซึ่งคะแนนของภาวะผู้นําเชิงพุทธในการวัดทั้ง 3 ครั้ง มีความแตกต่างกัน อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยหลังจากการฝึกอบรมแต่ละครั้ง ผู้บังคับบัญชาจะมีคะแนน ภาวะผู้นําเชิงพุทธสูงขึ้นทุกครั้ง และระยะหลังการทดลอง พบว่า ผู้ใต้บังคับบัญชามีพฤติกรรมองค์การ เชิงบวกแตกต่างกันกับระยะก่อนการทดลองอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ชี้ให้เห็นว่า ผู้ใต้บังคับบัญชามีพฤติกรรมองค์การเชิงบวกระยะหลังการทดลอง เพิ่มขึ้นจากระยะก่อนการทดลอง โดยดูจากค่าเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นก่อนการทดลองมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 2.434 และหลังการทดลองมีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 3.069

Abstract: This research used a mixed methods with the purposes as follow : 1) to describe the definition, the factors of the buddhist leadership (BL) and the buddhist leadership affecting positive organizational behavior (POB). 2) to develop the measurement and analyze the factors of positive organizational behavior, creativity (CT), perceived organizational support (POS), the buddhist leadership, and happy at work (HW). 3) to develop and test validity of the line structural equation model of positive organizational behavior and 4) to develop the buddhist leadership training program for helping to develop the buddhist leadership of leaders and affecting to positive organizational behavior of subordinates. The research was divided into 4 stages. The sample size of the first stage consisted 8 professionals of the buddhist leadership. The sample size of the second stage included 172 employees in construction companies and 185 employees from the second construction company. The sample size of the third stage was 742 employees from the third and the fourth construction companies while the sample size of the fourth stage included 10 leaders, 120 subordinates. The interview was conducted with 3 subordinates in the fourth construction company. Analytical for descriptive statistic using statistic software package for research, the exploratory factor analysis, the confirmatory factor analysis, the structural equation modeling, repeated measures ANOVA, and t-test for dependent sample. The results were as follows: (1) The definition of The buddhist leadership refers to the process that any person attempts to use the wisdom, goodness and knowledge of their employees and push another person or group to do things actively leading to a good target. (2) The result of confirmatory factor analysis of 5 variables should that the factor loading of positive organizational behavior (POB) creativity (CT), perceived organizational support (POS), The buddhist leadership (BL), and happy at work (HW) were concordant with the empirical data in a good range or high validity (3) The linear structural equation model of positive organizational behavior was concordant with the empirical data in a good range or high validity (Chi-square = 180.75, df = 170, p = .11, GFI = .978, AGFI = .968, SRMR = .035 and RMSEA = .009) according to the criteria. (4) After the experiment, it was found that the results of the three times measurement showed the total score of the buddhist leadership was different with a statistical significance at the level of .01. After using Bonferroni test for pairwise comparisons, three pairs revealed that the total score of the buddhist leadership of leaders in the first measuring less than the second measuring and the third measuring. The total score of the buddhist leadership in three times were different with a statistical significance at the level of .01 showing that after the experiment, the positive organizational behavior of subordinates was higher them before the experiment with the mean = 2.434 and after the experiment the mean = 3.069.

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ. สำนักหอสมุดกลาง

Address: กรุงเทพมหานคร

Email: library@kmutnb.ac.th

Name: ศจีมาจ ณ วิเชียร

Role: ที่ปรึกษาดุษฎีนิพนธ์

Email : sageemas.n@cit.kmutnb.ac.th

Created: 2557

Modified: 2562-11-11

Issued: 2562-11-11

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

tha

DegreeName: ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต

Level: ปริญญาเอก

Descipline: จิตวิทยาอุตสาหกรรมและองค์การ

Grantor: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ

©copyrights มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	B16122100.pdf	111.18 MB	68	2025-10-12 16:19:57

ใช้เวลา

0.026803 วินาที