รูปแบบการพัฒนาสมรรถนะการปฏิบัติงานตามหลักภาวนา 4 ของบุคลากรสายสนับสนุนวิชาการมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

The Competency Development Model of the Four Bhavanas for Academic Support Personnel Working in Mahachulalongkornrajvidyalaya University

Name: พรพรรณ โปรเทียรณ์

keyword: หลักภาวนา 4

Abstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ๑)ศึกษาสภาพสมรรถนะการปฏิบัติงานของบุคลากรสายสนับสนุนวิชาการมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ๒) สร้างรูปแบบการพัฒนาสมรรถนะการปฏิบัติงานตามหลักภาวนา ๔ ของบุคลากรสายสนับสนุนวิชาการมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย๓)ประเมินรูปแบบวิธีการพัฒนาสมรรถนะการปฏิบัติงานตามหลักภาวนา ๔ ของบุคลากรสายสนับสนุนวิชาการมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิธีวิจัยใช้วิธีการวิจัยเชิงคุณภาพ การเก็บข้อมูลการสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิและมีความรู้ความสามารถสูงจำนวน ๑๕ รูป/คน ผู้เชี่ยวชาญสนทนากลุ่ม ๑๐รูป/คน จากนั้นนำมาวิเคราะห์ข้อมูลโดยการอธิบายพรรณนาความใช้สถิติเชิงพรรณนา ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน มี ๓ ขั้นตอนดังนี้ขั้นตอนที่ ๑ ศึกษาสภาพสมรรถนะการปฏิบัติงานของบุคลากรสายสนับสนุนวิชาการมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย โดยใช้เครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลได้แก่ การสัมภาษณ์ แบบกึ่งโครงสร้างการวิเคราะห์เนื้อหาจากเอกสารการประเมินบุคลากร และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง สัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน ๑๕ รูป/คน โดยใช้สถิติพรรณนา วิเคราะห์ข้อมูลคือค่าร้อยละค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานขั้นตอนที่ ๒ สร้างรูปแบบการพัฒนาสมรรถนะการปฏิบัติงานตามหลักภาวนา ๔ ของบุคลากรสายสนับสนุนวิชาการมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย โดยการสนทนากลุ่ม ของผู้เชี่ยวชาญร่วมสนทนากลุ่ม (Focus group Discussion) จำนวน ๑๐ รูป/คน จากการสังเคราะห์แบบการสนทนากลุ่ม โดยใช้ การวิเคราะห์ประเด็นเนื้อหาขั้นตอนที่๓การประเมินรูปแบบการพัฒนาสมรรถนะการปฏิบัติงานตามหลักภาวนา ๔ของบุคลากรสายสนับสนุนวิชาการมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยโดยผู้เชี่ยวชาญจำนวน ๓๐ รูป/คน ประเมินรูปแบบ โดยใช้สถิติค่าเฉลี่ย (x ̅) และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D) รูปแบบสมรรถนะการปฏิบัติงานของบุคลากรอยู่ในความถูกต้อง เหมาะสม เป็นไปได้ เป็นประโยชน์ ระดับมาก ผลการวิจัยพบว่า ๑. ผลการศึกษาสมรรถนะการปฏิบัติงานของบุคลากรพบว่ามีโครงการฝึกอบรมหลายโครงการเพื่อสร้างและเปลี่ยนแปลงบุคลากรสนับสนุนด้านสนับสนุนวิชาการที่ปฏิบัติงาน เกี่ยวกับพฤติกรรมความรู้ทักษะทัศนคติและความสามารถในสมรรถนะหลัก ๕ข้อ เพื่อความเป็นเลิศเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ ๒. ผลการศึกษาการสร้างรูปแบบการพัฒนาสมรรถนะการปฏิบัติงานตามหลักภาวนา ๔ สำหรับบุคลากรสายสนับสนุนวิชาการในมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยพบว่าการนำหลักภาวนา ๔ พัฒนาสมรรถนะการปฏิบัติงานหลัก ๕ ด้าน เกิดคุณค่าเป็นประโยชน์ในการศึกษาและพัฒนาตนเองให้มีศักยภาพสูงขึ้นกายภาวนาคือการพัฒนาทางกายภาพให้เกิดประโยชน์แก่ตนเองและ ศีลภาวนา คือการพัฒนาทางสังคมอยู่กับสังคมอย่างมีความสุข จิตตภาวนา คือการพัฒนาอารมณ์ความรู้สึกที่จะทำให้มีความอดทนและความเพียรสูงขึ้นมีสมาธิมั่นคงแน่วแน่ ปัญญาภาวนาคือ การเข้าถึงความรู้มีวิธีการความสามารถในการปฏิบัติงานที่มีประสิทธิภาพเข้าใจความเป็นจริงอย่างสมบูรณ์ ๓. ผลการประเมินรูปแบบการพัฒนาสมรรถนะตามหลักภาวนา ๔ ของบุคลากรสายสนับสนุนสายวิชาการพบว่าสมรรถนะหลักตามเกณฑ์ในการปฏิบัติงานของบุคลากรเมื่อได้รับการพัฒนาโดยหลักภาวนา ๔ ทำให้คุณลักษณะทั้งภายนอกและภายในเกิดความ เหมาะสมถูกต้องเป็นไปได้ความเป็นประโยชน์ สมรรถนะการปฏิบัติงานดีขึ้นกว่าเดิม พฤติกรรมมีความซื่อสัตย์สุจริต ทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริตและความเพียรในการช่วยเหลือผู้อื่นความฉลาดทางอารมณ์ พฤติกรรมมีความรอบคอบนอบน้อมถ่อมตนด้วยวาจาความอ่อนน้อมถ่อมตน จิตใจอ่อนโยน มีด้วยความรอบคอบบุคลิกภาพซื่อสัตย์ ซื่อตรงความสมดุลความมั่นคงความเพียรสติความมุ่งมั่นความจงรักภักดีจรรยาบรรณในการทำงานและอื่น ๆอยู่ในระดับดี สูงสุดคือการทำงานเป็นทีมคือมีลักษณะของความซื่อสัตย์มีความกระตือรือร้นเด่นชัด๒) มีความรู้และมีความคิดสร้างสรรค์ ๓) บุคลากรที่มีความรับผิดชอบ ๔) มีความสามารถในการทำงานอย่างเข้มแข็งประกอบด้วยปัญญา๕) มีแนวทางในการวางแผนการทำงานอย่างเป็นระบบ ทำงานได้อย่างสมบูรณ์และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการมองเห็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงในการปฏิบัติงาน เกิดทัศนคติที่ชาญฉลาด

Abstract: The objectives of this purpose researchwere : 1)To study of workingperformanceabout competency foracademic support personnel working in Mahachulalongkornrajavidyalaya University. 2)To make competency development model of the fourbhavana foracademicsupport personnel workingin Mahachulalongkornrajavidyalaya University. 3) Evaluate the model of how to improve the performance competency development model ofthe four bhavanaforacademicsupport personnel working in Mahachulalongkornrajavidyalaya University. The research methodology was usingqualitative research. Data qualitative research. Retention of highly qualified and expert interviews15 monks / person and Focus group Discussion 10 monks / personthen analyzed the data is synthesized using descriptive statistics indude percentagedescriptive statistics., meanand standard deviation.There are 3 steps.Step 1: Examine the performance status of academic for academic support personnel working in Mahachulalongkornrajavidyalaya University. Data were collected by semi-structured interview. Content analysis of personnel assessment documents. The research involved the experts of Semi-structured interview 15 monks / person. using descriptive statistics. Data were analyzed by percentage, mean and standard deviation.Step2:Create a patternof the competency development model of thefourbhavana for academic support personnel working in Mahachulalongkornrajavidyalaya University was that development consist.College synthesize content issues for development by focus group discussion.Focus group using content analysis. The experts of focus group discussion a group were selectively of 10 monks / person.Step3: Evaluate in the competency development model of the four bhavanas for academic support personnel working in Mahachulalongkornrajavidyalaya University. The experts of Evaluate improve 30 monks / person were evaluated using the mean. The mean (x ̅) and standard deviation (S.D.) is high level.It is accuracy appropriate, possibility,usefulness to be at a beneficial level. The research finding were as follows: 1. There wereseveral training programs in order to create and change academic support personnel working on behavior, knowledge, abilities, skills, attitudes, and competences in the five core competences. To excellence to achieve the goals set. 2. The competency development model of the four bhavanasforacademic Support Personnel Working In Mahachulalongkornrajvidyalaya University. Use of to four bhavanastodevelop five core competences .Academic supporting personnel working is training of self to beingof systematic activities that result changing Academic supporting personnel working’s behaviours and effectiveness in work, 5 core competency consults to the four bhavanain which the valueisuseful. Therewereresource competency development consisting by Kaya-bhavana stands for physicaldevelopment for benefits of oneself and other. Sila-bhavana stands for the development that benefits one’sself , and the precept is a happy social. Citta-bhavana stands for the development of emotion that is to purify and concentrate one’s mine with the help of Samadhi.Theconcentrate,to be firm. The Four bhavana stands for the development of wisdom that is to reach knowledge through training, education and development wisdom of knowledge task effectively to understand the truth completely reality. 3.Evaluatinginthe competency development model of the four bhavana for academic support personnel working in Mahachulalongkornrajavidyalaya University. A good idea of what you want to do. It is appropriate, accurate, possibility, usefulness. The application of the Four bhavana to improve the core competency performance of Mahachulalongkornrajavidyalaya University academic support personnel working is so good.Behaviors are discreetintegrity.Work with self personalityprudence, honesty, a well-balanced mind, and perseveranceworking in helping other and emotional in telligenceheight. Behaviors are discreet humble body verbal humility humble mindwork with prudence, personality, integrity, mind, balance, stability, perseverance, consciousness, earnestness, loyalty, work ethic, and more perseverance in helping.These are: 1) Faithful people are zealous in principle. 2) Knowledgeable people have the knowledge and creativity. 3) Personnelwithresponsible. 4) Strong ability with wisdom. Teamwork, concentration and intelligence. 5) Ability to plan work in a systematic manner. It works perfectly and the most important thing is to see things change in the workplace and wise attitude.

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. สำนักหอสมุดและเทคโนโลยีสารสนเทศ

Address: พระนครศรีอยุธยา

Email: library@mcu.ac.th

Name: วรกฤต เถื่อนช้าง

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Name: พระมหาอุดร อุตฺตโร

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Created: 2561

Modified: 2562-09-14

Issued: 2562-09-14

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

tha

DegreeName: พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต

Level: ปริญญาเอก

Descipline: สาขาวิชาพุทธบริหารการศึกษา

Grantor: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

©copyrights มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	62MCU62011902.pdf	11.89 MB	57	2025-09-13 13:53:27

ใช้เวลา

0.016643 วินาที