การสกัดและการใช้ประโยชน์ของจิงจูฉ่ายในเครื่องสำอาง

Extraction and utilization of artemisia lactiflora in cosmetics

Name: ณัฏฐนันท์ ภูเบศพินธคุปต์

Name: Nattanan Pubetpintakoop

Address: เลขที่ 333 หมู่ที่ 1 ตำบลท่าสุด, อำเภอเมืองเชียงราย, จังหวัดเชียงราย 57100

Organization : มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง. สำนักวิชาวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง. สาขาวิชาวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง.

Email : ask.library@mfu.ac.th

keyword: จิงจูฉ่าย

ThaSH: จิงจูฉ่าย -- สารสกัดจากพืช

Classification :.LCCS: QV766

ThaSH: เครื่องสำอาง

ThaSH: ฟลาโวนอยด์

ThaSH: สารประกอบฟีนอลิค

ThaSH: จิงจูฉ่าย -- อนุมูลอิสระ

Abstract: จิงจูฉ่าย เป็นพืชสมุนไพรที่พบว่ามีฤทธิ์และสรรพคุณทางเภสัชวิทยาค่อนข้างกว้าง ได้แก่ มีสารประกอบฟีนอลิค และฟลาโวนอยด์ ซึ่งมีฤทธิ์ทางชีวภาพในด้านการต้านอนูมูลอิสระ ซึ่งมีศักยภาพนำมาเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลผิว การศึกษานี้ ได้ศึกษาตัวทำละลายในการสกัด การวิเคราะห์ปริมาณสารประกอบฟีนอลิครวมด้วยวิธี โฟลิน-ซิโอแคลทู และวิเคราะห์ปริมาณสารประกอบ ฟลาโวนอยด์ด้วยวิธีการเกิดปฏิกริยากับอลูมิเนียม คลอไรด์ จากนั้นทดสอบฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของสารสกัดด้วยวิธีดีพีพีเอช และวิธีเฟอริค รีดิวซิง การพัฒนาสูตรเซรั่มผสมสารสกัดจิงจูฉ่าย การศึกษาความคงตัวในสภาวะเร่งด้วยวิธีร้อนสลับเย็น และการทดสอบความพึงพอใจของผู้บริโภคด้วยวิธีฮีโดนิค สเกล ผลการศึกษาพบว่าสารสกัดจิงจูฉ่ายด้วยน้ำ มีปริมาณสารประกอบ ฟีนอลิครวมและสารประกอบฟลาโวนอยด์รวมสูงที่สุดคือ 394.82 ± 32.64 ไมโครกรัมของกรด แกลลิคสมมูลย์ต่อสารสกัด 1 มิลลิลิตร และ 295.73 ± 3.05 ไมโครกรัมของแคทีชินสมมูลย์ต่อสารสกัด 1 มิลลิลิตร ตามลำดับ ผลการทดสอบฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของสารสกัด พบว่าสารสกัด จิงจูฉ่ายที่สกัดด้วยเอทานอล มีฤทธิ์ต้านอนุมูลดีพีพีเอช สูงที่สุดคือ 148.47 ± 0.19 ไมโครกรัมของกรดแอสคอร์บิคสมมูลย์ต่อสารสกัด 1 มิลลิลิตร ส่วนค่าเฟอริค รีดิวซิง พบว่าสารสกัดจิงจูฉ่ายที่สกัดด้วยน้ำ และสารสกัดสารสกัดจิงจูฉ่ายสกัดด้วยเอทานอล มีค่าเฟอริค รีดิวซิง สูงสุด คือ 143.79 ± 7.17 ไมโครกรัมของกรดแอสคอร์บิคสมมูลย์ต่อสารสกัด 1 มิลลิลิตร และ 157.53 ± 4.39 ไมโครกรัมของกรดอซิตริคสมมูลย์ต่อสารสกัด 1 มิลลิลิตร ตามลำดับ เมื่อนำเอาสารสกัดด้วยน้ำของจิงจูฉ่ายมาพัฒนาเป็นตำรับเซรั่มในความเข้มข้นระหว่างร้อยละ 10-30 โดยน้ำหนัก พบว่า ตำรับเซรั่มจิงจูฉ่ายทั้งหมด 3 ตำรับ ไม่มีความเปลี่ยนแปลงด้านปริมาณสารประกอบฟีนอลิครวมและ ค่าความเป็นกรดด่าง สำหรับความคงตัวด้านสีพบว่าสูตรที่ใช้สารสกัดในปริมาณร้อยละ 30 โดยน้ำหนัก มีการเปลี่ยนแปลงสีสูงที่สุด เมื่อนำไปทดสอบความพึงพอใจในอาสาสมัครพบว่าอาสาสมัครมีความชอบเล็กน้อยถึงชอบปานกลาง (5.80±0.70 ถึง 5.85±1.14) จากการศึกษาทั้งหมดพบว่าจิงจูฉ่ายเป็นพืชที่มีศักยภาพที่สามารถนำมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางได้

Abstract: Artemisia lactiflora (AL) is a medicinal plant that is found to have a broad pharmacological effects including antioxidant activities. Antioxidant activities of this plant is obtained by the presence of two constituents, phenolic and flavonoid compounds. AL has the potential to be used as an ingredient in skin care products. In this study, the effect of extraction solvents were evaluated. The total phenolic compounds (TPC) was determined by Folin-Ciocalteu method. Total flavonoid contents (TFC) were analyzed by aluminum chloride colorimetric method. Antioxidant activities of AL extract were investigated using DPPH radical scavenging activity and ferric reducing power (FRAP). The obtained extract was further added into the serum formulation. The stability of this serum was studied in the accelerated condition by heat-cool cycle method. Consumer satisfaction was also evaluated by using the 7-point Hedonic scale. The results showed that the AL extract with water (JW) had the highest TPC and TFC, 394.82 ± 32.64 microgram gallic acid equivalent/milliliter (µg GAE/ml) and 295.73 ± 3.05 microgram catechin equivalent/milliliter (µg CE/ml) respectively. It was found that the AL ethanolic extracts (JE) had the highest DPPH antioxidant activity of 148.47 ± 0.19 microgram ascorbic acid equivalent/milliliter (µg AAE / ml). The FRAP values showed JW and JE with the highest FRAP value of 143.79 ± 7.17 microgram ascorbic acid equivalent/milliliter and 157.53 ± 4.39 microgram ascorbic acid equivalent/milliliter, respectively. JW was selected to be formulated in to a serum at a in the range of 10 to 30 % w/w. The results showed that all serum formulations were stable. There were also no changed in TPC and pH value. However, the color stability found that the formula with 30% w/w JW extract had the highest color change. For consumer satisfaction test, consumer showed slightly to moderate preference to the serum (5.80 ± 0.70 to 5.85 ± 1.14). In conclusion, results from this study indicated that Artemisia lactiflora (AL) is a potent plant that can be used as an ingredient in skin care products.

มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง. ศูนย์บรรณสารและสื่อการศึกษา

Address: เชียงราย

Email: library@mfu.ac.th

Name: นภัตสร ดิษฐาวุฒิกุล

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Email : ask.library@mfu.ac.th

Created: 2561

Issued: 2562

Modified: 2562-09-13

Issued: 2562-09-13

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

CallNumber: วพ. QV766 ณ311ก 2561

tha

DegreeName: วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: วิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง

Grantor: มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง

©copyrights มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	128633.pdf	27.66 MB	38	2025-11-03 18:09:05

ใช้เวลา

0.038134 วินาที