การประเมินคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระของพืชสมุนไพรไทยบางชนิด

Evaluation of antioxidant activity of some Thai medicinal plants

Name: สุรางค์รัตน์ พันแสง

Organization : มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์. คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

Email : surangrat_aejung@hotmail.com

Name: พวงผกา แก้วกรม

Organization : มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์. คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

Name: ปอแก้ว พรมเพชร

Organization : มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์. คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

Name: สมเพียร ฟักทอง

Organization : มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์. คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

Name: แสงจันทร์ สอนสว่าง

Organization : มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์. คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ThaSH: สมุนไพร -- ไทย -- การใช้รักษา

ThaSH: แอนติออกซิแดนท์

Abstract: งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของพืชสมุนไพรพื้นบ้านของอำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์จำนวน 3 ชนิด ได้แก่ ย่านางแดง (Bauhinia strychnifolia Craib.) ควายเก้าแม่ (Hiptage candicans Hook.f.) และหัวยาข้าวเย็น (Smilax glabra Roxb.) สกัดด้วยตัวทำละลายเอทานอล 50 เปอร์เซ็นต์ การศึกษาฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระด้วยวิธี DPPH free radical ใช้วิตามินซีและวิตามินอีเป็นสารมาตรฐาน ผลการศึกษาพบว่า สารสกัดจากหัวยาข้าวเย็นแสดงฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระมากที่สุดรองลงมาคือ ย่านางแดง และควายเก้าแม่ตามลำดับ (IC50 เท่ากับ 0.1642 + 0.1180, 0.3645 + 0.1590 และ มากกว่า 1.0000 + 1.1120 mg ต่อ ml) การตรวจสอบองค์ประกอบทางเคมีเบื้องต้น พบว่า ย่านางแดง มี flavonoid หรือ flavonol-3-glycoside และ hydrolysable tannin ส่วนควายเก้าแม่ มี flavanone, flavonol และ condensed tannin หัวยาข้าวเย็น พบเพียง condensed tannin จากการศึกษาครั้งนี้ทำให้ทราบว่าพืชสมุนไพรพื้นบ้านของอำเภอหล่มสักจังหวัดเพชรบูรณ์ มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและยังเป็นแหล่งของสารพฤกษเคมีที่สำคัญอีกด้วย

Abstract: The main objective of this research was antioxidants activities of 3 Thai medicinal plants such as Bauhinia strychnifolia Craib., Hiptage candicans Hook.f. and Smilax glabra Roxb. It was extracted using 50 percent ethanol. The study an antioxidant activity was evaluated using 2,2-diphenyl-1-picryl-hydrazyl (DPPH) free radical method and were used vitamin c and trolox as reference standards. The results showed that S.glabra extract possess the most potent properties followed by B.strychnifolia and H.candicans respectively (IC500.1642 + 0.1180, 0.3645 + 0.1590 and more than1.0000 + 1.1120 mg per ml). Phytochemical screening of B.strychnifolia indicated the presence of flavonoid or flavonol-3-glycoside and hydrolysable tannin. H.candicans contained flavanone, flavonol and condensed tannin. S.glabra contained condensed tannin. This research can be implied that some Thai medicinal plants from Lomsak District Phetchabun Province have remarkable antioxidant activity and can be used as a good source of phytochemicals

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ. สำนักหอสมุดกลาง

Address: กรุงเทพมหานคร

Email: library@kmutnb.ac.th

Created: 2560

Modified: 2562-07-09

Issued: 2562-07-09

บทความ/Article

application/pdf

BibliograpyCitation : ใน มหาวิทยาลัยสยาม คณะวิทยาศาสตร์. การประชุมวิชาการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระหว่างสถาบัน ครั้งที่ 5 (ASTC 2017) (pp.685-690). กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยสยาม

tha

©copyrights มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	ASTC 2017pp.685-690.pdf	260.6 KB	24	2024-09-06 21:50:09

ใช้เวลา

0.039332 วินาที