การพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนเรื่องรูปเรขาคณิต สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

Development of computer assisted instruction on geometric shapes for Grade 3 students

Name: รังสิมา สงเคราะห์

keyword: ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน

ThaSH: เรขาคณิต -- การศึกษาและการสอน

Classification :.DDC: 371.334

Abstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง รูปเรขาคณิตสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 และ 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนโดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง รูปเรขาคณิต กับเกณฑ์ร้อยละ 60 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านคลองครก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจันทบุรี เขต 1 ที่เรียนในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557 จำนวน 30 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ ที่มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.75 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที แบบไม่เป็นอิสระต่อกันผลการวิจัยพบว่า (1.บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง รูปเรขาคณิต สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 82.06/82.33 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด 80/80 (2.ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 หลังจากเรียนรู้โดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง รูปเรขาคณิต มีค่าเฉลี่ย 16.43 คะแนน จากคะแนนเต็ม 20 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 82.17 สูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 60 หรือ 12 คะแนน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05

Abstract: Local Call # วพ 371.334 ร318ก 2559 ผู้แต่ง รังสิมา สงเคราะห์ ชื่อเรื่อง การพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนเรื่องรูปเรขาคณิต สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 = Development of computer assisted instruction on geometric shapes for Grade 3 students / รังสิมา สงเคราะห์ พิมพลักษณ์ 2559 หมายเหตุ ฉบับพิมพ์อัดสำเนา วิทยานิพนธ์ (ค.ม.(หลักสูตรและการสอน))--มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์, 2559 เนื้อหา หลักสูตร -- ความสำคัญของคณิตศาสตร์ -- ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ -- บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน สรุป การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง รูปเรขาคณิตสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 และ 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนโดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง รูปเรขาคณิต กับเกณฑ์ร้อยละ 60 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านคลองครก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจันทบุรี เขต 1 ที่เรียนในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557 จำนวน 30 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ ที่มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.75 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที แบบไม่เป็นอิสระต่อกันผลการวิจัยพบว่า (1.บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง รูปเรขาคณิต สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 82.06/82.33 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด 80/80 (2.ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 หลังจากเรียนรู้โดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง รูปเรขาคณิต มีค่าเฉลี่ย 16.43 คะแนน จากคะแนนเต็ม 20 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 82.17 สูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 60 หรือ 12 คะแนน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 The objectives of this research were to 1) develop computer assisted instructions on geometric shapes for grade 3 students to meet the efficiency criterion of 80/80 and 2) compare the mathematics learning achievements of grade 3 students who learned using the computer assisted instructions on geometric shapes with the criterion of 60 %. The sample used in this study consisted of 30 grade 3 students in the second semester of the academic year 2014 at Ban Klongkrok School under the Chantha Buri Primary Educational Service Area Office 1. It was selected by cluster random sampling. The tools used in this research consisted of computer assisted instructions on geometric shapes for grade 3 students and a mathematics learning achievements test with a reliability of 0.75. The statistics used for data analysis were percentage, mean, standard deviation and dependent t-test. The results were as follows: (1. The computer assisted instruction on geometric shapes for grade 3 students had an efficiency criterion of 82.06/82.33, which met the set criterion of 80/80. (2.The mathematics learning achievements of the grade 3 students who learned using computer assisted instructions on geometric shapes had an average of = 16.43 out of 20, or 82.17 %. This score was higher than the criterion of 60 %, or 12 marks, at the 0.05 level of statistical significance.

มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์. สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ

Address: ปทุมธานี

Email: arit@vru.ac.th

Name: กาญจนา สุจีนะพงษ์.

Role: ประธานที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์.

Created: 2561

Modified: 2561-02-21

Issued: 2561-02-21

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

CallNumber: วพ 371.334 ร318ก 2559

tha

©copyrights มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ฯ

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	8597816.pdf	3.59 MB	316	2025-12-19 14:05:53

ใช้เวลา

0.029168 วินาที