Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านคล่องเรื่องค้าควบกล้ำ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 และเพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านคล่องเรื่องคำควบกล้ำ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 โรงเรียนบ้านหนองขุ่น อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 1 จำนวน 30 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่มเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แบบฝึกทักษะการอ่านคล่องเรื่องคำควบกล้ำ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นจำนวน 12 ชุด และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การอ่านคล่องเรื่องคำควบกล้ำ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เป็นแบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที
ผลการวิจัยพบว่า
1. แบบฝึกทักษะการอ่านคล่องเรื่องคำควบกล้ำ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 12 ชุด มีประสิทธิภาพเท่ากับ 82.00/ 80.33 ตามเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนด
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านคล่องเรื่อง
คำควบกล้ำ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
The purposes of this research were to develop Thai fluent reading drills on the topic cluster consonants for Prathom Suksa 6 students, aimied to meet the standardized criteria of 80/80, and to compare the students’ achievement before and after using the drills.The sample used in the study consisted of 30 Prathom Suksa 6 students in the academic year 2015 of Ban Nong Khun School, Kheuang Nai District, Ubon Ratchathani Province, Ubon Ratchathani Primary Educational Service Area Office 1, gained by the cluster sampling technique. The instruments were 12 drills and achievement test constructed by the researcher. The collected data were analyzed by percentage, mean, standard deviation, and t-test.
The research findings were as follows:
1. The developed drills contained 12 sets with the criteria of 82.00/ 80.33, based on the standardized criteria of 80/80.
2. The students’ achievement after using the drills was statistically higher than that before using them at .01 level of significance.