การพัฒนาระบบสนับสนุนกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกันแบบเพื่อนช่วยเพื่อน

The development of peer to peer collaborative system.

Name: นันทิรา ธีระนันทกุล

ThaSH: กิจกรรมการเรียนการสอน

ThaSH: การเรียนรู้ร่วมกัน

Abstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาระบบสนับสนุนกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกันแบบเพื่อนช่วยเพื่อน 2)1หาคุณภาพของระบบสนับสนุนกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกันแบบเพื่อนช่วยเพื่อน กลุ่มตัวอย่างในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชายหญิงที่โรงเรียนพระดาบส จำนวน 164 คน และครูผู้สอน จำนวน 10 คน ใช้วิธีการเลือกอย่างเจาะจง สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล1ได้แก่1ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และผลการวิจัย พบว่า 1. ผลการพัฒนาระบบสนับสนุนกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกันแบบเพื่อนช่วยเพื่อน ได้ออกแบบระบบสนับสนุนกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกันแบบเพื่อนช่วยเพื่อน ได้องค์ประกอบ คือ 1) ครูผู้สอนและผู้เรียน 2) กิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกันแบบเพื่อนช่วยเพื่อน 3) กระบวนการเพื่อนช่วยเพื่อน 4)1วัดและประเมินผลการเรียนรู้ โดยนำไปทดสอบกับผู้เรียนได้ค่าการยอมรับระบบสนับสนุนกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกันแบบเพื่อนช่วยเพื่อนในภาพรวม ได้ค่าเฉลี่ย 4.47 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.60 แสดงถึงการยอมรับการใช้งานอยู่ในระดับมาก ดังนั้นการจัดการเรียนการสอนที่ประกอบด้วยกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกันแบบเพื่อนช่วยเพื่อนที่ให้ผู้เรียนที่เรียนเก่งกว่าช่วยสอนผู้เรียนที่เรียนรู้ช้ากว่า ผู้สอนจัดกิจกรรมให้ผู้เรียนทำงานร่วมกัน เพื่อเสริมสร้างความรู้และความตระหนัก มีทักษะการคิด มีทักษะทางสังคม 2. คุณภาพของระบบสนับสนุนกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกันแบบเพื่อนช่วยเพื่อน จากผู้เชี่ยวชาญ องค์ประกอบทั้งหมดในภาพรวมจากการวิจัยสอดคล้องกับคุณภาพใน 4 ด้าน ดังนี้ 1) ด้านการส่งเสริมการเรียนรู้ 2) ด้านการแลกเปลี่ยนความรู้ร่วมกัน 3) ด้านกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกันแบบเพื่อนช่วยเพื่อน 4) ด้านประโยชน์ที่ได้รับจากกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกันแบบเพื่อนช่วยเพื่อน โดยรวมเท่ากับ 0.88 แสดงว่ามีความสอดคล้องกับงานวิจัย การประเมินการยอมรับระบบสนับสนุนกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกันแบบเพื่อนช่วยเพื่อนจากผู้สอนภาพรวมทั้ง 3 ด้าน คือ 1) องค์ประกอบของระบบสนับสนุนกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกันแบบเพื่อนช่วยเพื่อน 2) รูปแบบของกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกันแบบเพื่อนช่วยเพื่อน และ 3) ประโยชน์ต่อการนำไปใช้งานของตัวแบบระบบสนับสนุนกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกันแบบเพื่อนช่วยเพื่อนโดยค่าเฉลี่ย 4.61 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.48 แสดงว่าการยอมรับระบบอยู่ในระดับมากที่สุด ผลการวิจัยได้ระบบสนับสนุนกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกันแบบเพื่อนช่วยเพื่อนทำให้ผู้เรียนได้รับความรู้จากกระบวนการเรียนรู้ในแบบต่าง ๆ เหมาะสมที่จะนำมาใช้ในการจัดการเรียนการสอน ตอบสนองการจัดการศึกษาที่ต้องการให้ผู้เรียนมีความรู้และสร้างความตระหนักให้ผู้เรียน โดยงานวิจัยขั้นต่อไปสามารถนำระบบไปพัฒนาเป็นระบบที่ทำงานบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตและเพิ่มโมดูลในการจัดเก็บข้อมูลไว้ในระบบคลาวด์ ไม่ว่าผู้ใช้อยู่ที่ใดก็สามารถเรียกใช้งานได้ไม่จำกัดทั้งอุปกรณ์ เครือข่าย หรือรูปแบบของการเชื่อมต่อทำให้ผู้เรียนและผู้สอนมีส่วนร่วมในกิจกรรมได้ตลอดเวลา

Abstract: This research aims to 1) develop a system to support learning activities with peer to peer collaborative 2) determine the quality of support systems, learning activities with peer to peer collaborative. The subjects of the research term development support learning activities with peer to peer collaborative. The 164 subjects, using specifically selected students in Pradabos School and 10 teachers learning activities and statistics used in the data analysis were the mean, standard deviation. The research results were as follows: 1. Support the development of learning activities with peer to peer collaborative. The system is designed to support the learning activities with peer to peer collaborative 4 components: 1) Teacher and Student 2) learning activities with peer to peer collaborative 3) peer to peer collaborative processes 4) assessment of learning, the overall average of 4.47 and standard deviation of 0.60, which implies that satisfaction is active at a good level. The instruction includes learning activities with peer to peer collaborative better teach students who learn more slowly. Teachers organize activities for students to work together. To enhance knowledge has awareness about thinking skill and social skill. 2. The quality of support systems learning activities with peer to peer collaborative experts. The overall of result consistent 4 components 1) promote of activities learning 2) exchange of knowledge sharing 3) learning activities with peer to peer collaborative 4) benefits of learning activities with peer to peer collaborative. A total of 0.88 that is consistent with the research. To support the learning activities with peer to peer collaborative system including 3 components: 1) the elements of the traditional system of learning activities with peer to peer collaborative 2) forms of activities. Mutual learning and peer to peer and 3) benefit the implementation of a system of learning activities with peer to peer collaborative 4.61 and standard deviation 0.48 shows that the adoption of the model is at the highest level. The novelty of the research is the learning activities with peer to peer collaborative that help the students gain knowledge of the learning process in various ways. Teaching suitable for to be used meet the educational needs of the students with more knowledge and awareness to students. Future work can be used to develop and/or add the module to store data in cloud computing, any user, any device, and platform network connection, the students and teachers can participate all activities at any time.

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ. สำนักหอสมุดกลาง

Address: กรุงเทพมหานคร

Email: library@kmutnb.ac.th

Name: คมสันต์ ชไนศวรรย์

Role: ที่ปรึกษาดุษฎีนิพนธ์

Email : ksc@kmutnb.ac.th

Name: สมยศ เจตน์เจริญรักษ์

Role: ที่ปรึกษาดุษฎีนิพนธ์

Email : sjjr@kmutnb.ac.th

Created: 2559

Modified: 2560-03-01

Issued: 2560-03-01

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

CallNumber: ดพ DET น429ธ

tha

DegreeName: ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต

Level: ปริญญาเอก

Descipline: เทคโนโลยีเทคนิคศึกษา

Grantor: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ

©copyrights มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	B16037698.pdf	7.24 MB	241	2025-09-01 15:13:39

ใช้เวลา

0.034635 วินาที