รูปแบบการพัฒนานโยบายการศึกษาของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา

The model of educational policy development in the Primary Educational Service Area

Name: รุ่งนภา รุ่งเรืองศิลป์

keyword: การกำหนดนโยบาย

ThaSH: นโยบายการศึกษา -- ไทย

Classification :.DDC: 379

Abstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาองค์ประกอบการพัฒนานโยบายการศึกษาของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา 2) เพื่อศึกษารูปแบบการพัฒนานโยบายการศึกษาของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา 3) เพื่อตรวจสอบความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของรูปแบบการพัฒนานโยบายการศึกษาของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา โดยแบ่งการศึกษาออกเป็น 3 ขั้นตอน คือ ขั้นที่ 1 ศึกษาองค์ประกอบการพัฒนานโยบายการศึกษา โดยผู้วิจัยศึกษาวรรณกรรมและสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 17 คน โดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในขั้นตอนนี้เป็นแบบสัมภาษณ์ โดยมีค่าดัชนีความสอดล้องอยู่ระหว่าง 0.80-1.00 ขั้นที่ 2 ศึกษาและพัฒนารูปแบบการพัฒนานโยบายการศึกษาของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา แบ่งเป็น 2 ขั้นย่อย คือขั้นที่ 2.1 เก็บข้อมูลเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ สำนักงานเขตพื้นที่ประถมศึกษา 108 แห่ง ผู้ให้ข้อมูลสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาละ 5 คน รวมผู้ให้ข้อมูลทั้งสิ้น 540 คน โดยการสุ่มแบบง่าย เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถาม โดยมีค่าดัชนีความสอดล้องอยู่ระหว่าง 0.80-1.00 และค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ 0.98 สถิติที่ใช้ ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ขั้นที่ 2.2 เก็บข้อมูลเชิงคุณภาพโดยจัดสนทนากลุ่ม ผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 7 คน โดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบตรวจสอบรายการ โดยมีค่าดัชนีความสอดล้องอยู่ระหว่าง 0.80-1.00 สถิติที่ใช้คือ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ขั้นที่ 3 การตรวจสอบความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของรูปแบบการพัฒนานโยบายการศึกษาของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา กลุ่มตัวอย่าง 30 คน โดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบตรวจสอบรายการ โดยมีค่าดัชนีความสอดคล้องอยู่ระหว่าง 0.80-1.00 สถิติที่ใช้คือ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า1. องค์ประกอบของการพัฒนานโยบายการศึกษาของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ประกอบด้วย 5 ขั้นตอน คือ 1) ด้านการระบุปัญหา มี 18 รายการ 2) ด้านการรวบรวมข้อมูลและเสนอข้อมูลสารสนเทศ มี 26 รายการ 3) ด้านการกำหนดทางเลือกและเลือกทางเลือกไปสู่การปฏิบัติ มี 17 รายการ 4) ด้านการยกร่างนโยบายและการจัดทำนโยบาย มี 19 รายการ 5) ด้านการประกาศใช้นโยบายและการกำกับติดตามการนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ มี 15 รายการ โดยทุกรายการมีค่าน้ำหนักองค์ประกอบ (Factor Loading) ตั้งแต่ 0.50-0.95 2. รูปแบบการพัฒนานโยบายการศึกษาของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก และเงื่อนไขความสำเร็จ ดังนี้ ส่วนที่ 1 ประกอบด้วย 1.1) แนวคิด/หลักการของการพัฒนานโยบาย 1.2) ความสำคัญของการพัฒนานโยบาย ส่วนที่ 2 รูปแบบ ประกอบด้วยขั้นตอน 5 ขั้นตอน ได้แก่ 2.1) ขั้นการระบุปัญหา 2.2) ขั้นการรวบรวมข้อมูลและข้อมูลสารสนเทศ 2.3) ขั้นการกำหนดทางเลือกและเลือกทางเลือกไปสู่การปฏิบัติ 2.4) ขั้นการยกร่างนโยบายและการจัดทำนโยบาย 2.5) ขั้นการประกาศใช้นโยบายและการกำกับติดตามการนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ และส่วนที่ 3 ขั้นตอนการนำไปใช้ ประกอบด้วย 3.1) การเตรียมการ 3.2) การนำรูปแบบการพัฒนานโยบายไปใช้ 3.3) การประเมินผล และในส่วนของเงื่อนไขความสำเร็จซึ่งประกอบด้วย 1) ผู้บริหารให้ความสำคัญต่อการพัฒนานโยบาย และนิเทศติดตามอย่างเป็นระบบ 2) ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องให้ความสำคัญ ให้ความร่วมมือในการดำเนินการ และ 3) นโยบายมีความสอดคล้องกับหน่วยงานต้นสังกัด3. การตรวจสอบความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของรูปแบบการพัฒนานโยบายการศึกษาของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา พบว่ารูปแบบการพัฒนานโยบายมีความเหมาะสมและความเป็นไปได้อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.80, S.D.= 0.40, = 4.81, S.D.= 0.39 ตามลำดับ)

Abstract: The purposes of this study were; 1) to study the factors of policy development of the Primary Educational Service Area. 2) to study a model of policy development of the Primary Educational Service Area. 3) to test a model of policy development of the Primary Educational Service Area. The research design was divided into 3 steps. The first step was to analyze the factors of policy development of the Primary Educational Service Area. The researcher reviewed related literature and interviewed 17 experts selected by purposive sampling. The tool for this step was an interview form with the index of Item Objective Congruence between 0.80-1.00. The second step was to study and develop the model of educational policy development in the Primary Educational Service Area. This step was divided into 2 steps. 2.1 The quantity data was collected from the sample of 108 offices of the Primary Educational Service Area, and the respondents of 5 officers from each office for the total of 540 respondents selected by simple random sampling. The tool was a questionnaire with the index of Item Objective Congruence between 0.80-1.00 and Reliability was 0.98.The data was analyzed by descriptive statistics of mean, standard deviation. 2.2 Qualitative data was collected by a focus group discussion of 7 experts selected by purposive sampling. The tool was a check list form with the index of Item Objective Congruence between 0.80-1.00. The data was analyzed by descriptive statistics of mean, standard deviation. The third step was to check the suitability of the model of educational policy development in the Primary Educational Service Area. The sample was 30 people selected purposive sampling from the Primary Educational Service Area. The tool for this step was a check list form with the index of Item Objective Congruence between 0.80-1.00. The data was analyzed by descriptive statistics of mean, standard deviation. The findings of this study were as follows: 1. The components of policy development of the Primary Educational Service Area composed of 5 steps as follows: 1) problem identification composed of 18 variables, 2) data collection and information composed of 26 variables, and 3) option analysis composed of 17 variables, 4) policy formulation composed of 19 variables and 5) policy implementation composed of 15 variables. All variables had the factor loadings between 0.50-0.95. 2. The model of policy development of the Primary Educational Service Area composed 3 main parts, and a success condition as follows, Part 1 composed of 1.1) the ideas, policy development principles, 1.2) the importance of policy development. Part 2 the model composed of 5 steps as follows: 2.1) problem identification, 2.2) data and information collection, 2.3) option analysis, 2.4) policy formulation and 2.5) policy implementation. Part 3 implementation step composed of 3.1) the preparation, 3.2) the implementation of the model of policy development, 3.3) the evaluation the condition of success composed of 1)administrators understood the precedence of policy development and supervision, 2) the involving staffs understood the precedence and co-ordination, and 3) the policy was in accordance with the organization. 3. The test of suitability and possibility the model of educational policy development in the Primary Educational Service Area was that the finding of the model of educational policy development in the Primary Educational Service Area had the suitability and possibility in the highest level. ( = 4.80, S.D. = 0.40, = 4.81, S.D. = 0.39 Respectively)

มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์. สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ

Address: ปทุมธานี

Email: arit@vru.ac.th

Name: ศักดา สถาพรวจนา.

Role: ประธานที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์.

Created: 2559

Modified: 2559-01-13

Issued: 2559-01-13

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

CallNumber: วพ 379 ร623ร 2557

tha

©copyrights มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ฯ

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	8590165.pdf	3.52 MB	299	2025-11-02 02:08:29

ใช้เวลา

0.02732 วินาที