ปัจจัยที่มีผลต่อประสิทธิภาพในการบริหารจัดการวัดที่มีผลต่อสังคมกรณีศึกษาวัดเขาอิติสุคโต อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

The factors effecting the efficiency of temple management to the society : The case study of Wat Khao Itisukhato, Hua - Hin District, Prajaubkhirikhan Province

Name: พระครูบรรพตพัฒนคุณ ธนวฑฺฒโก (ไข่แก้ว)

Abstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ คือ ๑) เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อประสิทธิภาพในการบริหารจัดการวัดที่มีผลต่อสังคม กรณีศึกษาวัดเขาอิติสุคโต อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ๒) เพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพการบริหารจัดการวัดที่มีผลต่อสังคม กรณีศึกษาวัดเขาอิติสุคโต อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล ๓) เพื่อศึกษาปัญหา อุปสรรคและแนวทางการพัฒนาการจัดการวัดที่มีผลต่อสังคม กรณีศึกษาวัดเขาอิติสุคโต อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ดำเนินการวิจัยเชิงสำรวจ (Survey Research) กับกลุ่มตัวอย่างที่เป็น พระภิกษุ สามเณร แม่ชี และอุบาสก อุบาสิกาที่เข้ามาพักอาศัยภายในวัดเขาอิติสุคโต อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จำนวน ๒๙๓ รูป/คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถาม แบ่งเป็น ๓ ตอน คือ ตอนที่ ๑ เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม ตอนที่๒ เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับปัจจัยที่มีผลต่อประสิทธิภาพในการบริหารจัดการวัดที่มีผลต่อสังคม กรณีศึกษาวัดเขาอิติสุคโต อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตอนที่ ๓ เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับปัญหา อุปสรรคและข้อเสนอแนะการบริหารจัดการวัดที่มีผลต่อสังคม กรณีศึกษาวัดเขาอิติสุคโต อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยมีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ ๐.๗๕๔๖ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าเอฟ (F – test) โดยใช้การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One way analysis of variance) ผลการวิจัย พบว่า ๑. ปัจจัยที่มีผลต่อประสิทธิภาพในการบริหารจัดการวัดที่มีผลต่อสังคมกรณีศึกษาวัดเขาอิติสุคโต อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พุทธศาสนิกชนมีความเห็นต่อปัจจัยที่มีผลต่อประสิทธิภาพในการบริหารจัดการวัดที่มีผลต่อสังคมกรณีศึกษาวัดเขาอิติสุคโต อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยภาพรวมทั้งหมดอยู่ในระดับมาก (= ๓.๙๑) และเมื่อพิจารณาในแต่ละด้านพบว่าพุทธศาสนิกชนมีความเห็นต่อปัจจัยที่มีผลต่อประสิทธิภาพในการบริหารจัดการวัดที่มีผลต่อสังคมกรณีศึกษาวัดเขาอิติสุคโต อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ค่าเฉลี่ยสูงสุด ( = ๔.๓๖) ในด้านการควบคุมภายในวัดเพื่อสังคม ส่วนค่าเฉลี่ยต่ำสุด ( = ๓.๗๑) ในด้านการสั่งการภายในวัดเพื่อสังคม ๒. ปัจจัยที่มีผลต่อประสิทธิภาพในการบริหารจัดการวัดที่มีผลต่อสังคมกรณีศึกษาวัดเขาอิติสุคโต อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคลโดยรวม ประชากรที่มีสถานภาพ อายุ และวุฒิการศึกษาทางธรรม วุฒิการศึกษาสามัญ ระยะเวลาที่เข้ามาพักอาศัยอยู่ภายในวัดเขาอิติสุคโต และภูมิลำเนา ของผู้ตอบแบบสอบถามต่างกัน มีความเห็นต่อปัจจัยที่มีผลต่อประสิทธิภาพในการบริหารจัดการวัดที่มีผลต่อสังคมกรณีศึกษาวัดเขาอิติสุคโต ไม่ต่างกันซึ่งไม่เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ ๓.ปัญหาปัจจัยที่มีผลต่อประสิทธิภาพในการบริหารจัดการวัดที่มีผลต่อสังคมกรณีศึกษาวัดเขาอิติสุคโต อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ส่วนใหญ่ตอบเกี่ยวกับ ประสิทธิภาพในการบริหารจัดการวัดที่มีผลต่อสังคมกรณีวัดเขาอิติสุคโตอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์อยู่ในระดับมาก แสดงว่ามีการวางแผน นโยบายและวัตถุประสงค์ในการบริหารงานเพื่อสังคมมีประสิทธิภาพเป็นอย่างดี ตลอดถึงการวางตัวบุคคลในการทำงานได้อย่างเหมาะสม จากการวิจัยพบว่า พระภิกษุ สามเณร แม่ชี และอุบาสก อุบาสิกา ยังต้องทำงานเพื่อสังคม ซึ่งต้องมีจิตอาสาให้มากขึ้น จึงควรสนับสนุน พระภิกษุ สามเณร แม่ชี และอุบาสก อุบาสิกา ให้ได้รับการศึกษา และสร้างจิตสำนึกในความเสียสละให้เกิดขึ้นให้ได้

Abstract: This thesis aims at studying the factors affecting the efficiency of temple management to the society: The case study of Wat Khao Itisukhato, Hua-Hin District, Prajaubkhirikhan Province, the study of relevant factors which affect the effectiveness of management within the monastery. Moreover, the thesis attempts to identify management problem(s) and to recommend best possible suggestions for further development. The sample populations include the Sangha community; monks, novices and nuns residing in the monastery and laypeople. Questionnaire is used as the tool for collecting data. These data are analyzed through statistical software in order to find the frequency, percentage, mean and standard deviation. The F-Test is analyzed by the “One-way analysis of variance” approach. The result indicates the rate of confidence as 0.7546. The result of study 1. The six factors affecting monastery management are controlling, planning, general administration, Human resource management, organizational resource management and the chain of command within the temple. From Public’s point of view. The result in general regarding factors influencing management within temple indicates high level. 2. The sample group is classified by sex, age, birthplace, educational background and length of stay in the monastery. The research found out that these classifications has no significant difference regarding opinion in aspect of factors which affect temple management. Consequently, the hypothesis was denied. 3. The result generally indicates that the human resource management within the temple is considerably positive. This could imply that the temple has clear objectives and appropriate policies in order to put the right man into the right job. Yet, the result still indicates that there is a small number of lacks of understanding regarding assigned task and know-how.

Mahachulalongkornrajavidyalaya University. Center Library

Address: AYUTTHAYA

Email: library@mcu.ac.th

Name: เติมศักดิ์ ทองอินทร์

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Name: พระมหาบุญเลิศ อินฺทปญฺโญ

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Name: ธัชชนันท์ อิศรเดช

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Created: 2554

Issued: 2558-09-24

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

tha

©copyrights มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

ใช้เวลา

0.022443 วินาที