ผลของนโยบายการเงิน การคลัง และอัตราแลกเปลี่ยนที่มีต่อตัวแปรทางเศรษฐศาสตร์มหภาค

The Impacts of Monetary, Fiscal and Exchange Rate Policies on Macroeconomic Variables

Name: สุขุมาลย์ ชลการ

ThaSH: นโยบายการเงิน -- ไทย.

ThaSH: นโยบายการคลัง -- ไทย.

ThaSH: เศรษฐศาสตร์มหภาค.

ThaSH: ปริวรรตเงินตรา.

Abstract: วัตถุประสงค์ของการศึกษาในครั้งนี้ เพื่อศึกษาผลกระทบจากการใช้นโยบายการเงิน นโยบายการคลัง และนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนที่มีต่อตัวแปรทางเศรษฐศาสตร์มหภาคในระบบเศรษฐกิจ ซึ่งทำการศึกษาตามแนวคิดของ Monetary Approach toBalance of Payments โดยใช้เเบบจำลองเศรษฐมิติมหภาคขนาดเล็กสำหรับระบบเศรษฐกิจแบบเปิดของ Athanasios p. papadopoulos (1993) ซึ่งประกอบด้วยสมการแสดงพฤติกรรม 6 สมการ และสมการเอกลักษณ์ 1 สมการ ประมาณค่าสัมประสิทธิแต่ละสมการด้วยวิธีกำลังสองน้อยที่สุด (OLS) โดยใช้ข้อมูลรายปีในช่วงปี พ.ศ. 2520พ.ศ. 2539 และทำการทดสอบความเชื่อมั่นของสมการทั้งระบบในแบบจำลอง โดยทำการ Historucal Simulation ก่อนที่จะนำมาทำการวิเคราะห์นโยบาย (policy simulation ) โดยใช้ค่าใช้จ่ายรัฐบาลเป็นตัวแปรของนโยบายการคลัง ปริมาณสินเชื่อภายในประเทศเป็นตัวแปรของนโยบายการเงินและอัตราเเลกเปลี่ยนเงินบาทต่อดอลลาร์ สรอ. เป็นตัวแปรของนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนผลการศึกษาพบว่า ในสมการการนำเข้าเเละสมการการส่งออก ราคาเปรียบเทียบมีผลต่อมูลค่าการนำเข้าและมูลค่าการส่งออกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ จึงถือได้ว่าสามารถใช้นโยบายอัตราแลกเปลี่ยนเป็นเครื่องมือ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในดุลการค้าโดยส่งผ่านราคาเปรียบเทียบ ในสมการระดับราคาพบว่า อุปสงค์ส่วนเกินของสินค้า ราคาสินค้านำเข้า เเละราคาสินค้าภายในประเทศในปีที่ผ่านมา มีความสัมพันธ์ในทิศทางเดียวกันกับระดับราคาสินค้าภายในประเทศ สำหรับสมการผลิตภัณฑ์ประชาชาติที่แท้จริงพบว่า ระดับผลผลิตจะขึ้นอยู่กับตัวแปรทางการคลัง(การใช้จ่ายของรัฐบาลที่แท้จริงและภาษีที่แท้จริง) และอุปสงค์ส่วนเกินของสินค้า โดยที่ตัวแปรทางการเงิน (ความไม่สมดุลทางการเงิน) ไม่มีผลกระทบต่อระดับผลผลิตอย่างมีนัยสำคัญ ในสมการปริมาณเงิน พบว่า ปริมาณเงินมีความสัมพันธ์ในทิศทางเดียวกันกับปริมาณสินเชื้อภายในประเทศ ทุนสำรองระหว่างประเทศ ปริมาณเงินในปีที่ผ่านมา และมีความสัมพันธ์ในทิศทางตรงกันข้ามกับหนี้สินต่างประเทศสุทธิอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติส่วนสมการทุนสำรองระหว่างประเทศ ซึ่งใช้แสดงแทนการเปลี่ยนแปลงในดุลการชำระเงินปรากฎว่า ตัวแปรทางการเงิน (ความไม่สมดุลทางการเงิน) มีผลต่อทุนสำรองระหว่างประเทศอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ผลการประมาณค่าจากสมการผลิตภัณฑ์ประชาชาติที่แท้จริงและสมการทุนสำรองระหว่างประเทศแสดงให้เห็นว่า นโยบายการเงินจะไม่ส่งผลต่อผลผลิตที่เเท้จริง เเต่จะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในดุลการชำระเงิน เมื่อทำการทดสอบความเชื่อมั่นของแบบจำลอง โดยพิจารณาจากค่าเฉลี่ยความคลาดเคลื่อนยกกำลังสอง (RMSE) และค่าสัมประสิทธิ์แห่งการไม่เท่ากันของ Theil (U)ผลการทดสอบพบว่า แบบจำลองมีความเชื่อมั่นที่ดีพอสมควร สามารถนำไปใช้ในการวิเ คราะห์นโยบาย (policy Sumulation ) ได้ในการวิเคราะห์นโยบายพบว่า การใช้นโยบายการเงิน นโยบายการคลัง และนโยบายอัตราแลกเปลี่ยน มีผลกระทบต่อผลผลิต ระดับราคา และดุลการชำระเงินแตกต่างกันตามช่วงระยะเวลา ซึ่งผลการวิเคราะห์นโยบายสรุป ได้ว่า ภายใต้ระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบคงที่ นโยบายการคลังจะมีประสทธิภาพและประสิทธิผลในการที่ก่อให้เกิดความเจริญเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศ กล่าวคือ การใช้นโยบายการคลังจะมีผลกระทบต่อระดับผลผลิต และส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนเเปลงต่อระดับผลผลิตมากกว่าการใช้นโยบายการเงิน ในส่วนเสถียรภาพของระดับราคาพบว่า การใช้นโยบายการเงิน จะมีผลกระทบต่อระดับราคาสินค้าภายในประเทศ เเละส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในดุลการชำระเงินมากกว่าการได้นโยบายการคลัง ส่วนการใช้นโยบายอัตราแลกเปลี่ยนโดยการลดค่าเงินพบว่า เมื่อมีการลดค่าเงินจะยังไม่ส่งผลให้ดุลการค้าปรับตัวดีขึ้นในทันที เนื่องจากมูลค่าการนำเข้าไม่ลดลงและมูลค่าการส่งออกไม่เพิ่มขึ้นในทันทีในปีเเรกเมื่อมีการลดค่าเงิน โดยมูลค่าการนำเข้าจะลดลงและมูลค่าการส่งออกจะเพิ่มขึ้นในปีที่2 ของการลดค่าเงิน จึงเป็นไปตาม J - Curve effect ที่เกิดจากความล่าช้าในการปรับตัว การลดค่าเงินจะทำให้ดุลการชำระเงินดีขึ้น ส่วนผลกระทบที่มีต่อระดับราคาสินค้าภายในประเทศและระดับผลผลิตพบว่ามีผลกระทบน้อย ซึ่งเมื่อพิจารณาขนาดของผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการลดค่าเงินพบว่า ในระยะยาวขนาดของผลกระทบที่เกิดขึ้นจะมีน้อยกว่าขนาดของผลกระทบในระยะสั้นและระยะกลาง นั้นคือ การใช้นโยบายอัตราแลกเปลี่ยนโดยการลดค่าเงิน ผลที่เกิดขึ้นในระยะยาวจะมีผลกระทบต่อตัวแปรในระบบเศรษฐกิจลดน้อยลง

Abstract: The objective of this thesis is to study the impacts of monetary , fiscal and exchange rate policies on macroeconomic variables , via the monetary approach to balance of payments. The study employs a small macroeconometric model for the open economy of Athanasios P. Papadopoulos (1993). The model consists of six behavioural equations and one identity. The ordinary least square (OLS) technique is employed in the estimation of the parameters of the samples from 1977 to 1996.The model is tested level of confidence by historical simulation before analizing policy simulation.Govermnent expenditure is the fiscal policy variable, domestic credit is the monetary policy variable and exchange rate of baht/dollar is the exchange rate policy variable.The result indicates that relative prices show a significant influence on the level of imports and exports. It implies that exchange rate policy can be regarded as a powerful instrument producing trade balance changes through relative prices. In the price level equation, the result shows that excess demand for goods, price of importsand domestic price in previous year are related positively significant with the domestic price level. In the real GNP equation , the result shows that output level fluctuations depend on excess demand for goods and fiscal variables (real government expenditure and real taxes) while monetary variable (monetary disequilibrium) does not significantly influence the level of output. In the money supply equation , the result shows that domestic credit, official reserves and money supply in previous year are positively related with the money supply while net foreign indebtedness is negatively related. As for the official reserves equation which shows the change of balance of payments, the result of the estimation indicates that monetary variable has significantly influence on the official reserves. Thus , the estimations from the real GNP and the official reserves equations indicate that monetary policy has no impact on real output but such monetary policy could change balance of payments.To test the confidence of model, by examining the root mean squares error (RMSE) and theil's inequality coefficient (U) , the estimation results are found in the acceptable level of confidence.As for policy simulation model , the result shows that monetary, fiscal and exchange rate policies have different impacts on macroeconomic variables due to different time period. About the growth variable , the policy simulation model indicates that fiscal policy has greater impact on output level and causes balance of payments change greater than monetary policy. We, then can conclude that fiscal policy has more efficiency than monetary policy under fixed exchange rate system. As for the stability of the price level , the result shows that monetary policy has impact on the level of domestic prices and produces changes in the balance of payments more than fiscal policy. Devaluation of domestic currency does not change export value and import value immediately. In the second year, import value decreases while export value increases due to J - curve effect resulting in lagged adjustment process. The devaluationmakes the balance of payments move to surplus. The devaluation has little impact on the level of domestic prices and the level of output. In the long - run , the magnitude of the effect of the devaluation is lesser than the medium and the short - run effects. It implies that the effect of devaluation on economic variables has decreased in the long - run.

มหาวิทยาลัยรามคำแหง.สำนักหอสมุดกลาง

Address: กรุงเทพมหานคร (Bangkok)

Email: dcms@lib.ru.ac.th

Name: เกษร หอมขจร

Role: คณะกรรมการที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์

Name: รวงทอง ชัยประสพ

Role: คณะกรรมที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์

Name: วิรัช ธเนศวร

Role: คณะกรรมการที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์

Created: 2544

Modified: 2549-05-27

วิทยานิพนธ์/Thesis

ISBN: 9743139642

ม.ร. ส2416 2544

tha

DegreeName: เศรษฐศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: เศรษฐศาสตร์

Grantor: มหาวิทยาลัยรามคำแหง

©copyrights มหาวิทยาลัยรามคำแหง

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	Title.pdf	106.33 KB	322	2025-09-20 13:43:39
2	Abstract.pdf	217.66 KB	344	2025-08-30 13:20:42
3	Contents.pdf	136.78 KB	261	2025-09-20 13:44:57
4	Chapter1.pdf	420.41 KB	403	2025-09-20 13:46:35
5	Chapter2.pdf	1.49 MB	446	2025-09-20 13:47:33
6	Chapter3.pdf	2.38 MB	375	2025-09-20 13:48:12
7	Chapter4.pdf	1.55 MB	351	2025-09-20 13:49:14
8	Chapter5.pdf	363.4 KB	555	2025-09-20 13:50:15
9	Appendix.pdf	259.6 KB	236	2025-09-20 13:51:04
10	Bibliography.pdf	149.4 KB	214	2025-09-20 13:51:35
11	Vita.pdf	19.44 KB	179	2025-09-20 13:53:48

ใช้เวลา

0.038774 วินาที