The Development of Reflective Thinking Skills by the Evaluation Technique in Mathematics for Mattayomsuksa Four Level of Wangyaividayasun School under the Secondary Educational Service Area 22
Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการปฏิบัติการพัฒนาทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ
โดยการใช้เทคนิคการประเมิน และ เพื่อเปรียบเทียบผลการปฏิบัติการพัฒนาทักษะการคิดอย่างมี
วิจารณญาณ ก่อนและหลังการใช้เทคนิคการประเมิน กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยคือ นักเรียนชั้น
มัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนแวงใหญ่พิทยาสรรค์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 22
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2555 จำนวน 20 คน การวิจัยในครั้งนี้ใช้การปฏิบัติการตามแนวคิดของ
Kemmis and Mc Taggart ซึ่งมี 4 ขั้นตอนคือ 1) ขั้นวางแผน 2) ขั้นปฏิบัติการ 3) ขั้นสังเกต และ
4) ขั้นสะท้อนผลการปฏิบัติ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยปฏิบัติการ ได้แก่ (1) แผนการจัดการเรียนรู้ มีผล
การประเมินคุณภาพในระดับมากที่สุด (ค่าเฉลี่ย 4.76) (2) แบบทดสอบวัดทักษะการคิดอย่างมี
วิจารณญาณ จำนวน 30 ข้อ ซึ่งมีค่าความยากง่าย ระหว่าง .24.76 ค่าอำนาจจำแนก ระหว่าง .23
.76 และค่าความเชื่อถือได้เท่ากับ .89 (3) แบบทดสอบย่อยท้ายวงจรปฏิบัติการ 3 ฉบับ ฉบับละ 10
ข้อ ซึ่งมีค่าความยากง่ายระหว่าง .28.74 ค่าอำนาจจำแนก ระหว่าง .22.75 และค่าความเชื่อถือได้
เท่ากับ .85 , .79 และ .84 ตามลำดับ . (4) แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของนักเรียน (5) แบบ
สัมภาษณ์นักเรียน (6) แบบสังเกตพฤติกรรมการสอนของครู และ (7) แบบบันทึกประจำวันของครู
ผู้วิจัย วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ ด้วยสถิติพื้นฐาน ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
และวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยการวิเคราะห์เนื้อหา สรุป ตีความ แล้วนำเสนอเป็นความเรียง
ผลการวิจัยพบว่า
1. การปฏิบัติการพัฒนาทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ โดยการใช้เทคนิคการประเมิน
ประกอบด้วย 4 ขั้นตอนคือ 1) ขั้นวางแผน 2) ขั้นปฏิบัติการ 3) ขั้นสังเกต และ 4) ขั้นสะท้อนผลการปฏิบัติ
การพัฒนาทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ โดยการใช้เทคนิคการประเมิน มีขั้นตอนในการสอน
ประกอบด้วย (1) การนำเข้าสู่บทเรียน (1.1) ขั้นสร้างความสนใจ เตรียมความพร้อม กระตุ้นความสนใจ
ของนักเรียน (2)กิจกรรมการเรียนรู้ แบ่งออกเป็น 2 ขั้นคือ (2.1) ขั้นสำรวจและค้นหา นักเรียนร่วมกัน
นำเสนอความคิด ให้นักเรียนเข้าใจเนื้อหาที่เรียนอย่างชัดเจน (2.2) ขั้นอธิบายและลงข้อสรุป เสนอ
บริบท เนื้อหาหรือสถานการณ์ให้กับนักเรียน โดยใช้ตัวอย่าง นักเรียนฝึกทักษะ โดยใช้ใบกิจกรรม
ปฏิบัติตามตัวอย่าง ตามความเหมาะสมของเนื้อหาในลักษณะเป็นรายบุคคล (3) สรุป แบ่งออกเป็น
2 ขั้นคือ (3.1) ขั้นขยายความรู้ นักเรียนนำเนื้อหาที่ได้เรียนหรือที่ฝึกปฏิบัติมาแล้วไปใช้ในการทำ
แบบฝึกหัดหรือปฏิบัติตามใบงานที่กำหนด แล้วให้นักเรียนประเมินตนเองในวงจรที่ 1 ประเมินให้เพื่อน
ในกลุ่มในวงจรที่ 2 และให้ประเมินระหว่างกลุ่มในวงจรที่ 3 (3.2) ขั้นประเมินผล ครูเป็นผู้ประเมินจาก
การร่วมกิจกรรม การทำแบบฝึกหัด การตรวจใบงาน ด้วยการประเมินที่หลากหลายและการประเมินด้าน
ทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ
2. การเปรียบเทียบผลการปฏิบัติการพัฒนาทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ ก่อนและ
หลังการปฏิบัติการโดยใช้เทคนิคการประเมิน นักเรียนกลุ่มตัวอย่างมีผลการสอบวัดทักษะการคิดอย่าง
มีวิจารณญาณรวมเฉลี่ย ก่อนเรียนและหลังเรียน เท่ากับ 13.80 และ 40.60 ตามลำดับ จากคะแนนเต็ม
55 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 25.09 และ 73.82 ตามลำดับ ซึ่งร้อยละของการสอบหลังเรียน ผ่านเกณฑ์
ที่กำหนดไว้คือ ร้อยละ 60 ของคะแนนเต็ม และมีคะแนนเฉลี่ยร้อยละของคะแนนพัฒนาการ เท่ากับ
66.57 พบว่านักเรียนกลุ่มตัวอย่างมีคะแนนทดสอบทักษะการคิดอย่างมีวิจารญาณ หลังปฏิบัติการสูงกว่า
ก่อนปฏิบัติการ
The research aimed to study and compare the development of reflective
thinking skills by using the evaluation technique. The target group was 20 Mattayom Suksa
four students of Wangyaividayasun School in the second semester of the school year
2012. The research instruments included (1) lesson plans with the best level an
average of 4.76; (2) the test on the reflective thinking skills with a difficulty ranging
from .24-.76, a discrimination value ranging from .23-.76 and a confidence value
equivalent to .89; (3) the quiz of three operating circles with a difficulty value of .28-.74,
a discrimination value ranging from .22-.75 and a confidence value equivalent
as .85 , .79 and .84 (4) an observation format for students learning behavior; 5) the
interviews; 6) an observation format for teachers teaching behavior; 7) a daily record of
the researcher. Statistics used in data analysis were mean, standard deviation, and
percentage. Qualitative data were analyzed by content analysis and presented.
The research findings were as follows :
1. The development in the study consisted of four stages: planning, operation,
observation and reflection or feedback. The teaching steps consisted of the following:
1) introduction including motivating the interest, preparation; 2)learning activities
including survey and search, explanation and conclusion according to the context
and the contents; 3) conclusion in two steps: first, the students did or practiced according
to the given assignments, then they evaluated themselves, their friends and the group;
second, the teacher evaluated based on the shared activities, exercises, and work
sheet.
2. Considering the comparison of the reflective thinking skills before and
after the use of the evaluation technique, it was found that the subjects had the
reflective thinking skills before and after their learning equivalent to 25.09 and 73.82
respectively. The set criterion was 60% of the total scores. It indicated that the
samples had the scores of the reflective thinking skills higher than before.