ลักษณะทางพันธุกรรมของยีนที่เกี่ยวข้องกับความต้านทานโรคแอนแทรคโนส ในหน้าวัว

Molecular Characterization of Genes Conferring Resistance to Anthracnose in Anthurium andraeanum

Name: ดร. ณัฐพงษ์ ศรีสมุทร

Address: 62/1 ถนนเกษตรสมบูรณ์ ต.กาฬสินธุ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ 46000

Organization : มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตกาฬสินธุ์

Name: ดร. แก้วตา สูตรสุวรรณ

Address: 62/1 ถนนเกษตรสมบูรณ์ ต.กาฬสินธุ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ 46000

Organization : มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตกาฬสินธุ์

Name: นายชัยณรงค์ วิเศษนันท์

Address: 62/1 ถนนเกษตรสมบูรณ์ ต.กาฬสินธุ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ 46000

Organization : มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตกาฬสินธุ์

Name: นางสาวชิดชนก คำเลิศ

Address: 62/1 ถนนเกษตรสมบูรณ์ ต.กาฬสินธุ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ 46000

Organization : มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตกาฬสินธุ์

keyword: ลักษณะทางพันธุกรรมของยีนที่เกี่ยวข้องกับความต้านทานโรคแอนแทรคโนส ในหน้าวัว

ThaSH: Molecular Characterization of Genes Conferring Resistance to Anthracnose in Anthurium andraeanum

Abstract: งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อค้นหาชนิดพันธุ์หน้าวัวที่มีความต้านทานต่อโรคแอนแทรคโนสสูง และศึกษาถึงการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพและสรีระวิทยาของหน้าวัวหลังการปลูกเชื้อรา Colletotrichum gloeosporioides จากการแยกเชื้อราและนำเชื้อที่แยกได้มาเลี้ยงบนอาหารพีดีเอ แล้วทำการปลูกเลี้ยงเชื้อราบนต้นพืช (Artificial inoculation) ให้กับต้นหน้าวัวจำนวน 10 สายพันธุ์ สายพันธุ์ละ 3 ใบ พบว่าต้นหน้าวัวที่ได้รับการฉีดพ่นสปอร์ของเชื้อราแสดงอาการของโรคแอนแทรคโนส คือ แผลมีลักษณะเป็นสีน้ำตาล แผลแห้ง ขอบแผลมีสีเหลือง ลักษณะของแผลจะขยายขนาดขึ้นเรื่อยๆ และในสัปดาห์ที่ 4 หน้าวัวสายพันธุ์เปลวเทียนภูเก็ตมีระดับความต้านทานต่อโรคสูงที่สุด ที่ร้อยละ 64.0 และหน้าวัวสายพันธุ์เมอร์ริงเก้มีระดับความต้านทานต่อโรคต่ำที่สุด ที่ร้อยละ 22.0 การวิเคราะห์กิจกรรมเอนไซม์ไคติเนส (chitinase) และเบต้ากลูคาเนส (β-1,3 glucanase) เปรียบเทียบระหว่างหน้าวัวสายพันธุ์เปลวเทียนภูเก็ตที่มีความต้านทานต่อโรคสูงที่สุดเมื่อได้รับการปลูกเชื้อรากับต้นควบคุมที่ไม่มีการปลูกเชื้อรา พบว่า ต้นที่ได้รับการปลูกเชื้อรามีกิจกรรมของเอนไซม์ไคติเนส และเบต้ากลูคาเนส เท่ากับ 0.064 และ 0.047 ไมโครกรัมต่อปริมาณโปรตีน 1 มิลลิกรัม ในเวลา 1 ชั่วโมง ตามลำดับ แสดงให้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงทางสรีระวิทยาของหน้าวัวหลังการปลูกเชื้อรานั้นเป็นการเปลี่ยนแปลงในลักษณะของการเพิ่มกิจกรรมของเอ็นไซม์ไคติเนสและเบต้ากลูคาเนส คำสำคัญ: เอนไซม์, ต้านทาน, โรคแอนแทรคโนส, หน้าวัว The objective of this project is to find Anthurium andraeanum cultivars with high resistance to anthracnose and study of the morphological and physiological changes after artificial inoculation with Colletotrichum gloeosporioides. The fungi were isolated and cultured on PDA medium. Spore suspensions were sprayed onto Anthurium leaves of 10 cultivars with 3 replications. The results showed that the sprayed leaves show symptoms of the anthracnose which the wound was a dry brown lesion with yellow margins. The appearance of the wound will enlarge up. In week 4, Plewtien Phuket cultivar has the highest level of resistance to disease with 64.0 percent while Meringue cultivar has the lowest level at 22.0 percent. Chitinase and β-1,3-glucanase activities analysis comparison between the test group with the control group of the highest resistance cultivar found that the activity of the chitinase and β-glucanases were 0.064 and 0.047 µg/mg protein/hr, respectively. Suggests that the physiological changes of Anthurium after artificial inoculation were increased of the chitinase and beta-glucanases activities. Keywords: Enzyme, Resistance, Anthurium, anthracnose

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน กาฬสินธุ์

Address: กาฬสินธุ์

Email: patchararat.do@rmuti.ac.th

Role: ผู้ให้ทุน

Created: 2014

Modified: 2557-10-10

Issued: 2557-10-10

งานวิจัย/Research report

application/pdf

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตกาฬสินธุ์

tha

©copyrights มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล อีสาน

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	00 หน้าปก นอก ใน.pdf	492.35 KB	11	2018-06-03 15:17:33
2	01 บทคัดย่อ.pdf	77.04 KB	8	2019-11-30 07:26:42
3	02 กิตติกรรมประกาศ.pdf	40.05 KB	5	2018-06-03 15:17:35
4	03 สารบัญ.pdf	63.55 KB	5	2018-06-03 15:17:35
5	04 บทที่ 1 บทนำ.pdf	84.94 KB	6	2018-06-03 15:17:36
6	05 บทที่ 2 ทฤษฎีและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง.pdf	159.84 KB	7	2018-06-03 15:17:37
7	06 บทที่ 3 วิธีดำเนินการวิจัย.pdf	143.38 KB	6	2018-06-03 15:17:37
8	07 บทที่ 4 ผลการวิจัย.pdf	1.77 MB	6	2018-06-03 15:17:38
9	08 บทที่ 5 สรุปผลการวิจัยและข้อเสนอแนะ.pdf	67.03 KB	9	2018-06-03 15:17:39
10	09 บรรณานุกรม.pdf	83.9 KB	9	2018-06-03 15:17:39
11	10 ภาคผนวก.pdf	72.72 KB	5	2018-06-03 15:17:40
12	11 ประวัตินักวิจัย.pdf	96.38 KB	5	2018-06-03 15:17:41
13	สันปก.pdf	16.08 KB	5	2018-06-03 15:17:41

ใช้เวลา

0.053922 วินาที