ปัญหาเกี่ยวกับสิทธิของผู้เสียภาษีอากรในการดำเนินคดีภาษีอากรตามระบบศาลภาษีอากรในประเทศไทย

Legal problems in relation to taxpayers' legal proceeding right in tax court system of Thailand

Name: ภัทรวดี วงศ์ขำ

ThaSH: ภาษีอากร -- กฎหมายและระเบียบข้อบังคับ -- วิจัย

Classification :.DDC: 343.040269

ThaSH: ผู้เสียภาษี -- สิทธิของพลเมือง -- กฎหมายและระเบียบข้อบังคับ -- วิจัย

ThaSH: วิธีพิจารณาคดีภาษีอากร -- วิจัย

ThaSH: ศาลภาษีอากร

Abstract: สิทธิของผู้เสียภาษีอากรในการดำเนินคดีภาษีอากรของศาลภาษีอากรถือเป็นสิทธิ ในกระบวนการยุติธรรมที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยได้บัญญัติรับรองไว้ วิทยานิพนธ์ฉบับนี้จึงมุ่งที่จะศึกษาถึงการคุ้มครองสิทธิของผู้เสียภาษีอากรในการดำเนินคดีภาษีอากรในระบบศาลภาษีอากรในประเทศไทย โดยศึกษาจากแนวคิดและหลักกฎหมายเกี่ยวกับสิทธิของผู้เสียภาษีอากรในการดำเนินคดีภาษีอากรของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศที่ใช้กฎหมายระบบคอมมอนลอว์ ประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี และประเทศญี่ปุ่นซึ่งเป็นกลุ่มประเทศที่ใช้ระบบกฎหมายซีวิลลอว์ โดยนำผลทางการศึกษามาเปรียบเทียบกับการดำเนินคดีภาษีอากรในระบบ ศาลภาษีอากรในประเทศไทยตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร พ.ศ. 2528 และข้อกำหนดคดีภาษีอากร พ.ศ. 2544 จากการศึกษาวิเคราะห์พบว่า การดำเนินคดีในศาลภาษีอากรประสบปัญหาเกี่ยวกับสิทธิของผู้เสียภาษีอากรตามระบบวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร ในกรณีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น กรณีเงินค่าขึ้นศาลภาษีอากรของผู้เสียภาษีที่ขึ้นอยู่กับจำนวนทุนทรัพย์ในศาล เนื่องจากการเสียค่าขึ้นศาลภาษีอากรนั้นเป็นไปตามตารางท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ทำให้คดีภาษีอากรจะต้องเสียค่าขึ้นศาลเป็นจำนวนมาก กรณีการใช้ระบบกล่าวหาในการดำเนินกระบวนพิจารณา ทั้งนี้ เนื่องจากศาลภาษีอากรเป็นศาลชำนัญพิเศษในระบบของศาลยุติธรรม แต่คดีภาษีอากรเป็นคดีระหว่างหน่วยงานทางปกครองและประชาชน ทำให้เกิดความไม่เท่าเทียมกันในการดำเนินคดี ภาษีอากรในศาลภาษีอากร กรณีการดำเนินคดีมโนสาเร่ในศาลภาษีอากร ซึ่งในปัจจุบันตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากรยังไม่มีการดำเนินกระบวน พิจารณาในคดีมโนสาเร่ ทำให้คดีภาษีอากรบางประเภทที่ไม่มีความยุ่งยาก หรือมีจำนวนทุนทรัพย์น้อย ต้องใช้การพิจารณาอย่างคดีภาษีอากรทั่วไป ส่งผลให้เกิดความล่าช้าในการพิจารณาคดี และเกิดค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นโดยไม่จำเป็น กรณีระยะเวลาการทำคำวินิจฉัยของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ก่อนฟ้องคดีต่อศาลภาษีอากร เนื่องจากก่อนที่ผู้เสียภาษีอากรจะฟ้องคดีต่อศาลภาษีอากรได้ กฎหมายบัญญัติให้ผู้เสียภาษีอากรจะต้องดำเนินการอุทธรณ์ภายในต่อฝ่ายปกครองซึ่งตามประมวลรัษฎากร พระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2527 และพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 กำหนดให้ต้องอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ แต่หากคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ได้รับเรื่องแล้วแต่ไม่ได้ทำการวินิจฉัยภายในเวลาอันสมควร ผู้เสียภาษีอากรก็จะไม่สามารถ ฟ้องคดีต่อศาลภาษีอากรได้ และกรณีระยะเวลาการฟ้องคดีภายหลังคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์มีคำวินิจฉัยต่อศาลภาษีอากร ซึ่งประมวลรัษฎากร พระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2527 และพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 ได้กำหนดระยะเวลาการฟ้องคดีต่อศาลภาษีอากรเพียง 30 วัน ซึ่งเป็นระยะเวลาที่น้อยจนเกินไป เมื่อพิจารณาถึงคดีภาษีอากรที่มีความยุ่งยากซับซ้อน และมีเอกสารเป็นจำนวนมาก ดังนั้น การแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับสิทธิของผู้เสียภาษีอากรในการดำเนินคดีภาษีอากร ของศาลภาษีอากร จึงเสนอให้มีการกำหนดอัตราค่าขึ้นศาลในคดีภาษีอากรเป็นอัตราคงที่ โดยไม่ต้องคำนึงว่าคดีภาษีอากรนั้นจะมีจำนวนทุนทรัพย์เป็นจำนวนเท่าใดก็ตาม ควรมีการแก้ไขพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร พ.ศ. 2528 ในส่วนที่เกี่ยวกับการพิจารณาคดี โดยระบุให้ชัดเจนถึงการใช้ระบบไต่สวนในการพิจารณาพิพากษาคดี ควรมีการนำกระบวนพิจารณาคดีแบบมโนสาเร่มาใช้ในศาลภาษีอากร จะช่วยให้คดีภาษีอากรที่มีจำนวนทุนทรัพย์ไม่สูงมาก ศาลสามารถพิจารณาคดีได้อย่างรวดเร็ว ส่วนที่เกี่ยวกับการอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ว่า หากคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ไม่มีคำวินิจฉัยใดๆ ภายในกำหนด 90 วัน กฎหมายควรให้สิทธิผู้เสียภาษีอากรสามารถนำคดีไปฟ้องคดีต่อศาลภาษีอากรได้ทันที ควรมีการแก้ไขประมวลรัษฎากร พระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2527 และพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 ที่บัญญัติเกี่ยวกับกำหนดระยะเวลาการฟ้องคดีต่อศาลภาษีอากรให้มีระยะเวลาเพิ่มขึ้นเป็น 90 วัน ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้เสียภาษีอากรจะสามารถมีระยะเวลาการเตรียมตัวในการต่อสู้คดีที่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐมากขึ้น ทั้งนี้การแก้ไขบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าว จะทำให้สิทธิของผู้เสียภาษีอากรในการดำเนินคดีภาษีอากรตามระบบศาลภาษีอากรของประเทศไทยมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้

มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์. ศูนย์สนเทศและหอสมุด.

Address: กรุงเทพมหานคร

Email: library@dpu.ac.th

Name: พรชัย เลื่อนฉวี

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Modified: 2557-09-05

Created: 2556

Issued: 2557-07-02

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

CallNumber: วพ343.040269 ภ373ป

tha

DegreeName: นิติศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: กฎหมายมหาชน

Grantor: มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์

©copyrights มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	Cover.pdf	288.85 KB	70	2024-01-17 14:21:55
2	ABS.pdf	265.48 KB	54	2022-10-20 11:56:20
3	Chap_1.pdf	299.16 KB	48	2024-01-17 14:12:38
4	Chap_2.pdf	650.7 KB	54	2025-02-20 20:37:45
5	Chap_3.pdf	660.27 KB	48	2024-01-17 14:22:07
6	Chap_4.pdf	428.08 KB	51	2024-01-17 14:22:11
7	Chap_5.pdf	271.81 KB	45	2024-01-17 14:22:17
8	App-bip.pdf	304.64 KB	36	2024-01-17 14:22:22
9	Vita.pdf	235.52 KB	40	2020-09-08 22:19:51

ใช้เวลา

0.262671 วินาที