การบัญญัติความผิดต่อชีวิตและความผิดต่อร่างกาย : ศึกษากรณีความผิดฐานชุลมุนต่อสู้

Constituted an offense against the life and health : a case study of an offense affray

Name: ภาณุพงศ์ พิมพ์พิพัฒน์

ThaSH: ความผิดทางอาญา -- วิจัย

Classification :.DDC: 345.025

ThaSH: ความผืดต่อบุคคล -- วิจัย

ThaSH: การทำร้ายร่างกายผู้อื่น -- กฎหมายและระเบียบข้อบังคับ -- วิจัย

ThaSH: ความผิดฐานชุลมุนต่อสู้ -- การศึกษาเฉพาะกรณี

Abstract: กฎหมายอาญา เป็นกฎหมายที่มีวัตถุประสงค์ในการปกป้องคุ้มครองประชาชนและสังคม กฎหมายอาญาจึงมีการบัญญัติการกระทำที่เป็นความผิดและบทกำหนดโทษผู้กระทำเมื่อมีการฝ่าฝืน กฎหมายอาญาจึงเป็นกฎหมายที่มีผลกระทบต่อมนุษย์มาก เพราะหากมีผู้ใดกระทำความผิดแล้วผู้นั้นจะต้องรับโทษตามที่กฎหมายบัญญัติ ฉะนั้น การที่จะกำหนดว่าการกระทำใดเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และการกระทำที่ผิดกฎหมายนั้นสมควรที่จะต้องถูกลงโทษแค่ไหน เพียงใด จึงมีความสำคัญมากเป็นลำดับต้นๆ เพราะหากเริ่มต้นบัญญัติกฎหมายที่ผิดพลาดหรือไม่เหมาะสมแล้วก็อาจส่งผลต่อการบังคับใช้กฎหมายนั้นได้ บทบัญญัติความผิดฐานชุลมุนต่อสู้ได้บัญญัติอยู่ในประมวลกฎหมายอาญามาตรา 294 และมาตร 299 มีวัตถุประสงค์ในการคุ้มครองป้องกันภยันตรายต่อชีวิตหรือร่างกายมนุษย์ อันเป็นคุณธรรมทางกฎหมายที่สองมาตรานี้มุ่งคุ้มครอง หากมีผู้ใดถึงแก่ความตายหรือได้รับอันตรายสาหัส อันเนื่องมาจากการชุลมุนต่อสู้ ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่เข้าร่วมในการชุลมุนต่อสู้หรือไม่ก็ตาม ผู้ที่เข้าร่วมในการชุลมุนต่อสู้ทุกคนย่อมต้องมีความผิดฐานนี้ด้วยกันทุกคน ในมาตรา 294 และมาตรา 299 ทั้งสองมาตรา มีลักษณะการบัญญัติที่เหมือนกันคือการเข้าร่วมในการชุลมุนต่อสู้ แต่ต่างกันตรงที่ผลของของการเข้าร่วมชุลมุนต่อสู้แล้วเกิดมีการตายจะเป็นความผิดตามมาตรา 294 หากผลทำให้เกิดการได้รับอันตรายสาหัสก็จะเป็นความผิดตามมาตรา 299 และจุดที่เหมือนกันอีกประการคือบทยกเว้นความรับผิดซึ่งบัญญัติอยู่ในวรรคสองของทั้งสองมาตรา คือ หากผู้ที่เขาร่วมในการชุลมุนต่อสู้ได้กระทำไปเพื่อห้ามการชุลมุนต่อสู้ประการหนึ่ง หรือเป็นการกระทำเพื่อป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายอีกประการหนึ่ง ผู้กระทำไม่ต้องรับโทษ แต่เมื่อได้วิเคราะห์ถึงบทบัญญัติดังกล่าวแล้วจะพบว่า ผู้ที่เข้าไปห้ามการชุลมุนต่อสู้หรือได้กระทำการป้องกัน โดยชอบด้วยกฎหมายในการชุลมุนต่อสู้ บุคคลดังกล่าวก็ถือว่าได้เข้าร่วมในการชุลมุนต่อสู้และมีความผิดแล้ว เพียงแต่ถ้าผู้นั้นพิสูจน์ได้ว่าได้กระทำไปเพื่อห้ามการชุลมุนต่อสู้ หรือกระทำเพื่อป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายหมาย ผู้นั้นก็จะไม่ต้องรับโทษ แต่หากได้พิจารณาถึงเหตุยกเว้นโทษทั้งสองประการดังกล่าวนั้น จะเห็นได้ว่าทั้งสองกรณีจะต้องพิจารณาในเบื้องต้นก่อนว่าผู้นั้นมีเจตนา ที่จะเข้าร่วมในการชุลมุนต่อสู้ ไม่ว่าก่อนหรือหลังการห้ามการชุลมุนต่อสู้หรือการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ หากมีเจตนาในการเข้าร่วมชุลมุนต่อสู้แล้ว ผู้นั้นย่อมมีความผิดฐานชุลมุนต่อสู้และไม่อาจอ้างบทยกเว้นโทษเพื่อยกเว้นโทษสำหรับความผิดฐานชุลมุนต่อสู้ได้ แต่หากผู้นั้นได้กระทำการห้ามการชุลมุนต่อสู้โดยไม่มีเจตนาที่จะเข้าร่วมในการชุลมุนต่อสู้เลย การกระทำนี้ก็ไม่สมควรที่จะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และในกรณีการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย เมื่อผู้ทำการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายไม่มีเจตนาเข้าร่วมในการชุลมุนต่อสู้เลย ผู้นั้นย่อมไม่มีความผิดตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา

มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์. ศูนย์สนเทศและหอสมุด

Address: กรุงเทพมหานคร

Email: library@dpu.ac.th

Name: อุทัย อาทิเวช

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Modified: 2557-06-27

Created: 2555

Issued: 2556-11-11

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

CallNumber: วพ345.025 ภ432ก

tha

DegreeName: นิติศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: กฏหมายอาญาและกระบวนการยุติธรรมทางอาญา

Grantor: มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์

©copyrights มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	Cover.pdf	436.3 KB	22	2022-03-24 21:13:49
2	ABS.pdf	337.79 KB	19	2022-03-24 21:13:56
3	Chap_1.pdf	408.85 KB	25	2022-03-24 21:14:03
4	Chap_2.pdf	606.95 KB	23	2022-03-24 21:14:10
5	Chap_3.pdf	522.14 KB	16	2024-05-01 07:02:05
6	Chap_4.pdf	470.98 KB	17	2022-03-24 21:14:23
7	Chap_5.pdf	360.79 KB	15	2022-03-24 21:14:30
8	App-bip.pdf	406.86 KB	14	2022-03-24 21:14:37
9	App.pdf	397.35 KB	14	2022-03-24 21:14:44
10	Vita.pdf	320.02 KB	13	2022-03-24 21:14:51

ใช้เวลา

0.228327 วินาที