จริต ๖ กับความเข้าใจชีวิต : กรณีศึกษาศูนย์วิปัสสนายุวพุทธฯเฉลิมพระเกียรติ (ศูนย์ ๒) อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี

Name: นางสาวสันทยา ประภารัตน์

keyword: จังหวัดปทุมธานี

Abstract: บทคัดย่อ การวิจัยครั้งนี้เป็นงานวิจัยเชิงปริมาณมีวัตถุประสงค์ ๑) เพื่อศึกษาระดับพฤติกรรมจริต ๖ และระดับความเข้าใจชีวิต ของผู้ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ที่ศูนย์วิปัสสนายุวพุทธฯเฉลิมพระเกียรติ (ศูนย์๒) ปทุมธานี ๒) เพื่อศึกษาเปรียบเทียบปัจจัยส่วนบุคคลและจริต ๖ ต่อความเข้าใจชีวิต ของผู้ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ที่ศูนย์วิปัสสนายุวพุทธฯเฉลิมพระเกียรติ (ศูนย์๒) ปทุมธานี ๓) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างจริต ๖ กับความเข้าใจชีวิต ของผู้ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ที่ศูนย์วิปัสสนายุวพุทธฯเฉลิมพระเกียรติ (ศูนย์๒) ปทุมธานี จำนวน ๒๐๔ คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบสอบถาม (Questionnaire) สถิติที่ใช้ประกอบด้วย การแจกแจงความถี่ (Frequency Distribution) ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) การทดสอบความแตกต่างในระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับพฤติกรรมและการรู้คิดเกี่ยวกับสุขภาวะด้านต่างๆ ด้วยค่าที (t-test) การทดสอบค่าเอฟ (F-test) ตามด้วย One Way ANOVA และสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ ระดับจริต ๖ ของผู้ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานศูนย์วิปัสสนายุวพุทธฯเฉลิมพระเกียรติ (ศูนย์ ๒) ปทุมธานี พบว่า มีพุทธิจริตอยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมา คือสัทธาจริต ส่วนราคจริต โทสจริต และมีโมหจริต มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับน้อยส่วนวิตกจริตมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับน้อยที่สุด ตามลำดับ ระดับความเข้าใจชีวิต ของผู้ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานศูนย์วิปัสสนายุวพุทธฯเฉลิมพระเกียรติ (ศูนย์ ๒) ปทุมธานี พบว่า มีความเข้าใจชีวิตด้าน อนิจจังมากที่สุด รองลงมา ได้แก่ ความเข้าใจชีวิตด้านทุกขัง ส่วนความเข้าใจชีวิตด้านอนัตตา มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด ตามลำดับ สรุปผลการเปรียบเทียบปัจจัยพื้นฐานส่วนบุคคลและระดับความเข้าใจชีวิต พบว่า ปัจจัยพื้นฐานส่วนบุคคลแตกต่างกันมีลักษณะจริต ๖แตกต่างกัน ส่วนความเข้าใจชีวิตไม่ต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ สรุปผลการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างจริต ๖ ผู้ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานศูนย์วิปัสสนายุวพุทธฯเฉลิมพระเกียรติ (ศูนย์ ๒) ปทุมธานี กับความเข้าใจชีวิต พบว่า ผู้ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานศูนย์วิปัสสนายุวพุทธฯเฉลิมพระเกียรติ (ศูนย์ ๒) ปทุมธานี ที่มีลักษณะเป็นพุทธิจริต และสัทธาจริต มีความสัมพันธ์กับความเข้าใจชีวิต ในเชิงบวกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ส่วนที่มีลักษณะเป็นราคจริต โทสจริต โมหจริต และวิตกจริตมีความสัมพันธ์กับความเข้าใจชีวิต ในเชิงลบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ งานวิจัยทำให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่าง จริต ๖ และความเข้าใจชีวิต ซึ่งจะสามารถนำมาพัฒนาจริตให้รับรู้ตามสภาพความเป็นจริงโดยการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน อีกทั้งยังสามารถนำมาประยุกต์ใช้พัฒนาในการสอนวิปัสสนากรรมฐานได้

Abstract: Abstract ThiThis is a quantitative research and the purposes of the research are threefold: (1) to study the level of Carita (Character) and level of understanding in lives of Vipassana (Insight meditation) practitioners from Young Buddhists Associations of Thailand, Center 02, (2) to study the comparison of personal basic factors and Carita toward the understanding in lives of Vipassana practitioners from Young Buddhists Associations of Thailand, Center 02, and (3) to study the correlation of Carita and the understanding in lives of 204 Vipassana practitioners from Young Buddhists Associations of Thailand, Center 02. The tool used in this research was questionnaire and the data obtained was analyzed by frequency distribution, percentage, mean and S.D. The test of differ between level of opinion in behavior and meta-cognition were also analyzed by t-test, F-test, One Way ANOVA and Pearson’s Correlation Coefficient. The results show as follows: Buddhi-carita was found to be the highest level among the Vipassana practitioners from Young Buddhists Associations of Thailand, Center 02. Saddha-carita was in the second. As for Raga-carita, Dosa-carita and Moha carita, the mean was at low level and the last one was Vitakka-carita. Furthermore, the level of understanding in lives of Vipassana practitioners from Young Buddhists Associations of Thailand, Center 02 was found that they understand Aniccata the most. Dukkhata was followed in second and Anattata was ranked as the latest. As for the comparison of personal basic factors and Carita toward the understanding in lives, it was found that different personal basic factors effected the different in Carita. However, the understanding in lives was not different with statistical significance. The correlation of Carita and the understanding in lives of Vipassana practitioners from Young Buddhists Associations of Thailand, Center 02 was found that those who characterized Buddhi-carita and Saddha-carita had positive state in the correlation of the understanding in lives with statistical significance whereas those who characterized Raga-carita, Dosa-carita, Moha-carita and Vitakka-carita had negative states in the correlation of the understand in lives with statistical significance. The research showed the coherence between Carita and the understanding in lives which can be applied to develop the Carita by practicing Vipassana and also the teaching of Vipassana.

Mahachulalongkornrajavidyalaya University

Address: BANGKOK

Email: library@mcu.ac.th

Name: พระเอกภัทร อภิฉนฺโท,ผศ.ดร. พธ.บ(การสอนสังคม), พธ.บ(ภาษาอังกฤษ), M.A.( Clinical Psy), Ph.D.(Psy.).

Name: ผศ.ดร. สิริวัฒน์ ศรีเครือดง, พธ.บ., M.A., Ph.D. (Psy.).

Name: ผศ.ดร.ประยูร สุยะใจ, ป.ธ.๓, พธ.บ., B.J., กศ.ม., M.A., Ph.D.

Issued: 2556-10-03

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

tha

©copyrights มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

ใช้เวลา

0.017353 วินาที