การพัฒนาคอนกรีตบล็อกที่ทำจากวัสดุเหลือทิ้งโดยไม่มีปูนซีเมนต์

Development of Concrete Block Made from Waste Materials without Portland Cement

Name: ชัยวุฒิ บำรุงศรี

Name: Chaiwut Bumrungsri

keyword: กากแคลเซียมคาร์ไบด์

Abstract: งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาคอนกรีตบล็อก ซึ่งใช้ส่วนผสมของกากแคลเซียมคาร์ไบด์ผสมเถ้า ถ่านหิน (CR-FM) และกากแคลเซียมคาร์ไบด์ผสมเถ้าชานอ้อย (CR-BA) เป็นวัสดุประสานโดยไม่มี ปูนซีเมนต์ในส่วนผสม อัตราส่วนผสมระหว่างกากแคลเซียมคาร์ไบด์ผสมเถ้าถ่านหินที่ใช้เท่ากับ 30:70 โดยน้ำหนัก อัตราส่วนผสมระหว่างกากแคลเซียมคาร์ไบด์ต่อเถ้าชานอ้อยเท่ากับ 50:50 โดยน้ำหนัก และใช้มวลรวมที่ได้จากการย่อยเศษคอนกรีตเป็นมวลรวมแทนทรายและหินฝุ่น ใช้อัตราส่วนวัสดุ ประสานต่อมวลรวมเท่ากับ 1:3 โดยน้ำหนัก ส่วนผสมของคอนกรีตบล็อกแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม กลุ่ม แรกคือคอนกรีตบล็อกที่ใช้กากแคลเซียมคาร์ไบด์ไม่บดผสมเถ้าถ่านหินไม่บดเป็นวัสดุประสาน และ ใช้ค่าอัตราส่วนน้ำต่อวัสดุประสานเท่ากับ 0.45 0.40 และ 0.35 โดยใช้แรงดันในการขึ้นรูปตัวอย่าง เท่ากับ 60 กก/ซม ยกกำลัง 2 กลุ่มที่สองคือกรีตบล็อกที่ใช้กากแคลเซียมคาร์ไบด์ผสมเถ้าหินบดร่วมกัน เป็นวัสดุประสาน และใช้ค่าอัตราส่วนน้ำต่อวัสดุประสานเท่ากับ 0.40 0.35 และ 0.30 โดยใช้แรงดัน ในการขึ้นรูปตัวอย่างเท่ากับ 60 กก/ซม ยกกำลัง 2 กลุ่มที่สามคือคอนกรีตบล็อกที่ใช้กากแคลเซียมคาร์ไบด์ผสม เถ้าถ่านหินบดร่วมกันเป็นวัสดุประสาน และใช้ค่าอัตราส่วนน้ำต่อวัสดุประสานเท่ากับ 0.40 0.35 และ 0.30 โดยใช้แรงดันในการขึ้นรูปตัวอย่างเท่ากับ 80 กก/ซม ยกกำลัง 2 และกลุ่มสุดท้ายคือคอนกรีตบล็อกที่ใช้ กากแคลเซียมคาร์ไบด์ผสมเถ้าชานอ้อยบดร่วมกันเป็นวัสดุประสาน และใช้ค่าอัตราส่วนน้ำต่อวัสดุ ประสานเท่ากับ 0.50 0.45 และ 0.40 โดยใช้แรงดันในการขึ้นรูปตัวอย่างเท่ากับ 60 กก/ซม ยกกำลัง 2 คอนกรีต บล็อกที่ใช้ในงานวิจัยนี้มีขนาดหน้าตัดเท่ากับ 10x10 ซม ยกกำลัง 2 ยาว 20 ซม เพื่อศึกษาผลกระทบของปริมาณ น้ำต่อวัสดุประสาน ความดันที่ใช้ขึ้นรูป และความละเอียดของวัสดุประสานต่อกำลังอัด กำลังดัด ความต้านทานการขัดสี และการดูดกลืนน้ำของคอนกรีตบล็อก ผลการทดสอบพบว่าคอนกรีตบล็อกที่ทำจากกากแคลเซียมคาร์ไบด์ผสมเถ้าถ่านหินบดร่วมกันเป็น วัสดุประสานและใช้มวลรวมที่ได้จากการย่อยเศษคอนกรีตเป็นมวลรวม มีกำลังอัดเท่ากับ 414 กก/วม ยกกำลัง 2 ที่อายุ 28 วัน และพัฒนาค่ากำลังอัดได้สูงถึง 453 กก/ซม ยกกำลัง 2 ที่อายุ 60 วัน สามารถจัดเป็นคอนกรีตบล็อก ปูพื้นตาม มอก. 827-2531 ได้ สำหรับคอมกรีตบล็อกที่ทำจากกากแคลเซียมคาร์ไบด์ผสมเถ้าชานอ้อย บดร่วมกันเป็นวัสดุประสานและใช้มวลรวมที่ได้จากการย่อยเศษคอนกรีต มีค่ากำลังอัดเท่ากับ 274 และ 306 กก/ซม ยกำลัง 2 ที่อายุ 28 และ 60 วัน ตามลำดับ สามารถจัดเป็นอิฐคอนกรีตรับกำลังอัดตาม มอก. 59-2516 ได้ สำหรับการดูดกลืนน้ำ พบว่าค่าการดูดกลืนน้ำของคอนกรีตบล็อกที่ใช้ส่วนผสมของกาก แคลเซียมคาร์ไบด์ผสมเถ้าถ่านหิน และกากแคลเซียมคาร์ไบด์ผสมเถ้าชานอ้อยเป็นวัสดุประสาน โดย ใช้มวลรวมที่ได้จากการย่อยเศษคอนกรีตมีค่าอยู่ในช่วงร้อยละ 7 ถึง 13 และแปรผกผันกับค่าความ หนาแน่น ผลการทดสอบค่ากำลังรับแรงดัด พบว่าคอนกรีตบล็อกที่ใช้ส่วนผสมของกากแคลเซียมคาร์ไบด์ผสม เถ้าถ่านหิน และกากแคลเซียมคาร์ไบด์ผสมเถ้าชานอ้อยเป็นวัสดุประสาน โดยใช้มวลรวมที่ได้จากการ ย่อยเศษคอนกรีต มีค่ากำลังรับแรงดัดเพิ่มขึ้นตามค่ากำลังอัดและอายุของการบ่ม โดยมีค่าอยู่ในช่วง ร้อยละ 11 ถึง 20 ของกำลังอัด ในขณะที่ค่าการสูญเสียน้ำหนักเนื่องจากการขัดสีมีค่าลดลงเมื่อกำลังอัด มีค่าเพิ่มขึ้น โดยมีค่าการสูญเสียน้ำหนักเนื่องจากการขัดสีเท่ากับ 1.75 ถึง 10.90 กรัม เมื่อใช้ระยะเวลา ในการขัดนาน12 นาที ผลการสอบชี้ให้เห็นว่าวัสดุเหลือทิ้ง ได้แก่ กากแคลเซียมคาร์ไบด์ เถ้าถ่านหินและมวลรวมที่ได้จาก การย่อยเศษคอนกรีค สามารถใช้เป็นวัตถุดิบในการทำคอนกรีตบล็อกโดยที่ไม่มีปูนซีเมนต์ใน ส่วนผสม และมีค่ากำลังอัดเป็นไปตาม มอก.827 กำหนดคือ ไม่ต่ำกว่า 400 กก/ซม ยกกำลัง 2

Abstract: This study is aimed to develop concrete blocks made from using the mixtures of calcium carbide residue-fly ash (CR-FM) and calcium carbide residue-bagasse ash (CR-BA) as a binder without Portland cement. The ratio of calcium carbide residue (CR) to fly ash (FM) and calcium carbide residue to bagasse ash (BA) were 30:70 and 5050 by weight, respectively. Fine recycled concrete aggregate was also used to 100% replace river sand and crushed limestone dust. The binder to aggregate ratio was kept constant at 1:3 by weight. In this research, all concrete blocks were divided into four groups. The first group was the concrete blocks made from using original calcium carbide residue-fly ash as a binder with the water to binder ratios of 0.45, 0.40, and 0.35, and the concrete block mixtures were cast by using a pressure of 60 kg/cm the powerof 2. The second group was the concrete blocks made from using ground calcium carbide residue-fly ash as a binder with the water to binder ratios of 0.40, 0.35, and 0.30, and the concrete block mixtures were cast by using a pressure of 60 kg/cm the powerof 2 The third group was the concrete blocks made from using ground calcium carbide residuefly ash as a binder with the water to binder ratios of 0.40, 0.35, and 0.30, and the concrete block mixtures were cast by using a pressure of 80 kg/cm the power of 2. The fourth group was the concrete blocks made from using ground calcium carbide residue-bagasse ash as a binder with the water to binder ratios of 0.50, 0.45, and 0.40, and the concrete block mixtures were cast by using a pressure of 60 kg/cm the power of 2. The concrete block specimens having a cross-section of 10x10 cmthe power of 2 and a length of 20 cm were used in this study. The effects of water to binder ratios, compaction pressures, and fineness of binder on the compressive strength, flexural strength, abrasion resistance, and water absorption of concrete blocks were investigated. The results showed that the compressive strength of concrete blocks made from ground calcium carbide residue-fly ash was 414 kg/cm the power of2 at 28 days and developed as high as 453 kg/cm the power of 2 at 60 days. According to the Thailand Industrial Standard (TIS 827), it could be categorized as a paving concrete block. The concrete blocks made from the mixture of ground calcium carbide residuebagasse ash gave the compressive strengths of 274 and 306 kg/cmthe power of 2 at 28 and 60 days, respectively. Consequently, it could be categorized as a bearing block according to the Thailand Industrial Standard (TIS 59). The water absorption of the concrete blocks made from both calcium carbide residue-fly ash (CR-FM) and calcium carbide residue-bagasse ash (CR-BA) and containing fine recycled concrete aggregate decreased with the increase of density, which were approximately 7 to 13% by weight. The results showed that flexural strength of the concrete blocks made from both calcium carbide residue-fly ash (CR-FM) and calcium carbide residue-bagasse ash (CR-BA) with recycled fine concrete aggregate increased with the increase of compressive strength and curing age. The flexural strength of concrete blocks was about 11 to 20% of its compressive strength. Finally, the weight loss of concrete blocks due to abrasion decreased with the increase of compressive strength, and was about 1.75 to 10.90 grams at abrasion time of 12 minutes. The results also suggested that the waste materials such as calcium carbide residue, fly ash, and fine recycled concrete aggregate could be used as raw materials to make concrete blocks without Portland cement and the properties of concrete block met the requirement specified by TIS 827 standard, which states that the compressive strength of the block be higher than 400 kg/cm the power of 2.

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี. สำนักหอสมุด

Address: กรุงเทพมหานคร

Email: info.lib@mail.kmutt.ac.th

Name: วีรชาติ ตั้งจิรภัทร

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Created: 2554

Modified: 2555-10-31

Issued: 2555-10-31

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

CallNumber: CVE3126

tha

DegreeName: วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: วิศวกรรมโยธา

Grantor: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

©copyrights มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	CVE3126.pdf	2.21 MB	129	2023-04-02 11:58:47
2	CVE3126ab.pdf	110.07 KB	62	2023-01-28 14:26:06

ใช้เวลา

0.035236 วินาที