แจ้งเอกสารไม่ครบถ้วน, ไม่ตรงกับชื่อเรื่อง หรือมีข้อผิดพลาดเกี่ยวกับเอกสาร ติดต่อที่นี่ ==>
หากไม่มีอีเมลผู้รับให้กรอก thailis-noc@uni.net.th
หากไม่มีอีเมลผู้รับให้กรอก thailis-noc@uni.net.th
วรจักร ใจแกล้ว. การศึกษาสภาพการบริหารแหล่งเรียนรู้ของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตราด. ปริญญาโท(การบริหารการศึกษา). มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี. สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ. : มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี, 2554.
การศึกษาสภาพการบริหารแหล่งเรียนรู้ของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตราด
A Study of learning resource administration in schools under the Office of Trat Elementary Educational Service Area
Name: วรจักร ใจแกล้ว
ThaSH:
การปฏิรูปการเรียนรู้
-- วิจัย
Classification :.DDC: 372.1
ThaSH:
การศึกษาขั้นประถมศึกษา
-- วิจัย
Abstract:
การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบสภาพการบริหารแหล่งเรียนรู้
ของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตราด จำแนกตามสถานภาพและ
ขนาดสถานศึกษา กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอนในสังกัด
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตราด จำนวน 291 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่
แบบสอบถามสภาพการบริหารแหล่งเรียนรู้ของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ประถมศึกษาตราด เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.92 สถิติที่ใช้
ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย (X ) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการทดสอบ
ค่าที (t-test)
ผลการวิจัยพบว่า 1) สภาพการบริหารแหล่งเรียนรู้ของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่
การศึกษาประถมศึกษาตราด ในภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า
อยู่ในระดับมากและปานกลาง โดยเรียงค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย คือ การวางแผนการบริหาร
แหล่งเรียนรู้ การดำเนินการใช้แหล่งเรียนรู้ การตรวจสอบ ติดตามการใช้แหล่งเรียนรู้ และการประเมินผล
การนำแหล่งเรียนรู้ไปใช้ 2) การเปรียบเทียบสภาพการบริหารแหล่งเรียนรู้ของสถานศึกษา สังกัด
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตราด จำแนกตามสถานภาพ โดยรวมแตกต่างกันอย่าง
ไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ทุกด้านแตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ
ยกเว้นการวางแผนการบริหารแหล่งเรียนรู้ แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
และเมื่อจำแนกตามขนาดสถานศึกษา โดยรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ทุกด้านแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ยกเว้น
การตรวจสอบ ติดตามการใช้แหล่งเรียนรู้
Abstract:
The purposes of this research were to study and compare the learning resource administration
in schools under the Office of Trat Elementary Educational Service Area; classified by status and
size of school. The samples used in this research were 291 administrators and teachers under the
Office of Trat Educational Service Area. The tool used in this research was a 5-rating scale
questionnaire asking learning resource administration in schools under the Office of Trat
Elementary Educational Service Area. The reliability of the tool was 0.92. The statistics used for
data analysis were percentage (%), mean (X ), standard deviation (S.D.) and t-test
The results of the study were revealed. 1) Learning resource administration in schools
under the Office of Trat Elementary Educational Service Area for the overall aspects was at the
middle level. For the individual aspects, it was found that they were at the high level and the
middle level. The mean scores of individual aspects from high to low were as follows; planning
of learning resource administration, the use of learning resource and monitoring the use of
learning resource and evaluation of learning resources to implementation aspects, respectively.
2) The results of comparison on learning resource administration in schools under the Office of
Trat Elementary Educational Service Area; classified by status for the overall and the individual
aspects did not show statistically significant difference. For the individual aspects it was found
that all aspects did not show statistically significant difference, except for planning of learning
resource administration showed statistically significant difference at 0.05 level, classified by size
of school for the overall showed statistically significant difference at 0.05 level. For the individual
aspects it was found that all aspects showed statistically significant difference at 0.05 level,
except for monitoring the use of learning resource and evaluation of learning resources to
implementation.
มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี. สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ
Address:
จันทบุรี
Email:
library@rbru.ac.th
Name: เกษิณี ผลประพฤติ
Role:
ประธานที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์
Name: อำนวย บุญศรี
Role:
กรรมการที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์
Created:
2554
Modified:
2555-06-16
Issued:
2555-06-16
วิทยานิพนธ์/Thesis
application/pdf
tha
DegreeName: ครุศาสตรมหาบัณฑิต
Level: ปริญญาโท
Descipline: การบริหารการศึกษา
Grantor: มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี
©copyrights มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี
RightsAccess:
ใช้เวลา
0.049226 วินาที
วรจักร ใจแกล้ว
| Title | Contributor | Type |
|---|---|---|
| การศึกษาสภาพการบริหารแหล่งเรียนรู้ของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตราด
มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี วรจักร ใจแกล้ว | เกษิณี ผลประพฤติ อำนวย บุญศรี | วิทยานิพนธ์/Thesis |
เกษิณี ผลประพฤติ
อำนวย บุญศรี
| Title | Creator | Type and Date Create |
|---|---|---|
| การศึกษาพฤติกรรมการบริหารตามระบบบริหารกิจการบ้านเมืองและสังคมที่ดีของผู้บริหารสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตราด
มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี เกษิณี ผลประพฤติ;อำนวย บุญศรี | สมใจ สุภัคพงศ์ | วิทยานิพนธ์/Thesis |
| การศึกษาสภาพการบริหารแหล่งเรียนรู้ของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตราด
มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี เกษิณี ผลประพฤติ;อำนวย บุญศรี | วรจักร ใจแกล้ว | วิทยานิพนธ์/Thesis |
| ปัจจัยที่ส่งผลต่อความพึงพอใจในการปฏิบัติงานของครูผู้รับผิดชอบระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจันทบุรี
มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี พรสวัสดิ์ ศิรศาตนันท์;อำนวย บุญศรี | อำนาจ ชยางคานนท์ | วิทยานิพนธ์/Thesis |
| ศึกษาสภาพการทำงานเป็นทีมที่มีประสิทธิภาพตามความคิดเห็นของผู้บริหารและครูในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จังหวัดระยอง
มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี เฉลา ประเสริฐสังข์;อำนวย บุญศรี | ธีระ ไชยสิทธิ์ | วิทยานิพนธ์/Thesis |