การประเมินผลหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต พ.ศ.2545

CURRICULUM EVALUATION BACHELOR OF NURSING SCIENCE, 2545 PRABOROMARAJCHANOK INSTITUE

Name: อุษณีย์ เทพวรชัย

Name: นิชดา สารถวัลย์แพศย์

Name: ศรีวรรณ มีบุญ

Address: วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี จังหวัดนนทบุรี

Organization : วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี จังหวัดนนทบุรี

keyword: พยาบาลศาสตร์ หลักสูตร

Abstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพการเตรียมความพร้อมในวิทยาลัยพยาบาล ก่อนนำหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต พ.ศ.2545 ไปใช้ในปีการศึกษา 2546 เพื่อศึกษาความคิดเห็นเกี่ยวกับ ความรู้ความสามารถที่ผู้สำเร็จการศึกษาได้รับตามวัตถุประสงค์ตามหลักสูตร ศึกษาความสอดคล้องของรายวิชากับวัตถุประสงค์หลักสูตร ศึกษาความคิดเห็นเกี่ยวกับโครงสร้างของหลักสูตร การจัดการเรียนการสอน และการวัดประเมินผลตามสภาพการณ์จริง ศึกษาปัจจัยสนับสนุนการเรียนการสอนตามการรับรู้ของผู้สำเร็จการศึกษา และอาจารย์ผู้สอน ศึกษาคุณลักษณะของบัณฑิตที่พึงประสงค์ ตามการรับรู้ของผู้สำเร็จการศึกษา อาจารย์ผู้สอน และผู้บังคับบัญชาของผู้สำเร็จการศึกษา ศึกษาความสามารถในการทำงานตามการรับรู้ของผู้บังคับบัญชา ของผู้สำเร็จการศึกษา และผู้สำเร็จการศึกษา ทั้งในช่วงเวลาเมื่อสำเร็จใหม่ และภายหลักปฏิบัติงานแล้วประมาณ 1 ปี และศึกษาผลสัมฤทธิ์ในการสอบสภาเพื่อขึ้นทะเบียนขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพของผู้สำเร็จการศึกษาทุกคน จากวิทยาลัยพยาบาล 29 แห่ง ในสังกัดสถาบันพระบรมราชชนก ประชากรคือ ผู้สำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัยพยาบาลทุกแห่ง ในสังกัดพระบรมราชชนก ที่สำเร็จการศึกษาในปีการศึกษา 2549 จำนวน 1521 คน ซึ่งเข้าสอบเพื่อขึ้นทะเบียนขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพจากสภาการพยาบาล ในพ.ศ. 2550 ตัวอย่างประชากรมี 3 กลุ่ม กลุ่มที่ 1 คือ ผู้สำเร็จการศึกษาในปีการศึกษา 2549 จากวิทยาลัยพยาบาล 10 แห่ง ที่สุ่มจากทุกเครื่อข่าย เครือข่ายละ 2 วิทยาลัย ด้วยวิธีการสุ่มแบบง่าย (Simple random sampling) มีจำนวน 534 คน กลุ่มที่ 2 เป็นอาจารย์พยาบาลที่สอนประจำอย่ในวิทยาลัยพยาบาลทั้ง 10 แ ห่งนั้น จำนวน 179 คน และกลุ่มที่ 3 เป็นผู้บังคับบัญชาของผุ้สำเร็จการศึกษา จำนวน 390 คน เครื่องมือวิจัยเป็นแบบสอบถามจำนวน 4 ชุด ที่ผ่านการตรวจสอบประสิทธิภาพโดยผุ้ทรงคุณวุฒิ และหาค่าความเชื่อมั่นเรียบร้อยแล้ว การเก็บข้อมูลจากผุ้สำเร็จการศึกษา ดำเนินการ 2 ครั้ง ครั้งแรกเก็บเมื่อสำเร็จการศึกษาใหม่ๆ ครั้งที่ 2 เก็บภายหลังเมื่อผู้สำเร็จการศึกษาปฏิบัติงานแล้วเป็นเวลา 1 ปี ระยะเวลาในการวิจัย ตั้งแต่เดือนเมษายน 2550 ถึงเดือนเมษายน 2551 วิเคราะห็ข้อมูลด้วยการหาค่าร้อยละ เปรียบเทียบความแตกต่างของค่าเฉลี่ย ของข้อมูล 2 ชุดด้วย t-test และ 3 ชุดด้วย F-test และหาความสัมพันธ์ของข้อมูลด้วยการหาค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน ผลการวิจัยพบว่า 1. วิชาในหมวดวิชาชีพพยาบาลทั้งหมด 29 วิชา สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของหลักสูตร ครอบคลุมทุกข้อ 2. ก่อนนำหลักสูตรไปใช้ มีการเตรียมความพร้อมบุคลากร และอาจารย์ กิจกรรมที่ทำมากที่สุด คือ การทำความเข้าใจกับเอกสารหลักสูตร คู่มือการใช้หลักสุตรและประมวลรายวิชา รวมถึงการปรับบทบาทอาจารย์ผู้สอน และการทำความเข้าใจวิธีการเรียนรู้ และวิธีการสอนด้วย 3. ผู้สำเร็จการศึกษาจากหลักสูตรนี้เห็นว่า ได้รับความรู้ความสามารถ ตรงตามวัตถุประสงค์ในระดับมาก (x = 4.36) 4. อาจารย์ และผู้สำเร็จการศึกษาเห็นว่า โครงสร้างหลักสูตรมีความเหมาะสมมาก (x=4.14 และ 4.01 ตามลำดับ) 5. อาจารย์และผู้สำเร็จการศึกษาเห็นว่าวิธีการจัดการเรียนการสอน และการประเมินตามสภาพการณ์จริง มีความเหมาะสมมาก (x=4.32 และ 4.40 ตามลำดับ) 6. อาจารย์และผู้สำเร็จการศึกษาเห็นว่าปัจจัยสนับสนุนการเรียนการสอน ที่ทางวิทยาลัยจัดไว้มีความเหมาะสมมาก (x=3.87 และ 3.53 ตามลำดับ 7. ผู้สำเร็จการศึกษาอาจารย์ และผู้บังคับบัญชา เห็นว่าผู้ที่สำเร็จจากวิทยาลัยพยาบาลสังกัดสถาบันพระบรมราชชนก มีคุณ ลักษณะบัณฑิตที่พึงประสงค์ตามเกณฑ์ในระดับมาก (x=4.32, 3.84 และ 3.85 ตามลำดับ) 8. ผู้สำเร็จการศึกษามีความคิดเห็นว่าเมื่อสำเร็จการศึกษาใหม่ๆ มีความสามารถทางการพยาบาลในระดับมาก (x=4.31) แต่ภายหลังการปฏิบัติงานประมาณ 1 ปี มีความสามารถทางการพยาบาลในระดับปานกลาง (x=3.35) และผู้บังคับบัญชาของผู้สำเร็จการศึกษามองว่า ผู้สำเร็จการศึกษามีความสามารถทางการพยาบาลในระดับปานกลาง (x=3.05) เช่นกัน 9. ใน พ.ศ. 2550 ผู้สำเร็จการศึกษาที่สำเร็จจากวิทยาลัยพยาบาล 29 แห่ง สังกัดสถาบันพระบรมราชชนก จำนวน 1521 คน สามารถสอบผ่านการสอบของสภาการพยาบาลแยกตามรายวิชา คือ วิชาการพยาบาลมารดาและทารก วิชาการพยาบาลเด็กและวัยรุ่น วิชาการพยาบาลผู้ใหญ่ วิชาการพยาบาลผู้สูงอายุ วิชาสุขภาพจิตและการพยาบาลจิตเวช วิชาการพยาบาลอนามัยชุมชนและการรักษาพยาบาลเบื่องต้น และวิชากฎหมายและจรรยาบรรณวิชาชีพ ในจำนวนร้อยละ 94.54, 94.41, 90.60, 99.08, 86.59, 99.61 และ 98.75 ตามลำดับ วิชาที่ผุ้สำเร็จการศึกษาสอบผ่านจำนวนน้อยที่สุด คือ วิชาการพยาบาลผดุงครรภ์ ในจำนวนร้อยละ 78.24 แต่เมื่อพิจารณาผู้สอบผ่านทั้ง 8 วิชา มีจำนวนร้อยละ 60.75 10. คะแนนเฉลี่ยสะสมเมื่อสำเร็จการศึกษา (GPA) ของผู้สำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัยพยาบาล 29 แห่งสังกัดสถาบันพระบรมราชชนก มีความสำพันธ์กับจำนวนวิชาที่สอบผ่านอยู่ในระดับปานกลาง (r=.370)

Abstract: The purposes of this study were to investigate 1) the preparation of colleges before implementing Bachelor of Nursing Science Curriculum, 2545 B.C., Praboromarajchanok Institute, 2) new graduates' attitudes towards knowledge and competency, 3) the congruence between courses and curriculum objectives, 4) attitudes towards curriculum structure, 5) teaching activities and evaluation of learning outcomes, 6) supporting factors of learning and teaching as perceived by new graduates and instructors, 7) characteristics of ideal graduate as perceived by new graduates, instructors, and supervisors of new graduates, 8) competency of new graduates as perceived by their supervisors and new graduates after graduation and 1 year after graduation, and 9) graduates' achievement of the national examination of knowledge for the registration and receipt of a license to be a practitioner of the nursing and midwifery profession. The populations of this study were graduates, instructors, and graduates' supervisors. There were 1,521 graduates in academic year 2549 from 29 colleges of Praboromarajachanok Institute. The graduate samples were from 2 colleges which were randomly selected from each 5 college networks. There were 534 graduates from 10 colleges. There were 179 instructors from the same 10 colleges. and there were 390 graduates' supervisors participationg in this study. The instruments included 4 questionnaires validated by experst and analyzed reliability. Data were collected twice : afer graduation (April 2550) and 1 year after graduation (April 2551). Data analyses included percent, comparison of means between 2 groups using t-test and among 3 groups using F-test, and Pearson Correlation Coefficient. The results were as follow : 1. All 29 subjects of nursing course were congruence with all objectives of the curriculum. 2. There was the preparation of instructors and personals before implementing the curriculum. Most frequent activities were clarification curriculum document, instruction for curriculum implementation, and course design as well as adjustment of instructors' role. The understanding of learning and teaching strategies was one of the most frequent activities as well. 3. The graduates perceived that they have learned knowledge and competence, which were congruent with curriculum objectives at high levle (X=4.36) 4. The instructors and graduates perceived that curriculum structure was very apporopriate (X=4.14 and 4.01, reapectively). 5. The instructors and graduates perceived that teaching activities and evaluation of learning outcomes were very appropriate (X=4.32 and 4.40, respectively). 6. The instructors and graduates perceived that supporting factors of learning and teaching were very appropriate (X=3.87 and 3.53, repectively). 7. The graduates, instructors, and graduates' supervisors perceived the graduates educated from nursing colleges of Praboromarajachanlk Institute had the characteristics of ideal graduate at high level (X = 4.32, 3.84, and 3.85 respectively). 8. The graduates perceived that they had nursing competency at high level after graduation (X=4.31). However, they perceived the they had nursing competency at moderate level after 1 year of graduation (X=3.35). The graduates' supervisors also perceived the the graduates had nursing competency at moderate level (X=3.05). 9. In 2550, the percentages of 1,521 graduates from 29 nursing colleges of Praboromarajachanok Institute passed the national examination of knowledge divided by subjects : maternal and child nursing, chid and adolescent nursing, adult nursing, elderly nursing, mental health and psychiatric nursing, community health nursing, and nursing law and ethics were 94.54, 94.41, 90.60, 99.08, 86.59, 99.61, and 98.75, respectively. The subject the the graduates passed in a small percentage was midwifery, 78.24 percent. There was 60.75 percent of graduates who passed all 8 subjects in the first examination. 10. The grade point average (GPA) of the graduates significantly correlated with the number of passed subjects (r=.370, p<.05).

วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี จังหวัดนนทบุรี

Address: NONTHABURI

Name: สถาบันพระบรมราชชนก

Role: ผู้ให้ทุน

Created: 2551

Modified: 2552-02-12

Issued: 2552-01-22

งานวิจัย/Research report

application/pdf

ISBN: 9789740647744

tha

©copyrights วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี จังหวัดนนทบุรี

ใช้เวลา

0.017541 วินาที