Factors associated with sexual relationship among high school female students in Nakhonratchasima province

ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการมีเพศสัมพันธ์ของนักเรียนวัยรุ่นหญิงชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายจังหวัดนครราชสีมา

Name: Sineenart Sanrung

LCSH: Sexual Behavior -- Nakhonratchasima

LCSH: Teenage girls -- Thailand -- Sexual behavior

Abstract: Nowadays in Thai society, female adolescents tend to express their sexuality rather freely, especially in premarital sexual relationships. More female adolescents cohabit than in the past, and this has brought about problems caused by sexual relationships. More problems have occurred from sexual activities i.e. unplanned pregnancy and sexually transmitted infections. This cross-sectional study had the objective of studying factors associated with sexual relationships among adolescents. Three hundred and two high school female students in Nakhonratchasima Province were recruited. Self-administered questionnaires were used to collect data from these students between the 15th of June and 31st of July, 2009. The statistical analyses included descriptive statistics, Chi-square test, Pearson’s correlation coefficient and Stepwise Multiple Regression Analysis. The results showed that 56.6% of adolescents have had a sexual relationship. The mean age of first sexual relationship was 15.3 years old. Partners of first sexual relationships were their lovers (73.1%) and boyfriends (15.8%). The main reason for having their sexual relationship was love (67.8%). Significant factors associated with sexual relationships were a source of sexual information from a lover, fashionable dress, being a youngest child, sexual knowledge, monthly allowance, sexual behavior of close friends and using the internet as a source of information and chatting. Sixteen point six percent of adolescents have had coitus. The mean age of first coitus was 15.8 years old. Partners for first coitus were their lover (98.0%). The main reasons were for love (52.0%) and to try for themselves (40.0%). Significant factors associated with coitus were the sexual behavior of close friends, attitude towards sex, sexual knowledge, level of self-confidence, sexy dressing outside the home and older age. In conclusion, the findings of this study suggest that it is rather difficult to prevent sexual relationships among adolescents, which are a result of socio-economic and educational problems. Therefore, to prevent sexual relationships among adolescents there should be collaboration between family, schools, government and non-government organizations to prevent sexual relationships among adolescents and protect them from the adverse consequences of a sexual relationship, which are pregnancy and sexually transmitted infections

Abstract: ปัจจุบันในสังคมไทย สตรีวัยรุ่นมีการแสดงออกทางเพศอย่างเสรี เช่น มีการทดลองอยู่ด้วยกันก่อนแต่งงาน ก่อให้เกิดปัญหาจากความสัมพันธ์ทางเพศตามมา ได้แก่ การตั้งครรภ์ไม่วางแผน การติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ การศึกษาในครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ เพื่อศึกษาอัตราการมีเพศสัมพันธ์ของวัยรุ่นหญิงและปัจจัยที่ เกี่ยวข้อง กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 302 คน เก็บข้อมูล โดยใช้แบบสอบถาม ระหว่างวันที่ 15 มิถุนายน 2552 -31 กรกฎาคม 2552 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ไควสแควร์ สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน และการวิเคราะห์ถดถอยเชิงพหุ ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างมีอัตราการมีเพศสัมพันธ์ ร้อยละ 56.6 อายุเฉลี่ยของการมีเพศสัมพันธ์ ครั้งแรก 15.3 ปี บุคคลที่มีเพศสัมพันธ์ด้วยครั้งแรก ได้แก่ คนรัก (ร้อยละ 73.1) และเพื่อนชาย (ร้อยละ15.8) เหตุผลที่มี เพศสัมพันธ์ส่วนใหญ่เกิดจากความรัก (ร้อยละ 67.8) ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อการมีเพศสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p-value< 0.05) ได้แก่ แหล่งข้อมูลข่าวสารเรื่องเพศ การแต่งกายตามแฟชั่น เป็นบุตรคนรอง ความรู้เรื่องเพศ ค่าใช้จ่าย ส่วนตัวที่ได้รับ พฤติกรรมทางเพศของเพื่อนสนิท การติดต่อสื่อสารเรื่องเพศและพูดคุยผ่านอินเตอร์เนต อัตราการร่วมเพศ พบร้อยละ 16.6 อายุเฉลี่ยของการร่วมเพศครั้งแรก 15.8 ปี ส่วนใหญ่มีการร่วมเพศกับคน รัก (ร้อยละ 98.0) เหตุผลที่มีการร่วมเพศส่วนใหญ่เกิดจากความรัก (ร้อยละ 52.0) อยากลอง (ร้อยละ 40.0) ปัจจัยที่มี ความสัมพันธ์ต่อการร่วมเพศอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p-value< 0.05) ได้แก่ พฤติกรรมทางเพศของเพื่อนสนิท เจตคติ ต่อการมีเพศสัมพันธ์ก่อนสมรส ความรู้เรื่องเพศ ลักษณะนิสัยเชื่อมั่นในตนเอง การแต่งกายเซ็กซี่เมื่อออกนอกบ้าน และ อายุมากขึ้น โดยสรุปจากผลการวิจัยในครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่า การป้องกันการมีเพศสัมพันธ์ในวัยรุ่นนั้นค่อนข้างทำได้ยาก ซึ่งเป็นผลมาจากสภาพเศรษฐกิจ สังคม และปัญหาการศึกษา การป้องกันต้องมีความร่วมมือกัน ทั้งด้านครอบครัว โรงเรียน รัฐบาลและหน่วยงานเอกชนเพื่อป้องกันการมีเพศสัมพันธ์และปัญหาที่ตามมาจากการมีเพศสัมพันธ์ ได้แก่ การ ตั้งครรภ์ และการติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

Mahidol University. Mahidol University Library and Knowledge Center

Address: NAKHONPATHOM

Email: liwww@mahidol.ac.th

Name: Somsak Suthutvoravut

Role: Thesis Advisors

Created: 2009

Modified: 2553-08-25

Issued: 2010-08-25

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

CallNumber: TH S616f 2009

eng

Spatial: Nakhonratchasima

Spatial: Thailand

DegreeName: Master of Science

Level: Master's Degree

Descipline: Human Reproduction and Population Planning

Grantor: Mahidol University

©copyrights Mahidol University

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	5036116.pdf	1.66 MB	242	2023-06-23 14:40:01

ใช้เวลา

0.224384 วินาที