Assessment of breastfeeding at Angthong Hospital

การประเมินการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในโรงพยาบาลอ่างทอง

Name: Suphaphat Nakwaree

MeSH: Breast Feeding

Abstract: Breast milk is a valuable nutrition for newborns. Angthong Hospital has been promoting breastfeeding among new mothers. This descriptive study aimed to evaluate the success in breastfeeding in Angthong Hospital. The study included 430 postpartum women who delivered their babies in Angthong Hospital during May to August 2008.Data was collected by interviewing women with structured questionnaires and observing their breastfeeding activities at 2 hrs. and 2 days postpartum, respectively. The descriptive statistics included number, rate, mean and standard deviation. The chisquare test was used to test hypotheses at the significant level of α = 0.05 by using SPSS/version 11.5 The results showed that only 37.7 % of woman succeeded in breastfeeding with a LATCH score >7 at 2 hours postpartum. The success rate was 94.0 % at 2 days postpartum. Latching between mouth and nipple was correct in 49.3% of women at 2 hours postpartum and increased to 98.1 % at 2 days postpartum, the sound of suckling was distinct in 10.2 % of women at 2 hours postpartum which increased to 86 % of women at 2 days postpartum, the holding position of babies during breastfeeding was correct in 15.6 % of women 2 hours postpartum which increased to 48.4 % at 2 days postpartum. The only factor which was significantly associated with the success in breastfeeding was the type of delivery. In conclusion, the success in breastfeeding increases with time during the postpartum period. Vaginal delivery resulted in more successful breastfeeding than caesarean section. Therefore, unnecessary caesarean section should be avoided. Dissemination of knowledge with proper practice of breastfeeding should be promoted for more success in breastfeeding.

Abstract: นมแม่เป็นอาหารที่มีคุณค่าที่สุดสำหรับทารกแรกเกิด โรงพยาบาลอ่างทองได้ส่งเสริมการ เลี้ยงลูกด้วยนมแม่มาโดยตลอด ผู้วิจัยจึงได้ศึกษาการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในโรงพยาบาลอ่างทองโดย มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสำเร็จในการปฏิบัติการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ การศึกษานี้เป็นการศึกษา เชิงพรรณนา เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสัมภาษณ์จากกลุ่มตัวอย่างสตรีที่คลอดบุตรในโรงพยาบาล อ่างทองจำนวน 430 ราย ระหว่างเดือน พฤษภาคม- สิงหาคม 2551 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิง พรรณนาได้แก่ จำนวน อัตรา ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน chi-square test ที่ระดับความเชื่อมั่น α = 0.05 โดยใช้ SPSS/V.11.5 ผลการศึกษาพบว่าสตรีหลังคลอด 2 ชั่วโมงแรกประสบผลสำเร็จในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ได้คะแนนรวมมากกว่า 7 ร้อยละ 37.7 เพิ่มเป็นร้อยละ 94 เมื่อ 2 วันหลังคลอด ลักษณะการอม หัวนมแม่ของทารกแรกเกิดถูกต้องใน 2 ชั่วโมงแรก ร้อยละ 49.3 เพิ่มเป็นร้อยละ 98.1 เมื่อ 2 วัน หลังคลอด เสียงการดูดนมแม่ชัดเจนใน 2 ชั่วโมงแรก ร้อยละ10.2 เพิ่มเป็นร้อยละ86 เมื่อ 2 วัน หลังคลอด ท่าอุ้มของแม่ถูกต้องใน 2 ชั่วโมงแรก ร้อยละ 15.6 เพิ่มเป็นร้อยละ 48.4 เมื่อ 2 วันหลัง คลอด สำหรับปัจจัยที่มีผลสำเร็จต่อการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้แก่ วิธีการคลอด p < 0.05 สรุป ความสำเร็จของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ดีขึ้นตามระยะเวลาหลังคลอด การคลอดทาง ช่องคลอดทำให้สตรีประสบความสำเร็จการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่สูงกว่าสตรีที่คลอดโดยการผ่าตัด คลอดทางหน้าท้อง ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงการผ่าตัดคลอดที่ไม่จำเป็นและส่งเสริมแนะนำการ ปฏิบัติการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ให้มากขึ้น

Mahidol University. Mahidol University Library and Knowledge Center

Address: NAKHONPATHOM

Email: liwww@mahidol.ac.th

Name: Somsak Suthutvoravut

Role: Thesis Advisors

Created: 2009

Modified: 2553-09-17

Issued: 2010-07-14

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

CallNumber: TH S959as 2009

eng

DegreeName: Master of Science

Level: Master's Degree

Descipline: Human Reproduction and Population Planning

Grantor: Mahidol University

©copyrights Mahidol University

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	4936985.pdf	1.52 MB	167	2022-11-24 22:40:23

ใช้เวลา

0.383611 วินาที