Environmental education for management of local mangrove at Yisan sub-district, Amphawa district, Samutsongkhram province, Thailand

สิ่งแวดล้อมศึกษาเพื่อการจัดการป่าชายเลนสำหรับชุมชนในท้องถิ่นตำบลยี่สาร อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม

Name: Amaraporn Sripurjarean

LCSH: Environmental education -- Thailand -- Samutsongkhram

LCSH: Environmental management -- Thailand -- Samutsongkhram

LCSH: Mangrove forests -- Management

Abstract: The objective of this research is to develop the ability to proper manage the Mangrove Forest among local people at Yisan Sub-District Amphawa District Samutsongkram Province, Thailand, through the construction of an Environmental Education Process, in order to discover learning achievement, as well as to investigate setbacks and make recommendations on the Mangrove Forest Management. First the researcher conducted a quantitative study, surveying community conditions and problems within the area by using questionnaires as the research tool. Sample participants consisted of 210 household heads or representatives. Research results were concluded and diagnosed for incorporation into the manuals for testing with 40 sample participants in the study area. Follow up was done with the first group of sample participants. Results analysis was done with Percentage, Mean, Standard Deviation and t-test. Research results revealed the following data: most sample participants were female, aged 36 to 56 years old. The household head, who worked for wages, had completed primary school, received news on the Mangrove Forest through television, wanted to participate in the process, and emphasized lecturing to gain knowledge as well as sharing group experiences. Most applied media were manuals and documents while some studied real events and watched VCDs that emphasized guidelines and methods for Mangrove Forest Management. After conducting the above process and measuring learning achievement results, results indicated that sample participants had increased knowledge and understanding in Mangrove Forest Management with a statistical significance value at 0.05. Follow-up also suggested that people had gained knowledge, understanding, awareness, attitude, skill and desire for involvement in the Mangrove Forest Management, with a statistical value at 0.05. Findings revealed problems and setbacks in the area are caused by sewage water from industrial factories which are mostly owned by capitalists, and that the community lacked knowledge in Mangrove Forest Management. As for recommendations, there should be additional training, more government funding, occupational support and tourism promotion, as well as arrangment of various activities in Mangrove Forest Management.

Abstract: การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาชุมชนในท้องถิ่นตำบลยี่สาร อำเภออัมพวา จังหวัด สมุทรสงคราม ให้สามารถจัดการป่าชายเลนได้อย่างถูกต้อง โดยสร้างกระบวนการสิ่งแวดล้อมศึกษา เพื่อหา ผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้ รวมทั้งศึกษาปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการจัดการป่าชายเลน ขั้นต้นผู้วิจัย ทำการศึกษาข้อมูลทางวิชาการเชิงปริมาณ สำรวจสภาพชุมชนและปัญหาในพื้นที่ สร้างแบบสอบถามซึ่งเป็น เครื่องมือการวิจัยแล้วนำไปใช้กับกลุ่มตัวอย่างที่เป็นหัวหน้าหรือตัวแทนครัวเรือน จำนวน 210 คน จากนั้นนำผลมา สรุปและวิเคราะห์เพื่อสร้างเป็นคู่มือ ตรวจสอบความถูกต้องแล้วไปทดลองในขั้นของกระบวนการกับกลุ่มตัวอย่างที่ เป็นประชาชนในพื้นที่จำนวน 40 คน จากนั้นทำการติดตามผลกับกลุ่มตัวอย่างแรก แล้ววิเคราะห์ผลด้วยค่าสถิติ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ ค่า t-test ผลการวิจัยพบว่า ผู้ให้ข้อมูลส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุ 36-56 ปี เป็นตัวแทนครัวเรือน มีอาชีพ รับจ้าง จบชั้นประถมศึกษา เคยทราบข่าวสารด้านป่าชายเลนทางโทรทัศน์ สนใจและต้องการเข้าร่วมกระบวนการ สิ่งแวดล้อมศึกษา เน้นให้การบรรยายให้ความรู้ มีการรวมกลุ่มเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ สื่อที่ใช้เป็นคู่มือและ เอกสาร ศึกษาจากของจริง และดูสื่อวีดีทัศน์ประกอบ เนื้อหาวิชาการเน้นแนวทางและวิธีการจัดการป่าชายเลน จากนั้นผู้วิจัยดำเนินกระบวนการต่างๆ ตามผลข้างต้น พร้อมวัดผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้ พบว่า ผู้เข้าร่วมกระบวนการ มี ความรู้ ความเข้าใจในการจัดการป่าชายเลนมากขึ้น อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 0.05 และภายหลังสิ้นสุดกระบวนการได้ มีการติดตามผล พบว่าประชาชนมีความรู้ ความเข้าใจ ตระหนัก ทัศนคติ ทักษะ และมีส่วนร่วมเกี่ยวกับการจัดการป่า ชายเลนเพิ่มขึ้น อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และพบว่าปัญหา อุปสรรคในพื้นที่เกิดจากปัญหาน้ำเน่าเสีย จากโรงงาน พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นของนายทุน และชุมชนขาดความรู้ด้านการจัดการป่าชายเลน ส่วนข้อเสนอแนะควร จัดฝึกอบรมให้ความรู้ รัฐสนับสนุนด้านการเงิน อาชีพ และส่งเสริมการท่องเที่ยว รวมทั้งจัดกิจกรรมด้านป่าชายเลน ให้มากขึ้น

Mahidol University

Address: NAKHON PATHOM

Email: liwww@mahidol.ac.th

Name: Pattaraboon Pichayapaiboon

Role: Thesis Advisors

Created: 2007

Modified: 2020-11-03

Issued: 2010-06-08

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

CallNumber: TH A485e 2007

eng

Spatial: Samutsongkhram

DegreeName: Master of Education

Level: Master's Degree

Descipline: Environmental Education

Grantor: Mahidol University

©copyrights Mahidol University

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	4536302.pdf	4.58 MB	169	2025-01-22 15:41:32

ใช้เวลา

0.434394 วินาที