Factors related to intention to smoke cigarettes in secondary school students

ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความตั้งใจที่จะสูบบุหรี่ของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น

Name: Pakawadee Promnuch

LCSH: Smoking -- Prevention -- Study and teaching (Secondary)

LCSH: Students -- Attitudes

LCSH: Tobacco use -- Prevention -- Study and teaching (Secondary)

MeSH: Behavior, Addictive

MeSH: Smoking -- in adolescence

Abstract: This study was descriptive correlational research which used the Theory of Planned Behavior proposed by Ajzen as the conceptual framework to determine the predictive power of demographic characteristic factors of age, grade point average, daily allowance, number of family members smoking and number of friends smoking, as well as, attitude toward smoking, subjective norm, and perceived behavioral control on the intention to smoke in the next month of early adolescents aged 10 to 17 years in Ranong Province. The sample consisted of 423 students and data were collected by means of a self-administered questionnaire developed by the researcher. Data collection took place in November and December 2005. Data were analyzed by means of Spearman’s Correlation Analysis and Logistic Regression Analysis. The findings revealed that age, grade point average, and number of friends smoking, as well as, attitude toward smoking, subjective norm, and perceived behavioral control were related to the intention to smoke within 1 month with statistical significance at the 0.01 level (rs=.138, rs= -.249, rs=.328, rs= .281, rs =.479, and rs= -.441, respectively). In addition, the Logistic Regression Analysis showed that all eight factors could explain the intention to smoke within 1 month by 23% to 39.5%. However, the number of friends smoking, subjective norm, and perceived behavioral control were the only three factors that had a statistically significant influence on the subjects’ intention to smoke within 1 month. Thus, having one more friend who smoked increased the students’ likelihood to intent to smoke within 1 month by 1.1 times. Also, having one more score on the subjective norm increased the students’ likelihood to intent to smoke within 1 month by 1.6 times. And having one more score on the perceived behavioral control decreased the students’ likelihood to intent to smoke within 1 month by 0.8 times. In order to organize health education and smoking prevention programs in early adolescents, nurses should have more awareness on the participation of students’ significant persons such as friends, parents, teacher, etc. In addition, adolescents’ perception on their control over smoking should be encouraged.

Abstract: ในการวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงบรรยายแบบวิเคราะห์ความสัมพันธ์ (Descriptive Correlational Design) เพื่อศึกษาอำนาจการทำนายของปัจจัยพื้นฐานซึ่งได้แก่ อายุ เกรดเฉลี่ยสะสม รายได้เฉลี่ย (ต่อวัน) จำนวนสมาชิก ในครอบครัวที่สูบบุหรี่ จำนวนเพื่อนที่สูบบุหรี่ ทัศนคติต่อการสูบบุหรี่ บรรทัดฐาน และการรับรู้ความสามารถใน การควบคุมที่มีต่อความตั้งใจที่จะสูบบุหรี่ในอีก 1 เดือนข้างหน้าของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น กลุ่มตัวอย่างเป็น นักเรียนมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 1-3 อายุ 10-17 ปี ในจังหวัดระนอง จำนวน 423 คน เก็บข้อมูลโดยให้นักเรียนเป็น ผู้ตอบแบบสอบถามด้วยตนเอง ระหว่างเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม พ.ศ. 2548 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์สเปียร์แมน และการวิเคราะห์การถดถอยโลจิสติค ผลการวิเคราะห์โดยใช้สถิติสหสัมพันธ์สเปียร์แมน พบว่า อายุ เกรดเฉลี่ยสะสม จำนวนเพื่อนที่สูบบุหรี่ ทัศนคติต่อการสูบบุหรี่ บรรทัดฐานและการรับรู้ความสามารถในการควบคุมมีความสัมพันธ์กับความตั้งใจที่จะสูบ บุหรี่ในอีก 1 เดือนข้างหน้าอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.01 (rs=.138, rs= -.249, rs=.328, rs=.281, rs =.479 และ rs= -.441 ตามลำดับ) และผลการวิเคราะห์โดยใช้สถิติการวิเคราะห์ความถดถอยโลจิสติค พบว่า อายุ เกรด เฉลี่ยสะสม รายได้เฉลี่ย (ต่อวัน) จำนวนสมาชิกในครอบครัวที่สูบบุหรี่ จำนวนเพื่อนที่สูบบุหรี่ ทัศนคติต่อการสูบ บุหรี่ บรรทัดฐาน และการรับรู้ความสามารถในการควบคุม สามารถร่วมกันอธิบายความตั้งใจที่จะสูบบุหรี่ในอีก 1 เดือนข้างหน้าของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นได้ 23% ถึง 39.5% หลังจากควบคุมตัวแปรอื่นๆ คงที่ จำนวนเพื่อน ที่สูบบุหรี่ บรรทัดฐานและการรับรู้ความสามารถในการควบคุม เป็นปัจจัยที่มีความสัมพันธ์และมีอิทธิพลต่อความ ตั้งใจที่จะสูบบุหรี่ในอีก 1 เดือนข้างหน้าของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.001 โดยการมีจำนวนเพื่อนที่สูบบุหรี่เพิ่มขึ้น 1 คน จะเพิ่มโอกาสที่นักเรียนจะมีความตั้งใจที่จะสูบบุหรี่ในอีก 1 เดือน ข้างหน้าถึง 1.1 เท่า (Odds ratio=1.1) การมีคะแนนของบรรทัดฐานเพิ่มขึ้น 1 คะแนน จะเพิ่มโอกาสที่นักเรียนจะมี ความตั้งใจที่จะสูบบุหรี่ในอีก 1 เดือนข้างหน้าถึง 1.6 เท่า (Odds ratio=1.6) และการมีคะแนนของการรับรู้ ความสามารถในการควบคุมเพิ่มขึ้น 1 คะแนน จะลดโอกาสที่นักเรียนจะมีความตั้งใจที่จะสูบบุหรี่ในอีก 1 เดือน ข้างหน้าถึง 0.8 เท่า (Odds ratio=0.8) การให้สุขศึกษาและการจัดโปรแกรมการป้องกันการสูบบุหรี่ พยาบาลควรตระหนักถึงการมีส่วนร่วมของ บุคคลที่มีความสำคัญต่อวัยรุ่นตอนต้น เช่น พ่อแม่ อาจารย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อน ซึ่งมีความสำคัญกับวัยรุ่น ตอนต้นเป็นอย่างมาก นอกจากนั้น การรับรู้ความสามารถในการควบคุมพฤติกรรมการสูบบุหรี่ของวัยรุ่น ก็เป็น ปัจจัยที่ควรให้ความสนใจ เพื่อลดโอกาสที่วัยรุ่นตอนต้นจะมีความตั้งใจที่จะสูบบุหรี่ในอีก 1 เดือนข้างหน้าและ แนวโน้มที่วัยรุ่นตอนต้นจะสูบบุหรี่เป็นไปได้น้อยลง ซึ่งสามารถช่วยป้องกันการสูบบุหรี่ในวัยรุ่นตอนต้นใน อนาคตข้างหน้าได้

Mahidol University

Address: NAKHON PATHOM

Email: liwww@mahidol.ac.th

Name: Sopin Sangon

Role: Thesis Advisors

Created: 2006

Modified: 2553-06-16

Issued: 2010-06-04

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

ISBN: 9740475272

CallNumber: TH P152f 2006

eng

DegreeName: Master of Nursing Science

Level: Master's Degree

Descipline: Mental Health and Psychiatric Nursing

Grantor: Mahidol University

©copyrights Mahidol University

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	4637420.pdf	844.84 KB	194	2025-06-06 15:27:56

ใช้เวลา

-0.735398 วินาที