The relationship of personal factor, self-esteem and social support to depression in high-risk pregnant women in Siriraj Hospital

ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคล ความรู้สึกมีคุณค่าในตนเอง แรงสนับสนุนทางสังคมกับภาวะซึมเศร้าในหญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะเสี่ยงสูงในโรงพยาบาลศิริราช

Name: Sirintip Suwannurak

MeSH: Depression

MeSH: Pregnancy, High-Risk

MeSH: Self Concept

MeSH: Social Support

Abstract: Depression in high-risk pregnant women affects the health of pregnant women, fetus as and family members, and may also cause postpartum depression. In this research personal factors, self-esteem, social support to the relationship of depression in high-risk pregnant women was should 166 research subjects who attended the high risk pregnancy clinic at Siriraj Hospital from May – July 2004. Data was obtained from simple information questionnaires, self-esteem tests, social support tests and a depression test (CES-D). The research result showed that 63.6% of women with high-risk pregnancies have depression. Self-esteem, social support, family income, number of children, working ability and other problem unrelated to health, were related to depression in high-risk pregnant women to a statistically significant extent. (P-Value <. 05) The research result also suggest that health care the staff should look in signs of depression in high-risk pregnant women from 1st trimester and then through out the 2nd and 3rd trimesters. They should also educate high-risk pregnant women and family member about mental health care to prevent high-risk pregnant women from depression and facilitate good mental health.

Abstract: การเกิดภาวะซึมเศร้าในหญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะเสี่ยงสูงย่อมมีผลกระทบต่อภาวะสุขภาพของหญิงตั้งครรภ์ บุตรและครอบครัว และเป็นสาเหตุทำให้เกิดปัญหาสุขภาพจิตหลังคลอดบุตรได้ การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงพรรณนาเพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคล ความรู้สึกมีคุณค่าในตนเอง และแรงสนับสนุนทางสังคมกับภาวะซึมเศร้าในหญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะเสี่ยงสูง กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วยหญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะเสี่ยงสูง 166 คน ที่มารับบริการฝากครรภ์ ณ คลินิกฝากครรภ์สำหรับหญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะเสี่ยงสูง โรงพยาบาลศิริราช ระหว่างเดือนพฤษภาคมถึง กรกฎาคม พ.ศ. 2547 เครื่องมือในการรวบรวมข้อมูล คือ แบบสอบถามข้อมูลขั้นพื้นฐาน แบบวัดความรู้สึกมีคุณค่าในตนเอง แบบวัดแรงสนับสนุนทางสังคม และแบบวัดอาการซึมเศร้า CES-D. ผลการวิจัยพบว่าหญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะเสี่ยงสูงมีภาวะซึมเศร้าร้อยละ 63.6 ความรู้สึกมีคุณค่าในตนเอง แรงสนับสนุนทางสังคม รายได้ จำนวนบุตร ความสามารถในการประกอบอาชีพและปัญหาอื่นๆนอกเหนือจากปัญหาด้านสุขภาพ มีความสัมพันธ์กับภาวะซึมเศร้าในหญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะเสี่ยงสูงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P-value < .05) ข้อเสนอแนะในการศึกษาครั้งนี้ คือ บุคลากรในทีมสุขภาพควรประเมินอาการซึมเศร้าในหญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะเสี่ยงสูงตั้งแต่ไตรมาสแรกและประเมินต่อเนื่องในไตรมาสที่ 2 และ 3 มีการให้ความรู้ในการดูแลด้านสุขภาพจิตแก่หญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะเสี่ยงสูงและครอบครัว เพื่อส่งเสริมการมีสุขภาพจิตที่ดีและป้องกันการเกิดอาการซึมเศร้าในหญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะเสี่ยงสูง"

Mahidol University

Address: NAKHON PATHOM

Email: liwww@mahidol.ac.th

Name: Sudsabuy Chulakadabba

Role: Thesis Advisors

Created: 2004

Modified: 2020-04-21

Issued: 2010-02-25

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

ISBN: 9740453732

CallNumber: TH S619ro 2004

eng

DegreeName: Master of Science

Level: Master's Degree

Descipline: Clinical Psychology

Grantor: Mahidol University

©copyrights Mahidol University

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	4337658.pdf	499.43 KB	175	2023-02-06 13:51:33

ใช้เวลา

0.211968 วินาที