The study of the wechsler memory scale-third edition in the elderly demented patients

การศึกษาแบบทดสอบเวคสเลอร์ เมมมอรี่ สเกล-ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 3 ในผู้ป่วยสมองเสื่อมสูงอายุ

Name: Pinnakarn Srisarakorn

MeSH: Dementia

MeSH: Memory

MeSH: Wechsler Scales

Abstract: This research aimed to study the pattern of the scaled score from the Wechsler Memory Scale-Third Edition on demented patients as compared with normal elderly people and to study the problems, limitations and guidelines in applying this test to Thai people. The total number of subjects is 70 people. Thirty-five normal elderly people of Bang Kruay district and 35 demented patients from Prasat Neurological Institute were compared to assess their memory. The samples in each group were classified into two age groups (50-59 and 60 and over) and three levels of education (primary school, secondary school, and associate degree or higher). Results reveal that the raw scores of demented patients and normal people on the Wechsler Memory Scale-Third Edition were significantly different for both Primary Indexes and Auditory Process Composites. Interestingly no difference was found between the scores of the two age groups among elderly normal or demented patients. The study reveals that the memory ability in normal aging is different than for demented patients. Demented patients lose their intellectual ability and have an insidious onset of dementia and gradually develop memory loss, while in normal aging there is only slight forgetting. Moreover, in normal aging those who have a high education and always use their cognitive faculties have better memory than the others. Recommendations for further research: enlargement of the sample should be considered as well as increased age range to include teenage and middle age people. This will lead the study to cover all age groups and provide a standard for Thai people

Abstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษารูปแบบของคะแนนผลการทดสอบโดยศึกษา ในแบบทดสอบ WMS-III ของผู้ป่วยสูงอายุที่เป็นผู้ป่วยสมองเสื่อมเมื่อเปรียบเทียบกับคนปกติ วัยสูงอายุ และเพื่อศึกษาปัญหา ข้อจำกัด และแนวทางในการนำแบบทดสอบ WMS-III มาใช้กับ คนไทย โดยศึกษาจากกลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น 70 คน แบ่งเป็นคนปกติจากชมรมผู้สูงอายุ อำเภอบาง กรวย 35 คน ผู้ป่วยสมองเสื่อมจากสถาบันประสาทวิทยา 35 คน และแบ่งตามช่วงอายุออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่มีอายุ 50-59 ปีและ ตั้งแต่60 ปีขึ้นไป รวมทั้งแบ่งการศึกษาเป็น 3 ระดับ คือ ระดับ ประถมศึกษา, มัธยมศึกษา, และอนุปริญญา- ปริญญา จากการวิจัยพบว่าคะแนนที่ได้จากการทำแบบทดสอบWMS-III ในผู้ป่วยสมองเสื่อม และคนปกติมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทั้งทางด้าน Primary Indexes และ Auditory Process Composites ในขณะที่เมื่อเปรียบเทียบความแตกต่างของผลการทดสอบในช่วงอายุ50- 59ปี และ ตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปทั้งในคนปกติและผู้ป่วยสมองเสื่อมพบว่าไม่มีความแตกต่างกัน จากการศึกษาพบว่าผู้สูงอายุปกติมีความสามารถทางความจำแตกต่างจากผู้ป่วยสมอง เสื่อมอย่างชัดเจน เนื่องจากผู้ป่วยสมองเสื่อมจะมีการสูญเสียทางด้านสติปัญญาอย่างมากและมี อาการลุกลามมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป ขณะที่ผู้สูงอายุปกตินั้นมีการเสื่อมทางสติปัญญาและความ จำอย่างค่อยเป็นค่อยไปนอกเหนือจากนั้นผู้สูงอายุที่มีการศึกษาสูงประกอบกับการมีกิจกรรมที่ ต้องใช้สมองอยู่เสมอจะมีความจำดีกว่ากลุ่มอื่นๆ ข้อเสนอแนะจากงานวิจัย เพื่อให้ผลการศึกษาครอบคลุมและมีเกณฑ์มาตรฐานสำหรับ คนไทยโดยเฉพาะจึงควรมีการศึกษาเพิ่มเติมโดยกำหนดกลุ่มตัวอย่างให้มีจำนวนมากขึ้น รวมทั้ง มีการศึกษากับกลุ่มอายุอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่นกลุ่มวัยรุ่น และ วัยกลางคน

Mahidol University

Address: NAKHON PATHOM

Email: liwww@mahidol.ac.th

Name: Sucheera Phattharayuttawat

Role: Thesis Advisors

Created: 2004

Modified: 2553-04-26

Issued: 2010-02-05

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

ISBN: 9740445683

CallNumber: TH P656s 2004

eng

DegreeName: Master of Science

Level: Master's Degree

Descipline: Clinical Psychology

Grantor: Mahidol University

©copyrights Mahidol University

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	4436491.pdf	779.39 KB	121	2021-05-04 17:50:19

ใช้เวลา

0.406134 วินาที