Exposure to sexual content in the media and its effect on sexual attitude and behavior of high school adolescent in Bangkok

การเปิดรับเนื้อหาเรื่องเพศในสื่อและผลของการเปิดรับ : นักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายในกรุงเทพมหานคร

Name: Rayong Phoemsap

LCSH: Adolescence -- Sexual behavior

LCSH: Sex in mass media

LCSH: Sex customs

Abstract: The study aimed to examine exposure to sexual content in mass media on TV, video/VCD, sexual websites and chat rooms on the internet and its effects on sexual attitude and behaviour. The sample was students aged 15-18 years studying in high-schools in Bangkok (a total of 390 students), selected by using multi–stage random sampling. Data was collected during November 2002. A self-administered questionnaire was used as an instrument for data collection. Statistical analysis used were percentages, mean, standard deviation, χ2 –test and Multiple Regression Analysis. The sample group comprised of 52 % females and 48 % males aged between 15-18 years, average student income was 2,900 baht per month. The majority of their friends had had exposure to sexual matters from the media (71.8 %). A reason for those exposing themselves to sexual content in the mass media was a response to their sexual curiosity. This study found that half of the students who had ever visited a chat room had dated with a new member of the opposite sex, and students who had had sex with a male or female they had known superficially met in a chat room. The variables significantly influencing the extent of sexual exposure are sex, having friends with sexual exposure, and perception of sexual matters. The sex variable can best describe the score variation of the extent of sexual exposure. Furthermore the result of analysis shows exposure to sexual content in the media was significantly influencing sexual attitude. Results from logistic Regression analysis demonstrated the influence of sexual behaviour. They were the extent of sexual exposure, sexual attitude and income.The odds of higher extent of sexual exposure being involved in sexual behaviour. This study explored some information for the programme planning of policy makers involved with youth S.T.D. and HIV prevention. The greatest source of information about sexual exposure as mentioned by students was friends, so using peer education is the most related method for sex education.

Abstract: การศึกษาในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาการเปิดรับเนื้อหาเรื่องเพศและผลของการ เปิดรับที่มีต่อทัศนคติในเรื่องเพศและพฤติกรรมทางเพศในสื่อ 4 ประเภทคือโทรทัศน์ วิดิโอ-วีซีดี การเข้าเวบไซด์เรื่องเพศและการเข้าห้องสนทนาเรื่องเพศ กลุ่มประชากรคือนักเรียนมัธยมศึกษา ตอนปลายในกรุงเทพมหานคร ปีการศึกษา2545 และสุ่มตัวอย่างแบบเชิงชั้นภูมิหลายชั้น จำแนกตาม พื้นที่ (ชั้นใน-กลาง-นอก) โดยใช้แบบสอบถามให้นักเรียนอ่านและตอบเอง (Self-Administered questionnaire) เก็บข้อมูลในเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม2545 จำนวน 390 คน วิเคราะห์ข้อมูลของ กลุ่มตัวอย่างด้วยการหา ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ตารางไขว้ χ2 –test, Multiple Regression Analysis กลุ่มตัวอย่างแบ่งเป็นเพศชายร้อยละ 48 หญิงร้อยละ 52 อายุระหว่าง14-19 ปี อายุเฉลี่ย 16 ปีมีรายได้เฉลี่ย 2,900 บาทต่อเดือน ส่วนใหญ่มีเพื่อนเปิดรับเนื้อหาเรื่องเพศ (ร้อยละ 71.8) รับรู้ ข่าวสารเรื่องเพศจากเพื่อนมากที่สุด เหตุผลหลักในการเปิดรับเนื้อหาเรื่องเพศจากสื่อเพื่อตอบสนอง ความอยากรู้อยากเห็นในเรื่องเพศ แต่เหตุผลในการเข้าห้องสนทนาเรื่องเพศเหตุผลหลัก คือเพื่อ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเพื่อนใหม่ ที่น่าสนใจ การนัดพบเพศตรงข้ามที่รู้จักทางอินเตอร์เน็ต พบว่า 1 ใน 2 คน (ร้อยละ 52.4) ของผู้ที่เคยเข้าห้องสนทนาเรื่องเพศ เคยนัดพบเพศตรงข้ามที่รู้จัก ทางอินเตอร์เน็ต และกลุ่มตัวอย่างที่เคยมีเพศสัมพันธ์กับบุคคลที่รู้จักกันผิวเผิน คือกลุ่มที่เคยเข้า ห้องสนทนาทางเพศ ผลการวิเคราะห์ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อปริมาณการเปิดรับพบว่า เพศ การมีเพื่อน เปิดรับเรื่องเพศ และการรับข่าวสารเรื่องเพศ มีความสัมพันธ์ต่อปริมาณการเปิดรับเนื้อหาเรื่องเพศ อย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ยังพบว่าปริมาณการเปิดรับเนื้อหาเรื่องเพศมีอิทธิพลต่อทัศนคติในเรื่อง เพศและการมีเพศสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญ จากการศึกษาครั้งนี้พบข้อมูลบางอย่างที่น่าสนใจสำหรับหน่วยงานหรือผู้ที่ทำงาน เกี่ยวข้องกับวัยรุ่น และการป้องกันเชื้อ HIV ที่จะวางแผนหรือกำหนดโครงการต่างๆ เช่น กลุ่ม ตัวอย่างจะมีการรับรู้ข่าวสารเรื่องเพศจากเพื่อนมากที่สุด ดังนั้นการมีนโยบายในการให้เพื่อนช่วย เพื่อน จึงน่าสนใจสำหรับการเรียนรู้ในเรื่องเพศศึกษา

Mahidol University

Address: NAKHON PATHOM

Email: liwww@mahidol.ac.th

Name: Panee Vong-ek

Role: Thesis Advisors

Created: 2003

Modified: 2553-03-09

Issued: 2010-01-21

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

ISBN: 9740441106

eng

DegreeName: Master of Arts

Level: Master's Degree

Descipline: Population and Social Research

Grantor: Mahidol University

©copyrights Mahidol University

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	4336269.pdf	1.56 MB	39	2025-07-14 00:08:30

ใช้เวลา

0.248404 วินาที