Factors affecting on discretion of judges to punishment in criminal cases

ปัจจัยที่มีผลต่อการใช้ดุลพินิจกำหนดโทษของศาลยุติธรรม

Name: Nuttaya Chanyachailart

LCSH: Criminal justice, Administration of

LCSH: Criminal courts

LCSH: Punishment

Abstract: The objectives of this survey research were to study the criteria and discretion of judges regarding punishment in criminal cases as well as to delineate related factors. Two-hundred and five judges in criminal courts in metropolitan Bangkok were the sample.A questionnaire was the instrument for data collection. Data was analysed through amount, percentage, mean, standard deviation, and Chisquare. The results of this research was found that the different legal experiences of the judges as a personal factor had a statistically significant effected on discretion at 0.05 level, while the schedule of punishment or the so called “Yee-tok” also had a statistically significant effect on the discretion of judges in criminal cases at 0.05 level. The perspectives of considering matters by judges for punishment were in order: degree of fatal crime conduct, criminal record, the damage to the victim, the objective of correcting the offender, the schedule of punishment, extenuating circumstances, circumstances in the area, and the supreme court’s decision. Recommendations for this research were to set guidelines for criminal punishment, reviving and defining legal professionals applying to be judges, standardizing policies for schedule of punishment (Yee-tok), and research on punishment or related issues. The researcher also encourages the enactment of standard guidelines for the schedule of punishment (Yee-tok) practiced in courts throughout the country for more equal treatment of those accused with similar offences.

Abstract: การศึกษาวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ (Survey Research) มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาถึง หลักเกณฑ์และการใช้ดุลพินิจของผู้พิพากษาในการพิพากษากำหนดโทษจำเลยในคดีอาญา และศึกษาถึงปัจจัยที่มี ผลต่อการใช้ดุลพินิจกำหนดโทษจำเลยในคดีอาญาของผู้พิพากษาศาลยุติธรรม กลุ่มตัวอย่างคือผู้พิพากษาศาล ยุติธรรมในเขตกรุงเทพมหานครจำนวน 205 คน เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการ วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ จำนวน,ร้อยละ ,ค่าเฉลี่ย ,ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน(S.D.)และ Chi-square ผลการศึกษาวิจัย พบว่า กลุ่มตัวอย่างที่มีปัจจัยส่วนบุคคลในด้านประสบการณ์การทำงานก่อนเข้ารับ ราชการเป็นผู้พิพากษาที่แตกต่างกัน มีผลต่อการใช้ดุลพินิจพิพากษากำหนดโทษของศาลยุติธรรมอย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติที่ระดับ 0.05,นอกจากนี้ยังพบว่าปัจจัยดำเนินการในด้านการใช้บัญชีอัตราโทษ(ยี่ต๊อก)ที่แตกต่างกันของ กลุ่มตัวอย่าง มีผลต่อการใช้ดุลพินิจพิพากษากำหนดโทษของศาลยุติธรรมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 โดยภาพรวมของสิ่งที่ผู้พิพากษาคำนึงถึงในการพิพากษากำหนดโทษ ตามลำดับคือ ความร้ายแรง ของการกระทำผิด,ประวัติการกระทำผิด,ความเสียหายที่ผู้เสียหายได้รับจากการกระทำผิด,วัตถุประสงค์การ ลงโทษเพื่อแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิด,บัญชีอัตราโทษ,เหตุเพิ่มโทษหรือลดโทษตามที่กฎหมายกำหนด,สภาพท้องถิ่น, และคำพิพากษาศาลฎีกา ข้อเสนอแนะจากการวิจัย คือ ควรมีการกำหนดหลักเกณฑ์ในการกำหนดโทษจำเลยในคดีอาญา,ควร มีการทบทวนหลักเกณฑ์ในการกำหนดคุณสมบัติในด้านลักษณะอาชีพและเงื่อนไขอื่นๆที่เกี่ยวข้องของผู้ที่มีสิทธิ สมัครสอบเป็นผู้ช่วยผู้พิพากษา,ควรมีการบัญญัตินโยบายมาตรฐานในการกำหนดบัญชีอัตราโทษ(ยี่ต๊อก) และ การวิจัยศึกษาเกี่ยวกับการลงโทษและหัวข้อที่เกี่ยวข้อง ผู้วิจัยขอสนับสนุนให้มีการบัญญัติแนวทางมาตรฐานใน การกำหนดบัญชีอัตราโทษ(ยี่ต๊อก)ใช้ในศาลทั่วประเทศ เพื่อให้มีการปฏิบัติต่อผู้กระทำผิดที่เท่าเทียมกันใน ความผิดลักษณะเดียวกัน

Mahidol University

Address: NAKHON PATHOM

Email: liwww@mahidol.ac.th

Name: Tanansak Borwornnuntakul

Role: Thesis Advisors

Created: 2003

Modified: 2553-01-26

Issued: 2009-11-30

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

ISBN: 9740433308

CallNumber: TH N981f 2003

eng

DegreeName: Master of Arts

Level: Master's Degree

Descipline: Criminology and Criminal Justice

Grantor: Mahidol University

©copyrights Mahidol University

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	4337237.pdf	1.07 MB	182	2025-03-10 10:38:06

ใช้เวลา

-0.651172 วินาที