A comparison in shear bond strength of different adhesives between orthodontic bracket-tooth surfaces and orthodontic bracket-amalgam restorations

การเปรียบเทียบค่าความแข็งแรงเฉือนระหว่างแบร็กเก็ตจัดฟันชนิดโลหะกับผิวฟันและแบร็กเก็ตจัดฟันชนิดโลหะกับผิวฟันที่มีวัสดุอุดอะมัลกัม

Name: Siriwan Kuntharaporn

MeSH: Adhesives

MeSH: Dental Amalgam

MeSH: Dental Materials

Abstract: The objective of this thesis was to compare the shear bond strength (SBS) of different adhesives between metal orthodontic brackets on tooth surfaces and on tooth surfaces with amalgam restorations. Two hundred and fifty human upper premolars extracted for orthodontic purposes were randomly divided into two major groups; a tooth surface group and a 50% buccal amalgam restoration group. Brackets were bonded to the teeth using five different adhesives in each groups: I: UniteTM; II: Rely-a-bond®; III: Enlight®; IV: Transbond XTTM; V: Transbond PlusTM with self-etching adhesive. The teeth were thermocycled between 5° and 55° for 500 cycles, and consequently debonded using Instron testing machine to test the SBS. The enamel surfaces were examined under a stereomicroscope at 25X magnification and the amount of residual adhesive remaining on the teeth was determined with Adhesive Remnant Index (ARI) scores. The SBS values of all adhesives used on tooth surfaces were greater than the bonds of brackets on tooth surfaces with the amalgam restorations (p<.05). Significant differences among different adhesives did not exist in the tooth surface group (p>.05), but did exist in the amalgam restoration group (p<.05), in which Transbond XT and Enlight SBS values were significantly higher than Unite, Transbond Plus and Rely-a-Bond. In conclusion, the SBS values on tooth surfaces of all adhesives in this study were clinically acceptable (5.9-7.8 MPa). Three-step light-cured adhesives (Transbond XT and Enlight) had clinically acceptable SBS values on tooth surfaces with amalgam restorations. In a comparison of the ARI scores, all adhesives both on tooth surfaces and tooth surfaces with amalgam restorations had different failure modes. Mostly, adhesive failure was found between adhesive/bracket bases on tooth surfaces, and cohesive failure was found within adhesives on tooth surfaces with amalgam restorations, with the exception of Transbond Plus, in which the same failure modes were recorded both on tooth surfaces and tooth surfaces with amalgam restorations. Failures of the Transbond Plus group occurred mostly within adhesives and between adhesive/tooth surfaces and amalgams.

Abstract: การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบค่าความแข็งแรงเฉือนของวัสดุยึดติดต่างชนิดกัน เมื่อใช้ยึดแบร็กเก็ตจัดฟันชนิดโลหะบนผิวฟันปกติและเทียบกับเมื่อใช้ยึดบนผิวฟันที่มีวัสดุ อุดอะมัลกัม โดยรวบรวมฟันกรามน้อยบนจำนวน 250 ซี่ลงบล็อกอะคริลิกเรซินและแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่คือ กลุ่มผิวฟันปกติและกลุ่มผิวฟันที่มีวัสดุอุดอะมัลกัม ซึ่งนำมาเตรียมโพรงฟันและ อุดด้วยอะมัลกัมให้มีขนาด 50 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ใต้ฐานแบร็กเก็ต โดยแบร็กเก็ตจะถูกยึดด้วย วัสดุยึดติดชนิดเรซินต่างชนิดกัน 5 กลุ่มได้แก่ ยูไนท์TM รีไล-อะ-บอนด์® เอ็นไลท์® ทรานส์บอนด์ เอ็กซ์ทีTM และ ทรานส์บอนด์ พลัสTM แล้วนำไปผ่านเครื่องเปลี่ยนอุณหภูมิร้อน-เย็นระหว่าง 5 ถึง 55 องศา จำนวน 500 รอบ จากนั้นนำไปวัดค่าความแข็งแรงเฉือนด้วยเครื่องทดสอบอินสตรอน และนำไปประเมินตำแหน่งที่เกิดการหลุดของแบร็กเก็ตด้วยกล้องจุลทรรศน์กำลังขยาย 25 เท่าเพื่อ ตรวจดูปริมาณวัสดุยึดติดที่เหลืออยู่บนผิวฟันด้วยค่าดรรชนีเออาร์ไอ ผลการศึกษาพบว่า ค่าความ แข็งแรงเฉือนของวัสดุยึดติดแต่ละชนิดบนผิวฟันปกติมีค่ามากกว่าบนผิวฟันที่มีวัสดุอุดอะมัลกัม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<.05) และไม่มีความแตกต่างกันระหว่างชนิดของวัสดุบนผิวฟันปกติ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p>.05) แต่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติเมื่อยึดติดบนผิว ฟันที่มีวัสดุอุดอะมัลกัม (p<.05) โดยทรานส์บอนด์ เอ็กซ์ที และเอ็นไลท์ จะให้ค่าความแข็งแรง เฉือนที่มากกว่า ยูไนท์, ทรานส์บอนด์ พลัส และ รีไล-อะ-บอนด์ สรุปได้ว่าวัสดุยึดติดทุกชนิดที่ นำมาทดสอบมีค่าความแข็งแรงเฉือนเมื่อติดแบร็กเก็ตบนผิวฟันปกติอยู่ในระดับที่ยอมรับได้ สำหรับการใช้งานทางคลินิก (5.9-7.8 เมกะปาสคาล) และวัสดุยึดติดชนิดที่แข็งตัวด้วยแสงที่ใช้ การเตรียมผิวฟันแบบ 3 ขั้นตอนตามปกติ ซึ่งได้แก่ ทรานส์บอนด์ เอ็กซ์ที และเอ็นไลท์ มีค่าความ แข็งแรงเฉือนบนผิวฟันที่มีวัสดุอุดอะมัลกัมอยู่ในระดับที่ยอมรับได้สำหรับการใช้งานทางคลินิก สำหรับการประเมินการหลุดของแบร็กเก็ตบนพื้นผิวฟันปกติกับผิวฟันที่มีวัสดุอุดอะมัลกัม วัสดุ ทุกชนิดที่ทดสอบ ยกเว้นทรานส์บอนด์ พลัส มีลักษณะการหลุดบนผิวฟันปกติกับบนผิวฟันที่มี วัสดุอุดอะมัลกัมแตกต่างกัน คือบนผิวฟันปกติส่วนใหญ่เกิดการแยกออกระหว่างวัสดุกับฐาน แบร็กเก็ต ส่วนบนผิวฟันที่มีวัสดุอุดอะมัลกัมส่วนใหญ่เกิดการแยกออกภายในเนื้อวัสดุเอง แต่ ทรานส์บอนด์ พลัส พบลักษณะการหลุดที่ไม่แตกต่างกันระหว่างบนพื้นผิวฟันปกติและผิวฟันที่มี วัสดุอุดอะมัลกัม คือพบการแยกออกภายในเนื้อวัสดุเอง และการแยกออกระหว่างวัสดุกับผิวฟัน และอะมัลกัม

Mahidol University

Address: NAKHON PATHOM

Email: liwww@mahidol.ac.th

Name: Ladda Winarakwong

Role: Thesis Advisors

Created: 2008

Modified: 2552-11-30

Issued: 2009-11-26

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

CallNumber: TH S619cm 2008

eng

DegreeName: Master of Science

Level: Master's Degree

Descipline: Orthodontics

Grantor: Mahidol University

©copyrights Mahidol University

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	4937191.pdf	2.82 MB	15	2018-05-29 01:38:49

ใช้เวลา

-0.785266 วินาที