The effects of progressive muscle relaxation technique on postoperative pain and anxiety in coronary artery bypass graft surgery patients

ประสิทธิผลของเทคนิคการผ่อนคลายกล้ามเนื้อต่อระดับความเจ็บปวดและระดับความวิตกกังวลในผู้ป่วยภายหลังการผ่าตัดทำทางเบี่ยงหลอดเลือดหัวใจ

Name: Achara Jongjareonkumchok

MeSH: Thoracic Surgery

MeSH: Anxiety

MeSH: Coronary Artery Bypass

MeSH: Pain, Postoperative

MeSH: Muscle Relaxation

Abstract: The purpose of this study was to examine the effects of the progressive muscle relaxation technique on postoperative pain and anxiety in coronary artery bypass graft (CABG) patients. The sample comprised 30 CABG patients who were extubated within 24-72 hours after their operation in cardio-vascular-thoracic intensive care unit. This occurred at Ramathibodi Hospital between June and August, 2005. A quasi-experimental design was used with one pre-test and post-test group. After extubation, the progressive muscle relaxation treatment was used with the participants. The data collected were the results from the numerical pain scale (vertical) and the anxiety visual analogue scale. Both pain and anxiety levels were measured at the beginning and the end of intervention procedure, and again after 15, 30 and 45 minutes respectively. The mean scores of pain and anxiety were analyzed using a repeated measured ANOVA. The findings of this study showed that the mean post-intervention scores for both the pain and anxiety scores were significantly lower than the pre-intervention scores (p<0.05). In addition, 70% of the participants used the relaxation treatment again within 24 hours. This group requested fewer analgesic drugs than the group that did not receive the treatment. These findings support the effectiveness of progressive muscle relaxation as a complementary treatment to reduce postoperative pain and anxiety in CABG patients

Abstract: การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบระดับความเจ็บปวดและระดับความวิตกกังวลในผู้ป่วยภายหลังการผ่าตัดทำทางเบี่ยงหลอดเลือดหัวใจ ก่อนและหลังฝึกเทคนิคการ ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้เป็นผู้ป่วยภายหลังการผ่าตัดทำทางเบี่ยง หลอดเลือดหัวใจหลังถอดท่อช่วยหายใจ ภายใน24-72 ชั่วโมงหลังผ่าตัด ในหน่วยบำบัดพิเศษหลังผ่าตัดหัวใจและทรวงอก โรงพยาบาลรามาธิบดีระหว่างเดือนมิถุนายน-สิงหาคม 2548 จำนวน 30 ราย การวิจัยครั้งนี้ใช้ระเบียบวิธีการวิจัยกึ่งทดลองโดยใช้กลุ่มตัวอย่าง1กลุ่มวัดผลก่อนและหลัง ได้รับเทคนิคการผ่อนคลายกล้ามเนื้อหลังถอดท่อช่วยหายใจ เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลประกอบด้วยมาตรวัดความเจ็บปวด The numerical pain scale (vertical) และมาตรวัดระดับความวิตกกังวล The anxiety VAS ผู้วิจัยวัดระดับความเจ็บปวดและระดับความวิตกกังวลก่อนและเมื่อจบการฟังแถบเสียงการผ่อนคลายกล้ามเนื้อและวัดซ้ำเมื่อเวลาผ่านไป 15, 30 และ 45 นาที เปรียบเทียบระดับความเจ็บปวดและความวิตกกังวลโดยใช้สถิติการวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบการวัดผลซ้ำ (repeated measured ANOVA) ผลการศึกษาพบว่าค่าเฉลี่ยระดับความเจ็บปวด และค่าเฉลี่ยระดับความวิตกกังวลของผู้ป่วย หลังฝึกเทคนิคการผ่อนคลายกล้ามเนื้อทันที และ เมื่อเวลาผ่านไป15, 30 และ 45 นาที ต่ำกว่าก่อนการฝึกเทคนิคการผ่อนคลายกล้ามเนื้ออย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.05 นอกจากนี้ยังพบว่า70%ของผู้ป่วย ฟังแถบเสียงซ้ำภายใน 24 ชั่วโมงโดยกลุ่มที่ฟังแถบเสียงซ้ำ มีอัตราการขอรับยาแก้ปวดเพิ่มน้อยกว่ากลุ่มที่ไม่ฟังแถบเสียงซ้ำใน24ชั่วโมง จากผลการศึกษาที่ได้สนับสนุนประสิทธิผลของเทคนิคการผ่อนคลายกล้ามเนื้อในการใช้เป็นการบำบัดร่วมในการลดความเจ็บปวดและความวิตกกังวลในผู้ป่วยภายหลังการผ่าตัดทำทางเบี่ยงหลอดเลือดหัวใจ

Mahidol University

Address: NAKHON PATHOM

Email: liwww@mahidol.ac.th

Name: Usavadee Asdornwised

Role: Thesis Advisors

Created: 2005

Modified: 2020-11-03

Issued: 2009-07-31

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

CallNumber: TH A176e 2005

9740466532

eng

DegreeName: Master of Nursing Science

Level: Master's Degree

Descipline: Adult Nursing

Grantor: Mahidol University

©copyrights Mahidol University

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	4637749.pdf	1.73 MB	187	2024-09-17 21:27:18

ใช้เวลา

0.279195 วินาที