ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความตระหนักในปัญหาสิ่งแวดล้อมเมืองของนักศึกษาสาขานิเทศศาสตร์ วารสารศ่าสตร์และสื่อสารมวลชนในเขตกรุงเทพมหานคร

Factors influencing the awareness of urban pollution problems among students in faculties of communication arts, journalism and mass communication in Bangkok

Name: ธวัชชัย ตวงวิไล

ThaSH: สื่อมวลชนกับสิ่งแวดล้อม -- ไทย -- กรุงเทพมหานคร

ThaSH: ปัญหาสิ่งแวดล้อม

ThaSH: ความตระหนัก

Abstract: การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความตระหนักในปัญหาสิ่งแวดล้อมเมืองของนักศึกษา สาขาวิชานิเทศศาสตร์ วารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชนในเขตกรุงเทพมหานคร ทำการศึกษาด้วยวิธีการวิจัยเชิงสำรวจ เก็บรวบรวม ข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามจากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 380 คน แล้วนำข้อมูลมาวิเคราะห์โดยใช้สถิติค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยเลขคณิต ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์ปัจจัยที่มีอิทธิพลในการจำแนกค่าคะแนนความตระหนักโดยใช้การวิเคราะห์จำแนกพหุ (Multiple Classification Analysis) ผลการศึกษา พบว่า ความตระหนักในปัญหาสิ่งแวดล้อมเมืองของนักศึกษาสาขานิเทศศาสตร์ วารสารศาสตร์และ สื่อสารมวลชนในเขตกรุงเทพมหานคร ร้อยละ 55.8 มีระดับความตระหนักในปัญหาสิ่งแวดล้อมเมืองปานกลาง โดยปัจจัยที่มี อิทธิพลต่อต่อความตระหนักในปัญหาสิ่งแวดล้อมเมืองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับนัยสำคัญ 0.05 ได้แก่ ปัจจัยเพศ ความรู้ เกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อมเมือง การติดตามข่าวสารเกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อมเมือง ปัจจัยอิสระทั้งหมดสามารถอธิบายการผันแปร ของค่าคะแนนความตระหนักเกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อมเขตเมืองของนักศึกษาที่ศึกษาสาขานิเทศศาสตร์วารสารศาสตร์และ สื่อสารมวลชนในเขตกรุงเทพมหานครได้ร้อยละ 7.5 (MULTIPLE R SQUARE = 0.075) และค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เชิงพหุ เท่ากับ 0.273 (MULTIPLE R = 0.273) แม้ผลการศึกษาจะพบว่านักศึกษาส่วนใหญ่มีความตระหนักต่อปัญหาสิ่งแวดล้อมใน ระดับที่ค่อนข้างน่าพอใจ แต่ยังมีข้อสังเกตว่า ความตระหนักของนักศึกษาในส่วนของความต้องการในการแสดงพฤติกรรมการ ที่จะเข้ามามีบทบาทหรือมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมนั้นยังอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำ โดยเห็นได้จากประเด็นคำถามถึง ความรับผิดชอบที่ต้องเข้าไปมีส่วนร่วมและการเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมเมืองปรากฏว่านักศึกษา กลุ่มตัวอย่างให้ความเห็นว่าเห็นด้วยอย่างยิ่งในสัดส่วนที่น้อยกว่าประเด็นอื่น อาทิ ข้อคำถามว่า “ท่านจะแสวงหาโอกาสเข้าไปมี ส่วนร่วมในการเสนอความคิดเห็นเพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมของกรุงเทพมหานคร” นักศึกษากลุ่มตัวอย่างเห็นด้วยอย่างยิ่ง เพียงร้อยละ 13.7 และคำถามว่า “ท่านต้องการเข้าไปมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาส่งแวดล้อมของกรุงเทพฯ” นักศึกษา กลุ่มตัวอย่างเห็นด้วยอย่างยิ่ง เพียงร้อยละ 16.1 เห็นได้ว่ายังมีความจำเป็นที่จะต้องมีการเสริมแรงกระตุ้นที่เพียงพอที่จะทำให้ นักศึกษาเกิดความตระหนักในระดับที่มากกว่าการรับรู้และเข้าใจปัญหาสิ่งแวดล้อมเท่านั้น ข้อเสนอแนะจากการวิจัยครั้งนี้ คือ ควรมีการกระตุ้นให้นักศึกษาเกิดความตระหนัก แม้ว่าจะอยู่ในระหว่างการศึกษา เพราะการจะแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมได้นั้นทุกคนในสังคมต้องรับผิดชอบร่วมกัน โดยการสร้างเสริมความรู้ในเรื่องมลภาวะทาง เสียงและเรื่องปัญหาน้ำเน่าเสียและแนวทางการแก้ไขปัญหาน้ำเน่าเสียให้เพิ่มมากขึ้นเพราะนักศึกษากลุ่มตัวอย่างมีความรู้ ในประเด็นดังกล่าวน้อย ควรเน้นให้มีการผลิตสื่อที่เกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อมออกเผยแพร่สู่สังคมผ่านเครือข่ายสื่อสารมวลชน โดยเน้นช่องทาง โทรทัศน์เป็นสำคัญเพราะจากการศึกษา นักศึกษากลุ่มตัวอย่างส่วนมากติดตามข่าวสารที่เกี่ยวกับปัญหา สิ่งแวดล้อมผ่านทางสื่อโทรทัศน์ทุกวันมากที่สุด ส่วนสื่อในช่องทางอื่น เช่น วารสาร-หนังสือพิมพ์ วิทยุและสื่ออินเทอร์เน็ต ก็ควรได้รับการส่งเสริมให้มีการเผยแพร่เกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อมให้มากยิ่งขึ้นเพราะความถี่ของผู้รับข่าวสารด้านสิ่งแวดล้อม จากช่องทางดังกล่าวทุกวัน มากเป็นอันดับที่สองอันดับที่สามและอันดับที่สี่ ซึ่งไม่ควรมองข้าม อีกทั้งต้นทุนในการผลิตสื่อเพื่อ เผยแพร่ผ่านช่องทางดังกล่าวก็ราคาไม่สูงมากเท่าสื่อโทรทัศน์ และผู้รับข่าวสารสามารถทบทวนรายละเอียดซ้ำเพื่อความเข้าใจ ถึงปัญหาอย่างลึกซึ้งได้ง่ายกว่าสื่อโทรทัศน์

Abstract: The purpose of this research was to study factors influencing the awareness of urban pollution problems among students in faculties of communication arts, journalism and mass communications in Bangkok, Data was collected by means of a questionnaire with 380 samples, and then analyzed by means of percentage, mean, and standard deviation. The results showed that 55.8 percent of the sample had a moderate level of awareness of urban pollution problems. Factors influencing this awareness included gender, knowledge of urban pollution problems, and follow-up of news about urban pollution problems. Despite this, it should be noted that in terms of the awareness of the need to do something about these problems just under 14 percent agreed at a high level that they would look for opportunities to express themselves in ways that would help solve environmental problems and only 16 percent highly agreed that they wanted to participate in solving these problems. The recommendations are that there should be stimulus for students to become aware of environmental problems because this is a collective responsibility. There should be an emphasis on media production relating to environmental problems, focusing on TV because this is the most popular medium with students but also for magazines, newspapers, radio and Internet which are in the next rank of popularity and have lower production costs. Students could then review details to have a better and deeper understanding of the problem than that provided by TV alone.

มหาวิทยาลัยมหิดล

Address: นครปฐม

Email: liwww@mahidol.ac.th

Name: ยรรยงศ์ อัมพวา

Role: ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์

Created: 2551

Modified: 2020-04-19

Issued: 2552-07-28

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

CallNumber: วพ ธ394ป 2551

tha

DegreeName: สังคมศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: สิ่งแวดล้อม

Grantor: มหาวิทยาลัยมหิดล

©copyrights มหาวิทยาลัยมหิดล

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	4636179.pdf	1.85 MB	397	2024-12-09 19:11:36

ใช้เวลา

0.276379 วินาที