Elderly health service utilization : The study of Kanchanaburi Demographic Surveillance System

การเลือกใช้วิธีการรักษาพยาบาลของผู้สูงอายุ : กรณีศึกษาโครงการกาญจนบุรี

Name: Supranee Choeichom

keyword: Health Service Utilization

LCSH: Aged -- Health and hygiene

LCSH: Health facilities

LCSH: Health services for the aged -- Thailand -- Kanchanaburi

Abstract: This thesis is a quantitative research which focuses on patterns of sickness and health service utilization by the elderly, including related factors such as sex, age group, marital status, etc. Data used in this study was secondary data from the Kanchanaburi Demographic Surveillance System : DSS, Round 2 (2001). The subjects were people aged 60 years and over. The dependent variable was health service utilization and the independent variables were sex, age group, marital status, family size, household structure, education, occupation, average income per head, urban or rural residence, nature of household location and sickness characteristic, diseases, symptoms, and accidents. The analysis employed percentage and Chi-Squares value of crosstabulation, including Multi-nominal Logistic Regression when testing factors related to health service utilization. It was found that the elderly health service utilization mostly depends upon sickness characteristics such as diseases, symptoms, and accident. The factors related to health service utilization by the elderly were sex, age group, urban and rural residence, and sickness characteristics. Female elders were more likely to visit government hospital and private hospitals or clinics more than male elders. On the contrary, males were more likely to buy medicine at drug stores than females. The very old (70 years and over) visited government hospitals and health centers more than the less old (60-69 years), and their families participated in decision-making on health service utilization more. The elderly who lived in the rural and urban areas had equal access to health services from government hospitals because they had the right to use or not use their government health insurance cards of the top five diseases, it was found that the majority of the elders with common cold choose to buy medicine at drug stores because of personal beliefs and the convenience. The elders with heart disease, diabetes, blood pressure, and stomachache/ gastritis/ infected intestine chose to use government hospitals because more often. The elders ill with symptom groups were more likely to buy medicine at drug stores because of personal beliefs and the convenience. The elders who were injured from accidents were highly likely to visit government hospitals because of the seriousness of their condition. This recommended that Kanchanaburi province prepares suitable health service resources that fit the characteristics of elders. Furthermore increased knowledge about the common cold in order to give the rightly care is needed. Besides it is important to give elders who have headache/migraine and dizziness, fainting, and epilepsy access to government health service resources.

Abstract: การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณเพื่อศึกษาการเลือกใช้วิธีการรักษาพยาบาลของผู้สูงอายุและปัจจัยที่เกี่ยวข้อง โดยใช้ข้อมูลของโครงการกาญจนบุรี รอบ 2 พ.ศ. 2544 กลุ่มตัวอย่างเป็น ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ตัวแปรตาม คือ วิธีการรักษาพยาบาล ส่วนตัวแปรอิสระ ประกอบด้วย เพศ กลุ่มอายุ สถานภาพสมรส ขนาดครอบครัว โครงสร้างครัวเรือน การศึกษา อาชีพ รายได้เฉลี่ยส่วนบุคคล เขตที่อยู่อาศัย เขตที่ตั้งของครัวเรือน ลักษณะการเจ็บป่วย กลุ่มโรค กลุ่มอาการ และอุบัติเหตุ ในการวิเคราะห์ใช้ค่าร้อยละ และค่า Chi-Squares จากตารางไขว้และใช้สถิติ Multinomial Logistic Regression ทดสอบปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อการเลือกใช้วิธีการรักษาพยาบาล ผลการวิเคราะห์ข้อมูลพบว่าการเลือกใช้วิธีการรักษาพยาบาลของผู้สูงอายุขึ้นอยู่กับลักษณะการเจ็บป่วยที่เกิดจากกลุ่มโรค กลุ่มอาการและอุบัติเหตุ นอกจากนี้เหตุผลหลักและการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจก็มีความสัมพันธ์กับการเลือกใช้วิธีการรักษาพยาบาลด้วย และปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อการเลือกใช้วิธีการรักษาพยาบาลโดยรวม คือ เพศ อายุ เขตที่อยู่อาศัย ลักษณะการเจ็บป่วยที่เกิดจากกลุ่มโรค กลุ่มอาการและอุบัติเหตุ จากข้อค้นพบที่ได้ชี้ให้เห็นว่าผู้สูงอายุเพศหญิงมีโอกาสเลือกไปโรงพยาบาลของรัฐและเอกชนมากกว่าผู้สูงอายุเพศชาย ในขณะที่เพศชายมีโอกาสเลือกซื้อยากินเองเพราะความเชื่อส่วนบุคคลมากกว่าเพศหญิง ส่วนผู้สูงอายุตอนปลายมีโอกาสเลือกไปโรงพยาบาลของรัฐและสถานีอนามัยมากกว่าผู้สูงอายุตอนต้น และจะมีลูกหลานร่วมในการตัดสินใจมากกว่าด้วย ส่วนผู้สูงอายุที่อยู่ในชนบทและเขตเทศบาลมีโอกาสเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลของรัฐใกล้เคียงกัน เพราะสามารถใช้สิทธิหรือบัตรประกันสุขภาพได้ สำ หรับผู้ที่เจ็บป่วยเป็นไข้หวัดมีโอกาสเลือกซื้อยากินเองเพราะความเชื่อส่วนบุคคลและความสะดวก/ใกล้บ้าน ในขณะที่ผู้สูงอายุที่เป็นโรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคความดันเลือด และโรคกระเพาะ/ลำ ไส้อักเสบ มีโอกาสเลือกไปโรงพยาบาลของรัฐสูงมากเพราะสามารถใช้สิทธิหรือบัตรประกันสุขภาพได้ ผู้สูงอายุที่เจ็บป่วยเนื่องจากกลุ่มอาการมีโอกาสเลือกซื้อยากินเองเพราะความเชื่อส่วนบุคคลและความความสะดวก/ใกล้บ้าน ส่วนผู้สูงอายุที่เจ็บป่วยจากอุบัติเหตุมีโอกาสไปโรงพยาบาลของรัฐสูงมากเช่นกันเพราะอาการหนัก/รักษาที่เดิมไม่หาย ข้อเสนอแนะ จังหวัดกาญจนบุรีจำ เป็นต้องจัดเตรียมสถานบริการรักษาพยาบาลเพิ่มให้เหมาะสมกับลักษณะการเจ็บป่วยของผู้สูงอายุ เพื่อรองรับปัญหาการเจ็บป่วยของผู้สูงอายุในอนาคตตามกลุ่มโรค กลุ่มอาการและอุบัติเหตุ พร้อมกับส่งเสริมให้ผู้สูงอายุที่มีอาการปวดศรีษะ/มึนศรีษะ/ไมเกรน และวิงเวียน/หน้ามืด/เป็นลมฯ สามารถเข้าถึงสถานบริการของรัฐให้มากขึ้น

Mahidol University

Address: NAKHON PATHOM

Email: liwww@mahidol.ac.th

Name: Yothin Sawangdee

Role: Thesis Advisors

Created: 2005

Modified: 2021-01-15

Issued: 2009-04-08

วิทยานิพนธ์/Thesis

application/pdf

ISBN: 9740462413

CallNumber: TH S959e 2005

eng

Spatial: Kanchanaburi

DegreeName: Master of Arts

Level: Master's Degree

Descipline: Population and Social Research

Grantor: Mahidol University

©copyrights Mahidol University

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	4536077.pdf	2.86 MB	108	2025-01-31 15:49:15

ใช้เวลา

0.320794 วินาที