พุทธศาสนากับความสำเร็จในการบริหาร กลุ่มสัจจะสะสมทรัพย์ : กรณีศึกษาเฉพาะอำเภอเมือง จังหวัดตราด

Name: กำธร อ่อนอินทร์

ThaSH: เศรษฐศาสตร์ - - แง่ศาสนา.

ThaSH: กลุ่มสัจจะสะสมทรัพย์.

Classification :.DDC: 294

Abstract: การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงสำรวจแบบตัดขวาง เพื่อศึกษาเรื่องพุทธศาสนากับความสำเร็จในการบริหารกลุ่มสัจจะสมทรัพย์ : กรณีศึกษาเฉพาะอำเภอเมือง จังหวัดตราด กลุ่มตัวอย่างเป็นสมาชิกกลุ่มสัจจะสะสมทรัพย์ ที่มีภูมิลำเนาอยู่ที่อำเภอเมือง จังหวัดตราด จำนวน 200 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามแบบสอบรายการ ซึ่งผ่านการตรวจสอบเนื้อหาและผ่านการทดลองใช้มาแล้ว ได้ค่าความเที่ยงของตัวแปรต่าง ๆ อยู่ระหว่าง 0.73 - 0.78 หลังจากเก็บข้อมูลแล้วนำมาวิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าไคสแควร์(X2- test) และค่าที (t - test) พบผลวิจัยดังนี้ สมาชิกส่วนใหญ่มีความเชื่อในเรื่องคุณธรรมสี่ประการตามหลักพระพุทธศาสนาเกินร้อยละ 95.0 ในเรื่องคุณธรรมสี่ประการตามหลักพระพุทธศาสนามีความเห็นด้วยที่จะยึดถือปฏิบัติตามสูงเกินร้อยละ 90.0 ในทุกด้าน ด้านความรู้ความเข้าใจเรื่องการออมทรัพย์และกู้ยืมเงินจากกลุ่มฯ สมาชิกสัจจะมีความเข้าใจเกินร้อยละ 90.0 ในทุกด้าน ความเห็นด้านภาวะผู้นำของผู้บริหารกลุ่มสัจจะ พบว่าสมาชิกมีความคิดเห็นเกี่ยวกับภาวะผู้นำของผู้บริหารกลุ่มสัจจะระดับมากที่สุดในเรื่องพระสงฆ์เป็นบุคคลที่ทำให้กลุ่มประสบความสำเร็จ ระดับมากในเรื่องสิ่งจูงใจที่ทำให้สมัครเป็นสมาชิกของกลุ่ม ฯ เพราะเห็นว่ามีพระสงฆ์เป็นผู้นำ ด้านความสำเร็จในการบริหารกลุ่มสัจจะ สมาชิกกลุ่ม ฯ ให้ความสำคัญระดับมากที่สุดในเรื่อง 1.ผลกำไรของกลุ่มสัจจะ ฯ ส่วนหนึ่งคืนสู่สมาชิกในรูปสวัสดิการ เช่น การรักษาพยาบาล เงินสงเคราะห์ญาติผู้เสียชีวิตเป็นสิ่งที่ดี 2.ฝากเงินสะสมประจำทุกเดือนหรือผ่อนชำระหนี้เงินกู้จากกลุ่มฯ ต้องฝากและส่งอย่างสม่ำเสมอ 3.การมีส่วนร่วมในการบริหารงานกลุ่ม ฯ เป็นสิ่งที่จะเอื้อให้การบริหารงานประสบความสำเร็จ ด้านการเปรียบเทียบกลุ่มขนาดใหญ่(กลุ่ม 1) และกลุ่มขนาดเล็ก(กลุ่ม 2) พบว่า ด้านคุณธรรมสี่ประการตามหลักพุทธศาสนาและด้านความรู้เกี่ยวกับกลุ่มสัจจะสะสมทรัพย์ในภาพรวมและรายด้านไม่มีความแตกต่างกัน ด้านภาวะผู้นำของผู้บริหารกลุ่มสัจจะสมทรัพย์โดยภาพรวมไม่มีความแตกต่างกัน รายด้านแตกต่างกันในเรื่อง 1.พระสงฆ์เป็นบุคคลที่ทำให้กลุ่ม ฯ ประสบความสำเร็จ 2.สิ่งจูงใจที่ทำให้สมัครเป็นสมาชิกของกลุ่ม ฯ เพราะเห็นว่ามีพระสงฆ์เป็นผู้นำ 3.ที่ปรึกษาของกลุ่มควรเป็นพระที่เคร่งวัตรปฏิบัติที่งดงามและเป็นพระนักพัฒนา โดยที่กลุ่มสัจจะที่มีขนาดใหญ่กว่ามีความเห็นด้วยเกี่ยวกับภาวะผู้นำของผู้บริหารกลุ่มสัจจะมากกว่ากลุ่มสัจจะที่มีขนาดเล็กกว่า ด้านความสำเร็จในการบริหารกลุ่ม ฯ ในภาพรวมและรายด้านที่แตกต่างกันในเรื่อง 1.การมีส่วนร่วมในการบริหารงานกลุ่ม ฯ เป็นสิ่งที่จะเอื้อให้การบริหารงานประสบความสำเร็จ 2.การที่กลุ่ม ฯ ส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ร่วมกัน เช่น การตรวจสอบระบบบัญชีแบบง่าย ๆ การทำเกษตรปลอดสารพิษ การใช้จุลอินทร์จากธรรมชาติทำให้มีความรู้เพิ่มขึ้น และ3.ควรมีการเผยแพร่ลักษณะการทำงาน การบริหารจัดการของกลุ่ม ฯ ให้แพร่หลายจะได้เกิดกลุ่มลักษณะดังกล่าวทั่วประเทศ ด้านความสัมพันธ์ระหว่างคุณธรรมสี่ประการตามหลักพระพุทธศาสนา ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกลุ่มสัจจะสะสมทรัพย์ และสถานภาพทางเศรษฐกิจและสังคมกับความสำเร็จในการบริหารกลุ่ม ฯ มีความสัมพันธ์ทางบวกอย่างนัยสำคัญกับความสำเร็จในการบริหารกลุ่ม กล่าวคือความสำเร็จในการบริหารกลุ่มสัจจะสะสมทรัพย์ขึ้นอยู่กับภาวะผู้นำของผู้บริหารกลุ่มสัจจะสะสมทรัพย์ ข้อเสนอแนะ 1. ควรมีการเผยแพร่ลักษณะการทำงาน การบริหารจัดการของกลุ่มสัจจะสะสมทรัพย์ให้แพร่หลายจะได้เกิดกลุ่มลักษณะดังกล่าวทั่วประเทศ 2.ควรให้สมาชิกมีส่วนร่วมในการบริหารกลุ่มสัจจะสะสมทรัพย์เพราะเป็นสิ่งที่จะเอื้อให้การบริหารประสบความสำเร็จ

มหาวิทยาลัยบูรพา. สำนักหอสมุด.

Address: ชลบุรี (Chonburi)

Email: buulibrary@buu.ac.th

Name: วรเดช จันทรศร

Role: อาจารย์ที่ปรึกษา

Name: เรณา พงษ์เรืองพันธุ์

Role: กรรมการ

Name: สุวรรณี แสงมหาชัย

Role: กรรมการ

Name: สุพจน์ บุญวิเศษ

Role: กรรมการและเลขานุการ

Created: 2545

Issued: 2550-07-14

Modified: 2550-07-27

วิทยานิพนธ์/Thesis

ISBN: 9749578643

CallNumber: 294.33785 ก573พ

tha

ไทย (ภาคตะวันออก)

ตราด

DegreeName: รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต

Level: ปริญญาโท

Descipline: นโยบายสาธารณะ

Grantor: มหาวิทยาลัยบูรพา

©copyrights มหาวิทยาลัยบูรพา

ลำดับที่.	ชื่อแฟ้มข้อมูล	ขนาดแฟ้มข้อมูล	จำนวนเข้าถึง	วัน-เวลาเข้าถึงล่าสุด
1	title.pdf	255.44 KB	212	2019-12-16 17:58:43
2	chapter1.pdf	222.06 KB	206	2018-05-15 20:46:35
3	chapter2.pdf	1.81 MB	278	2024-12-21 10:53:27
4	chapter3.pdf	135.57 KB	178	2019-10-26 14:46:45
5	chapter4.pdf	728.34 KB	200	2020-08-10 14:22:29
6	chapter5.pdf	344.87 KB	178	2018-05-15 20:46:45
7	bibliography.pdf	157.96 KB	161	2019-11-01 20:23:51
8	appendix.pdf	892.61 KB	186	2018-05-15 20:46:49

ใช้เวลา

0.03321 วินาที